๑ ยุขึ้นจนได้เรื่อง (๓)
“งั้นตอนนี้ก็คุยสิ กวีกลับมาอยู่บ้านแล้วนะ วันนี้ยิหวาก็เก็บเสื้อผ้าไปไร่ด้วยกันดีไหม ไหนๆ พ่อก็อนุญาตให้ลาพักตั้งหนึ่งสัปดาห์แล้ว...หรือจะพักนานกว่านั้นก็ได้” รีบเดินเข้ามายืนข้างพี่สาวและแตะไหล่คนที่ทำทีไม่สนใจ แต่หูก็ฟังทุกอย่างแล้วคิดตาม
“ไม่ไป งานตั้งเยอะจะทิ้งได้ไง”
“โธ่ คุณเลขาก็อยู่จัดการให้แล้ว ไม่ต้องเข้ามาทำงานเองยังได้เลย...ไปด้วยกันเถอะ”
“ไม่เอา อยากทำงาน” ดาหลามองคนปากแข็งด้วยความหมั่นไส้
ความรักที่คนตรงหน้าเก็บไว้ตลอด ไม่เคยปริปากบอกใครหากหล่อนไม่เข้าไปเห็นเองก็คงไม่รู้เรื่องหรอก คนอะไรเก็บความรู้สึกเก่งชะมัดเลย
“ตามใจนะ กะว่าจะชวนไปฟาร์มม้าของกวีสักหน่อย สงสัยต้องไปกับลูกแค่สองคนแล้ว เฮ้อ เหงาจังเลย” ว่าจบก็เดินกลับไปที่โซฟายาวตัวเดิม ปล่อยให้หวันยิหวานั่งนิ่งแล้วไตร่ตรองสิ่งที่น้องสาวฝาแฝดพูด เอกสารตรงหน้าเปิดค้างเอาไว้
ปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันบ่งบอกว่ากำลังทะเลาะกับตัวเองอย่างหนัก คนหย่อนระเบิดไว้แอบอมยิ้มมีความสุข
อย่างนี่แหละน่า...คนปากไม่ตรงกับใจ
แอบชอบเขาแต่ไม่กล้าเดินเข้าหาสักที คนลุ้นก็แสนจะเหนื่อย
“ดูก่อนแล้วกัน ถ้าว่างจะไปด้วย” ได้ยินอย่างนั้นดาหลาก็ยิ้มกว้าง รู้ทันทีว่าพี่สาวหมายความเช่นไร จึงพยักหน้ารับทราบก่อนลุกจากโซฟาแล้วเดินออกจากห้องของหวันยิหวา
“ไปหาพุดดีกว่า ไม่อยากกวนคนที่รักงานยิ่งชีพแล้ว...เชิญทำงานตามสบายเลยนะคะพี่ยิหวา” นึกเหนื่อยหน่ายเมื่ออีกฝ่ายเดาความรู้สึกของเธอออกหมดทุกอย่าง พยายามตีหน้านิ่งแล้วแต่ไม่เป็นผลสักนิด ความรู้สึกก็ปกปิดไว้อย่างดี แต่กลับหลอกแฝดน้องไม่ได้
เกลียดตัวเองเสียจริง...ที่ยังคงชอบเขาไม่เปลี่ยน
ถ้าตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรกับกันต์กวีแล้วคงปฏิเสธคำพูดของดาหลาได้ชัดเจน แต่เพราะยังรู้สึกจึงพูดได้ไม่เต็มปาก ความผิดทุกอย่างต้องโทษเขาคนเดียว ทำไมถึงทำให้เธอรักได้มากขนาดนี้แม้จะไม่เคยคุยกันต่อหน้าอย่างจริงจังสักครั้ง
“คุณแก้มคะ...คือว่าอยากรบกวนอะไรหน่อยค่ะ” นั่งคิดและตีกับตัวเองสักพัก จึงตัดสินใจเดินออกมาหน้าห้องแล้วคุยกับเลขาคนสนิทของตัวเองที่อายุมากกว่าเกือบรอบ ทำงานเก่งเป็นคนรอบคอบ เหมือนพี่สาวมากกว่าเจ้านายลูกน้องเสียอีก
“ค่ะ ว่ามาได้เลย”
“หวา...ขอลางานสักเดือนได้ไหมคะ”
“คะ คุณยิหวาจะไปไหนเหรอคะ”
คนรักการทำงานเป็นชีวิตจิตใจ มาทำงานกระทั่งวันหยุดจะขอลางานหนึ่งเดือน เผลอทำปากกาตกจนต้องก้มลงเก็บ แล้วรีบถามด้วยความสงสัย
“ไปพักผ่อนค่ะ คุณแก้มพอจะช่วยได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ! พี่อยากให้คุณยิหวาพักบ้างเห็นทำงานติดต่อกันมาหลายปีจนจะเป็นพนักงานดีเด่นแล้ว เรื่องงานไม่ต้องห่วงพี่จัดการเอง ถ้ามีอะไรสำคัญพี่จะโทรบอกแล้วก็ส่งอีเมลรายงานทุกวัน ไม่ต้องเป็นห่วงงานนะคะ” เหมือนอีกฝ่ายจะสนับสนุนการพักของเธอเต็มที่
“ขอบคุณค่ะ”
