บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“ผลประกอบการไตรมาสแรก...อันนี้สรุปแล้วใช่ไหมครับคุณวิ”

วิรงรองเหลือบตามอง ‘เจ้านาย’ ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับเขา

“ค่ะ ฝ่ายบัญชีสรุปมาให้ก่อนประชุมผู้ถือหุ้นศุกร์นี้ค่ะ”

“ขอบคุณมาก คุณไปทำงานต่อเถอะ”

มือเรียวได้รูปโบกเบาๆ ให้เธอ วิรงรองผงกศีรษะให้เขาน้อยๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งเจ้านายหนุ่มให้มองกวาดเอกสารในมืออย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกหน

ถึงจะได้น้อยกว่าปีก่อนนิดหน่อย แต่ในเศรษฐกิจแบบนี้ ก็ถือว่าผ่านล่ะนะ...

ชายหนุ่มนวดหัวคิ้วเบาๆ เขาคร่ำเคร่งมาสามสี่วันแล้วเกี่ยวกับเรื่องการสรุปยอดผลกำไรขาดทุน เมื่อผลของมันเป็นไปตามที่เขาคำนวณไว้คร่าวๆ ก็พานให้เบาใจ มารดาก็คงจะรู้สึกดีที่มันไม่ได้แย่นักหลังจากปล่อยให้บุตรชายบริหารอย่างเต็มมือคนเดียว

คนเดียว...

ธงลักษณ์ยิ้มนิดๆ เขามองที่มือของตนเองทั้งสองข้าง เกิดความภูมิใจในมัน และเกิดความเหนื่อยขึ้นมานิดหน่อย เมื่อต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเต็มตัวแบบนี้ แต่นั่นแหละ เหนื่อย ยาก แต่ก็ท้าทาย เขาเป็นคนชอบเอาชนะ การทำธุรกิจก็เหมือนการแข่งขัน ผลรางวัลคือผลประกอบการ และเขาก็คิดว่าตัวเองเข้าแข่งเวทีนี้ได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว

กิจการของครอบครัวคือกิจการของทั้งทางฝั่งบิดา และมารดา ของบิดาเองเป็นกิจการส่งออกพืชผลเกษตร ส่งไปทางแถบเอเชีย อินเดียเป็นคู่ค้าสำคัญ รองลงมาคือญี่ปุ่น ส่วนทางของมารดาเป็นกิจการเกี่ยวกับชิฟคอมพิวเตอร์ โรงงานอยู่แถบปริมณฑล แต่ตอนนี้ท่านได้หุ้นทำโรงงานกิจการอาหารกระป๋องกับเพื่อนสนิท ส่งออกทางประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว อยู่ตรงหนองคาย ทำให้เขาต้องเริ่มขึ้นล่อง กรุงเทพฯ หนองคายเพื่อตรวจงานในระยะเริ่มต้น ซึ่งก็ตั้งมาได้เกือบหนึ่งปีแล้ว แนวโน้มเป็นไปได้ดีพอสมควร ท่านเคยบอกว่าอยากให้พี่ชายแฝดของเขาไปจับธุรกิจตรงนี้ ถ้าเกิดไม่อยากทำธุรกิจของบิดา

อืม...

เขาเคาะนิ้วกับโต๊ะเบาๆ เมื่อนึกถึงพี่ชายฝาแฝดของตนอย่างธงราม พี่ชายที่มาจากไข่คนล่ะใบ เกิดมาก่อนเขาไม่กี่วินาที พวกเขาเป็นแฝดที่หน้าตาไม่เหมือนกันสักเท่าไหร่ นิสัยใจคอก็ด้วย นึกถึงพี่ชายแล้ว ธงลักษณ์ก็ยิ้มนิดๆ ถ้าหมอนั่นรู้ว่าแม่คิดจะทำให้ทำอะไรปีหน้า จะเต้นขนาดไหนกันนะ? ก็เจ้าตัวยังติดที่จะทำงานที่ตนเองชอบอย่างงานเขียนอยู่ สารภาพกับเขาเอาด้วยว่าเกลียดงานธุรกิจเป็นที่สุด มันจะรอดไหมล่ะ...หรืออาจจะไม่พ้นเขาอีกตามเคย ที่อาจจะอาสาไปช่วยประคองทำแทน แต่เขาก็มีแค่สองมือ ตอนนี้ก็เกือบจะล้นอยู่แล้วด้วย จะช่วยไม่ไหวเอา

ถึงเวลาก็ต้องว่ากันตามนั้นแหละนะพี่ชาย ช่วยได้เท่าที่ช่วยนี่แหละ

เขายักไหล่น้อยๆ ก่อนจะปิดแฟ้มเอกสาร เริ่มเปิด word พิมพ์หัวข้อการประชุมพรุ่งนี้ด้วยตนเอง เพื่อจะส่งเมลให้เลขานุการคู่ใจขยายความทำงานต่อ เขาเพลินกับงานจนเกือบถึงเวลาเลิกงาน ส่งเมลแล้วเรียบร้อย ก็บิดขี้เกียจน้อยๆ เสียงข้อความดังขึ้นถี่ๆ จากโทรศัพท์มือถือ เขาเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะคว้ามาดู ข้อความเหล่านั้นทำให้ชายหนุ่มมองข้ามผ่านไป ไม่ยอมตอบกลับอะไร เพราะเขาเหนื่อยเกินกว่าจะไปปาร์ตี้ ตามคำชวนของสาวๆ

