10 ไม่ใช่คนแปลกหน้า
แสงแดดสาดส่องลอดผ้าม่านสีเข้มที่ปิดไม่สนิท เข้ามาในห้อง ปลุกให้เด็กหญิงตัวน้อยที่นอนหลับในที่ไม่คุ้นเคย รู้สึกตัวขึ้น หันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่ใช่ห้องที่ตนเคยนอนกับแม่ ก็รีบปลุกแม่ที่นอนอยู่ข้าง ๆ กันทันที
“คุณแม่ขา ตื่นได้แล้วค่ะ เราอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”
“ขอแม่นอนต่ออีกหน่อยนะคะ” น้ำเสียงงัวเงียตอบกลับลูกสาวไป เมื่อวานเธอทำงานทั้งวัน ตกกลางคืนก็ยังถูกเขาใช้ให้เอาเอกสารให้ ทำข้าวต้มให้ เธอขอนอนเอาแรงอีกหน่อยก็แล้ว
“ตื่นมาบอกพระพายก่อนก็ได้ค่ะ ว่าที่นี่ที่ไหน”
“ที่คอนโดเราไงคะ” น้ำเสียงงัวเงียตอบลูกสาวกลับไป ส่วนเด็กหญิงที่ได้ยินแบบนั้น ก็พยายามนึกเอาเองว่าที่นี่ที่ไหน ก่อนจะนึกไปถึงเหตุการณ์ครั้งล่าสุด ว่าแม่พาเธอมาที่คอนโดเจ้านายของแม่ เพื่อเอาเอกสารมาส่ง เพราะฉะนั้นที่นี่อาจจะเป็นห้องของเจ้านายแม่ก็เป็นได้ คิดได้แบบนั้น ดวงตากลมก็กวาดมองทุกสิ่งทุกอย่างรอบ ๆ ตัวอย่างสำรวจ แต่พอเห็นแต่ของโทนสีดำเทา ไร้สีสัน ใบหน้าหวานก็เรียบนิ่ง
ก่อนจะเริ่มเดินสำรวจไปทั่ว เห็นประตูห้อง ที่ปิดอยู่ ก็เปิดเข้าไปด้วยความสงสัยทันที ก่อนร่างเล็ก ๆ จะค่อย ๆ ย่องเบา ๆ เมื่อเห็นว่ามีคนนอนอยู่บนเตียง
ด้านคนที่นอนหลับอยู่นั้น เมื่อได้ยินเสียงประตูก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง หันมองไปทางประตู
“ค คุณลุง!!” เสียงเล็กตะกุกตะกักทันที เมื่อเห็นคนตรงหน้า คุณลุงที่เธอตามหามาตลอด เพื่อจะขอบคุณและคืนเงิน
“ทำไมคุณลุงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ”
“นี่คอนโดลุงค่ะ” ภรัณยูที่หัวเร็ว เข้าใจสิ่งที่เด็กหญิงถาม ตอบกลับไป แกคงจะสงสัยว่าทำไมคุณลุงที่แกเจออยู่ที่โรงพยาบาลมาอยู่ที่นี่ได้สินะ ในตอนแรกเขาเองก็สงสัยเหมือนกัน ว่าทำไมเด็กผู้หญิงที่เขาเจอที่โรงพยาบาล กลายเป็นลูกของแฟนเก่าของเขาได้
“แสดงว่า แสดงว่าคุณลุงเป็นเจ้านายของคุณแม่หรอคะ” หนูน้อยว่าขึ้นก่อนจะหันมองไปยังห้องนอนที่ตัวพึ่งเดินออกมา สลับกับมองหน้าคุณลุงใจดีของตน
“ค่ะ” เจ้าของห้องตอบรับ ก่อนจะถามว่าทำไมหนูน้อยถึงได้มาอยู่ห้องนอนอีกห้องที่เขานอนอยู่ได้
ถามไปถามมาก็ได้ความว่าเจ้าตัวตื่นมานานแล้ว ปลุกแม่ แม่ก็ไม่ยอมตื่น จึงเดินเล่น สำรวจนั่นนี่ จนมาเจอกับเขาที่พึ่งตื่นพอดี