หล่อนกลับไปเคลียร์งานของตัวเอง หวันยิหวาไม่เคยมีงานค้าง เธอมักจะทำให้เสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ตะวันตกดินพร้อมเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงหยิบมาดูชื่อโทรเข้า พบว่าเป็นมารดาก็รับสายทันที
“กำลังจะกลับค่ะแม่” ถึงปลายสายจะยังไม่ถาม แต่เธอรู้ดีว่าท่านโทรเรียกกลับบ้านเพราะอยากกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ร่างบางจึงปิดคอมพิวเตอร์แล้วเก็บของทุกอย่างบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ หยิบกระเป๋าราคาหลายหมื่นขึ้นมาสะพายก่อนออกจากห้องทำงาน
เธอบอกเลขานุการให้กลับก่อนไม่ต้องรอ เพราะรู้ดีว่าตัวเองกลับบ้านค่ำ จนช่วงหลังคุณจอมขวัญเป็นห่วงลูกสาวมักจะโทรตามให้กลับบ้านตลอด
‘รอนะจ๊ะ’
“ค่ะ” วางสายแล้วขับรถกลับบ้านทันที
พรุ่งนี้และนับจากนี้ไปอีกหนึ่งเดือนหล่อนจะหยุดงานเพื่อพักผ่อน ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น แล้วจะเริ่มต้นเรื่องของเราอย่างไรเมื่อตนไม่กล้ากระทั่งจะชวนอีกฝ่ายคุย แต่ที่มั่นใจคือไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียเปล่าอีกแล้ว
เธอควรเริ่มทำตามหัวใจตัวเองสักที
ชายหนุ่มสามคนนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าคอกม้าตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดินจนถึงพระจันทร์ขึ้นตั้งตรงศีรษะ โอ่งดินสำหรับใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หมดไปแล้วหลายไห หมักมาเป็นปีเพิ่งได้เปิดดื่มวันนี้เอง รสชาติขมปร่าแต่เพียงแตะปลายลิ้นก็หวานชวนลิ้มลอง จนตอนนี้ไม่อาจหยุดเพียงแค่ไหแรกได้ ดื่มมาเรื่อยๆ พร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
การกลับมาของอดีตสถาปนิกทำให้เพื่อนอีกสองคนที่เปรียบเสมือนมือซ้ายขวานัดกินเลี้ยงกันแทบทุกวัน เขาก็ไม่ปฏิเสธเพราะชอบการสังสรรค์เป็นทุนเดิม กับแกล้มที่แม่บ้านทำมาให้หมดไปหลายจาน แต่กลุ่มก็ยังเหนียวแน่นไม่มีทีท่าว่าจะสลายแต่อย่างใด
ยิ่งดึกก็ยิ่งคึกมากกว่าเดิม หนุ่มคอทองแดงอย่างกันต์กวีหน้าแดงก่ำ ตามลำคอก็ขึ้นสีไม่ต่างจากใบหน้า กระนั้นเขายังปากดีบอกว่าตัวเองไม่เมา ต่างจากเพื่อนอีกสองคนที่นั่งไม่ตรง หัวโงนเงนกลัวจะทิ่มลงพื้นอยู่รอมร่อ
“เออๆ วันก่อนกูเจอดาหลาด้วย สวยฉิบหาย ขนาดแม่ลูกหนึ่งแล้วนะยังดูไม่ออกเลย หน้าหวานผิวขาว...โคตรสวย เห็นว่าตอนนี้มาอยู่ที่ไร่แล้วด้วย อยากเจออีกเลยว่ะ” พูดถึงเรื่องสมัยมัธยมทำให้ร่างสูงคิดออกว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเจอคนสวยของโรงเรียน เพื่อนที่เหลือจึงทำตาลุกวาว
“จีบๆ มึงจีบเลยสิ รอเหี้ยไรอยู่ เอิ้ก” คนเมารีบยุเพื่อนแล้วสะอึกเมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าปากเยอะเกินไป
“จีบกับผีสิ พี่เขาตามติดเป็นเงา” พูดแล้วก็เสียดาย อุตส่าห์จะขอเบอร์หล่อนได้แล้วเชียวแต่มีคนมาขัดซะก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้จีบดาหลาไปแล้ว
“ไปตอนนี้เลย จีบไม่ได้ก็ปีนเข้าห้องจับทำเมีย”
ป้าบ