พักนี้เขาอยากจะทำงานมากกว่า พักชื่อเสียงเรื่องแคสโนว่าไว้ก่อน คิดถึงคำที่สื่อมวลชนตั้งให้แล้ว...ก็หัวเราะเบาๆ เขามีอีกสารพัดฉายานั่นแหละ ในสังคม ทั้งที่ไม่ได้ไปอยู่วงการบันเทิงสักนิด แต่ก็ดันมีชื่อไปเอี่ยวพัน แคสโนว่าไฮโซ คือฉายาล่าสุด ทำยังกับว่าเขาบ้าผู้หญิงเปลี่ยนสาวบ่อยก็ไม่ปาน ชื่อเสียไปหมดแล้วนะนี่ เวลาจะเข้าหาสาวๆ คนไหน

คิดขำๆ แล้วก็เลื่อนนิ้วไล่ดูข่าวบ้าง ความเคลื่อนไหวบ้าง ของเพื่อนๆ ในโลกโซเชียล ธงลักษณ์มีโซเชียลไว้อ่าน มากกว่าจะเอาไว้ตั้งสเตตัสหรือลงรูปอะไรมากมาย เขากดค้นหาไปที่ชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เขามักจะทำเกือบทุกวัน...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องเข้าไปส่องหล่อนทุกวันแบบนี้ด้วยนะ

จันดาลี

ภาพผู้หญิงหน้าหวาน ตาของหล่อนสดใสเป็นประกาย จมูกโด่งปลายรั้นนิดๆ หล่อนกำลังยิ้มกว้างอวดลักยิ้มบุ๋มสองข้างแก้ม ริมฝีปากของหล่อนเป็นรูปกระจับ ตรงริมฝีปากบนบางโค้งราวคันศร ส่วนริมฝีปากล่างเต็มตึง...

หล่อนสวมเสื้อยืดสีขาวล้วน นุ่งซิ่นผ้าทอมือสีเขียวเข้มตรงเชิงปักลายเป็นเอกลักษณ์ของผ้าทางลาว สะพายกระเป๋าผ้าใบใหญ่ งานปักมืออีกเช่นกัน ภาพถ่ายเต็มตัวทำให้เห็นว่าหล่อนสวมรองเท้าผ้าใบ อืม...เป็นคนที่แต่งตัวได้มีเอกลักษณ์ของตัวเอง บอกอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ และสวมใส่มันได้อย่างลงตัวมากๆ

เขาไม่ใช่คนจะสนใจเรื่องแฟชั่น ติดตามใครเพราะไลฟ์สไตล์ เขาเป็นผู้ชาย เรื่องพวกนี้เขาไม่ค่อยจะไปเกาะติดอะไรนัก แต่...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องเปิดดูเธอทุกวัน นอกเหนือจากรูปสาวเซ็กซี่ที่เพื่อนซี้อย่าง อินทรชิต ขยันส่งมาให้ดูเหลือเกิน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ประหลาดล้ำส่วนตัว ยามไล่ดูรูปของจันดาลี แม่สาวน้อยข้างบ้านในอดีต เมื่อก่อนบ้านเธออยู่ติดกับบ้านเขา มุดรั้วไปมาหากัน หล่อนชอบวิ่งตามพี่ชายแฝดเขาจนเปียปลิว พี่ชายเขาเป็นมนุษย์ช่างเอาใจ และช่างดูแล เห็นทุกคนเหมือนเป็นน้องที่ตัวเองจะต้องดูแล ชวนเล่น ปกป้อง หาของให้กินอร่อยๆ เห็นน้องหัวเราะ มีความสุข นั่นแหละคือธงราม พี่ชายในฝัน

ส่วนเขา...บอกไม่ถูกว่าทำไมนึกหมั่นไส้ ยามแม่เด็กผมเปียตัวน้อย ยิ้มแย้มเต็มที่ให้กับธงราม แล้วมาทำหน้าบึ้งใส่เขา ก็เลยต้องแกล้งให้หล่อนร้องไห้ ก็จะได้สนใจเขาบ้าง...แล้วก็กลายเป็นนิสัยเสียๆ ที่เจอะเจอแม่ตัวน้อยทีไร ต้องหยอก ต้องแหย่ ต้องแกล้ง ธงรามที่รักน้องชายมากอย่างเขา ก็ยังลงโทษเขาเพราะแกล้งหล่อนร้องไห้ แต่มันกลับทำให้ธงลักษณ์ทำตัวโรคจิตมากขึ้น ด้วยการแหย่หล่อนมากขึ้น แกล้งหล่อนมากขึ้นทุกครั้งที่มีโอกาส

ก็...

ประทับใจเขาแบบแปลกๆ ยามเห็นหน้ากลมๆ นั่นมองเขาแล้วขึงตาใส่ หล่อนท้าวสะเอว แว้ดๆ ใส่เขาเลยล่ะเวลาเจอหน้า ขาสั้นๆ ก็วิ่งขยับหนีเขาปรู๊ด แต่ก็หลงกลเวลาเขาตะล่อมคุยดีด้วย ก่อนจะร้องไห้กลับบ้านไปฟ้องแม่อีกยามโดนเขาแกล้งเอา หล่อนถึงได้เรียกหาแจ้วๆ แต่อ้ายราม อ้ายราม แล้วพอเห็นหน้าอ้ายลักษณ์ ก็วิ่งหนีแจ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel