๒ ว่าที่สามี (๔)
ไม่มีข้อบกพร่องในตัวคนตรงหน้า แล้วดูท่าว่าจะรับมือกับกันต์กวีได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โอกาสงามเช่นนี้จะปล่อยให้พลาดไม่ได้
“ใช่ค่ะคุณน้า สองคนนี้ควรแต่งงานกันค่ะ ตกลงเลยค่ะพ่อ”
ดาหลาสนับสนุนเต็มที่ แต่ถูกมารดาส่ายหน้าให้หยุดพูด เรื่องนี้ปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกันหล่อนจึงต้องสงบเสงี่ยมเช่นเดิมแล้วนั่งลงข้างคุณย่า ลุ้นกับเหตุการณ์ตรงหน้าพอสมควรว่าจะออกหัวหรือก้อยกันแน่ ตนอยากให้พี่สาวสมหวังในรัก
ถึงตอนนี้กันต์กวีอาจยังไม่มีความรู้สึกรักใคร่ให้หวันยิหวา แต่ไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ไม่มีใครคาดเดาได้หรอก
“ยิหวา...หลานจะว่ายังไง อยากแต่งงานกับผู้ชายคนนี้หรือเปล่า” คุณพายัพเงียบไปสักพักแล้วถอนหายใจ ความจริงท่านก็ไม่อยากให้หลานแต่งงานกับกันต์กวีเท่าไหร่ ไม่ค่อยถูกชะตากับฝ่ายชายที่พูดจาขวานผ่าซาก
แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ...ถือคติปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่เสียด้วยสิ
คราวนี้สปอร์ตไลท์ถูกส่องมายังหวันยิหวา เธอนิ่งเงียบไม่กล้าจะสบตาชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยซ้ำ เม้มปากแน่นเป็นการตัดสินใจว่าควรจะเอาเช่นไรกับชีวิตของตัวเอง หล่อนเดินหน้าด้วยการจูบเขาก่อนจนเรื่องเลยเถิดมาขนาดนี้แล้ว
ควรไปให้สุดหรือเปล่า
เจ็บให้สุดจะได้ตัดใจง่าย อย่างไรก็ขอลองดูสักครั้งแล้วกัน
“แต่งค่ะ หวาจะแต่งงานกับเขา” ทุกคนตกตะลึงไปตามกันยกเว้นดาหลาที่ยิ้มกว้าง ภาคภูมิใจกับความกล้าของฝาแฝด หลังจากทำได้เพียงมองดูเขามาแสนนานตั้งแต่สมัยมัธยม
กันต์กวีเผยอปากค้างพูดอะไรไม่ออก ตกอยู่ในอาการตะลึงไม่คิดว่าเธอจะตอบตกลงแต่งงาน คิดว่าหญิงสาวจะปฏิเสธเสียอีก เมื่อเธอไม่ได้ชอบเขาแล้วทำท่าว่าจะเกลียดกันอีกต่างหาก แล้วเหตุใดจึงตอบตกลงแต่งงานล่ะ
ในตัวของชายหนุ่มตีกันยุ่งเหยิง สับสนจนไม่ได้ยินว่าคุณมุกดาพูดรวบรัดอย่างรวดเร็วกลัวว่าฝ่ายหญิงจะเปลี่ยนคำไม่ยอมให้แต่ง
“ดีเลยจ้ะ หนูยิหวาคิดถูกแล้ว...มุกขอเป็นคนจัดการทุกอย่างเองนะคะ ส่วนเรื่องฤกษ์เดี๋ยวมุกจะให้หลวงพ่อเป็นคนดูให้เอง ดวงสองคนนี้สมพงศ์กันอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แล้วก็ระหว่างนี้อยากให้หนูยิหวาไปนอนที่ฟาร์มด้วยกัน ถือเป็นการทำความรู้จักกันของบ่าวสาวให้แน่นแฟ้นมากกว่าเดิม”
ร่ายยาวจนฟังเกือบไม่ทัน คุณมุกดายิ้มแย้มบ่งบอกถึงความสุขที่ล้นอกกับการได้สะใภ้สายฟ้าแลบ ถึงลูกชายจะก่อเรื่องแต่คราวนี้ถือเป็นเรื่องดีสำหรับตน
“ผมว่าไม่...” คุณเมฆาคิดจะขัดแต่หวันยิหวาที่คิดจะเดินหน้าก็หวังจะไปให้สุดทางเช่นเดียวกัน ทิ้งความกลัวเอาไว้เบื้องหลัง เริ่มเดินเกมของตัวเองจึงจ้องตากับว่าที่สามีไม่ยอมหลบ อยากสื่อถึงความในใจของตัวเอง
ทว่าเขากลับคิดอีกอย่าง...เธอกำลังส่งสารท้ารบหรือเปล่า
“ตกลงค่ะ หวาจะไปอยู่บ้านคุณน้า”
“แม่จ้ะ ต่อจากนี้เรียกน้าว่าแม่นะ เพราะหนูคือลูกอีกคนของแม่แล้ว” รีบเปลี่ยนคำเรียกให้หญิงสาวอย่างรวดเร็วจนเธอทำหน้าไม่ถูก แต่ก็พยักหน้าทำตามความต้องการของท่านโดยเร็ว บ้านจิตติพัฒน์ต่างพูดไม่ออก มีเพียงจอมขวัญที่มองลูกสาวของตนไม่วางตา
เลี้ยงหวันยิหวามาแต่เด็กทำไมจะมองไม่ออก
หากไม่ชอบคงไม่ปล่อยให้เข้าห้อง ถ้าเกลียดคงไม่ตอบตกลงแต่งงานหรอก...เหมือนว่าลูกสาวผู้เย็นชาจะมีความรัก
“ขวัญยิ้มอะไร”
“ยินดีที่ลูกสาวจะออกเรือนไงคะ”
เมฆานั่งกำหมัดแน่นพอๆ กับณตะวันที่ใจอยากค้านแต่ก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ขนาดพ่อยังเงียบแล้วเขาจะมีสิทธิ์ไปขัดได้ยังไงล่ะ
“จิ๊” นึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม มองไปทางว่าที่ลูกเขยก็หัวเสีย
หวันยิหวาเอาจริงเหรอ ตกลงแต่งงานกับผู้ชายที่แทบไม่มีอะไรดีคนนี้เนี่ยนะ...ให้ตายเถอะเขาอยากจะแกล้งบ้าเสียเดี๋ยวนี้
ทะนุถนอมลูกสาวมาอย่างดี
กลับคว้าคนไม่เอาถ่านเป็นสามีเสียอย่างนั้น