“พระพายขอบคุณคุณลุงนะคะ ที่ให้พระพายยืมเงินวันนั้น เดี๋ยวถ้าคุณแม่ตื่นพระพายจะขอเงินคุณแม่มาคืนคุณลุงนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าลุงเลี้ยงก็แล้วกัน”
“แต่คุณแม่ไม่ให้พระพายรับของจากคนแปลกหน้า”
“ลุงชื่อกร เราชื่อพระพาย ตอนนี้เรารู้จักกันแล้ว ไม่แปลกหน้าแล้ว ตกลงไหมคะ”
“คิก ๆ ตกลงค่า” หัวเราะได้ไม่ทันไร ท้องเล็ก ๆ ก็ร้องประท้วง เด็กหญิงจึงยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้คุณลุง
“แฮะ พระพายหิวนิดหน่อยค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวลุงทำกับข้าวให้กินรองท้องไปก่อนดีไหมคะ”
“ดีค่า คุณลุงน่ารักที่สุด”
ว่าแล้วสองลุงหลานก็พากันเดินเข้าครัว ก่อนคนที่แทนตัวเองว่าลุงจะเริ่มประกอบอาหาร นั่นคือไข่เจียว ให้เด็กหญิงตามสัญญา
ใช้เวลาไม่นานไข่เจียวก็ถูกตักใส่จาน ส่วนข้าวนั้นไม่ต้องหุงเพราะเขาซื้อข้าวแบบสำเร็จมาไว้ เวฟทานได้เลย
ดวงตากลมใสมองข้าวไข่เจียวที่ไม่เหมือนไข่เจียวตรงหน้า พยายามคิดว่าถึงหน้าตาไม่ดี รสชาติอาจจะดีก็ได้ ก่อนจะตัดสินใจใช้ช้อนตักขึ้นมา
“เป็นไงคะ อร่อยรึเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างลุ้น ๆ เพราะเขาไม่ได้ทำอาหารให้ใครกินนานแล้ว นอกจากตัวเอง คนที่กินอาหารฝีมือเขาล่าสุด เห็นจะเป็นแม่ของเด็กหญิงตรงหน้าเขา คนที่ได้รับกินอาหารฝีมือเขาคนแรกในรอบหลายปี
“มันจืดค่ะ” หลังจากกินไปหนึ่งคำเด็กหญิงก็วางช้อนลง ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริงคุณลุงไป เธอส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้คุณลุงใจดี ที่อุตส่าห์ตั้งใจทำไข่เจียวให้ อย่างที่รู้ว่าเธอติดฝีมือของแม่มาก เพราะงั้นถ้าอาหารไม่ถูกปากจริง ๆ เธอก็จะไม่กิน เธอเลือกหิ้วท้องรอแม่ทำให้กิน
“ลุงขอโทษนะ ไว้ลุงจะสั่งอาหารให้ พระพายรอก่อนนะ” เห็นหน้าตาของเด็กหญิงเขาก็รู้ในทันทีว่าคงไม่ถูกปากของเด็กหญิง ปกติแล้วเขาก็ทำไข่ดาว ไข่เจียว ง่าย ๆ กิน ไม่ปรุงแต่งอะไร เพราะถ้าปรุงแล้วเขารู้ตัวว่ามันจะแย่กว่าเดิม กินจืด ๆ เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แต่ดูเหมือนหนูน้อยจะสามารถทานได้จริง ๆ คิดแบบนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมกดแอปสั่งอาหารให้หนูน้อยทันที แต่มือหนาต้องชะงักเพราะเสียงร้องห้ามของเด็กหญิง
“คุณลุงจะสั่งอาหารหรอคะ”
“ค่ะ”
“ถ้าคุณลุงจะสั่งคุณลุงไม่ต้องสั่งเผื่อพระพายนะคะ พระพายไม่กิน”
“ทำไมล่ะคะ พระพายไม่หิวหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“หิวค่ะ แต่ถ้าสั่งมาพระพายก็ไม่กินเหมือนเดิม พระพายชอบกินอาหารฝีมือคุณแม่” ว่าแล้วก็มองไปยังห้องที่ผู้เป็นแม่นอนอยู่ตาละห้อย
หวังให้แม่ตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ เพราะตอนนี้เธอหิวไม่ไหวแล้ว
“ถ้างั้น กินขนมไหมคะ”
“ขนมหรอคะ” พอได้ยินเรื่องขนม ดวงตากลมใสที่เคยดูเศร้า เป็นประกายขึ้นมาในทันที
“ใช่ค่ะ พระพายอยากกินรึเปล่า”
“อยากกินค่ะ พระพายอยากกิน” น้ำเสียงตื่นเต้นยินดีเอ่ยตอบ
“งั้นเรามาสั่งกันดีกว่าค่ะ” โทรศัพท์เครื่องหรูเปิดเข้าแอปก่อนจะยื่นให้เด็กหญิงพร้อมกับถามว่าใช้เป็นไหม พอแกตอบว่าใช้เป็น เขาก็ให้แกกดเลือกได้ตามสบาย โดยที่เขานั่งมองอย่างยิ้ม ๆ ไม่รู้ว่าทำไม คงเป็นเพราะเขารู้สึกถูกชะตาในความน่ารักสดใสของแกละมั้ง
“พระพายเลือกเสร็จแล้วค่ะ คุณลุงจะเอาอะไรไหมคะ”
“ไม่ค่ะ ลุงไม่ค่อยหิว”
ขนมมากมายที่สั่งใช้เวลาไม่นานก็ได้รับ เพราะคอนโดที่เขาอยู่นั้นอยู่ใจกลางเมือง
“อร่อยไหมคะ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม คนตัวเล็กที่กำลังตั้งใจตักไอศกรีมกิน ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนยิ้มอยู่ตลอด
ส่วนคนที่กินไอศกรีมอยู่เพียงพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับเท่านั้น ก่อนจะยื่นอีกถ้วยให้คุณลุง
“พระพายกินเถอะ ลุงไม่หิว”
สองลุงหลานนั่งกินขนมกันอยู่ห้องนั่งเล่น พร้อมกับดูการ์ตูนไปด้วย อยู่ครู่ใหญ่ กินจนเริ่มอยู่ท้องแล้วคนเป็นหลานก็เริ่มชวนคุย
“คุณลุงขา”
“ว่าไงคะ”
“วันพฤหัสหน้าที่โรงเรียนพระพายมีกีฬาสี คุณลุงอยากไปไหมคะ”
“คะ?” ได้ยินเด็กหญิงเอ่ยชวน ภรัณยูก็เลิกคิวขึ้นทันที ไม่ใช่ว่าตอนนี้เขากำลังถูกเด็กหญิงชวนไปงานกีฬาสีโรงเรียนหรอกหรือ
“คุณครูบอกว่าให้ชวนผู้ปกครองไปด้วยน่ะค่ะ พระพายชวนคุณแม่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าคุณแม่จะว่างรึเปล่า พระพายก็เลยชวนคุณลุงด้วย” เธออธิบาย เพราะคุณลุงบอกว่าระหว่างเราไม่ใช่คนแปลกหน้า และเธอก็รู้สึกสนุกที่ได้พูดคุย ได้เล่นกับคุณลุง งั้นชวนคุณลุงด้วยก็คงไม่เป็นไร
“ลุงขอดูก่อนนะคะ ถ้าว่างลุงจะไป”
“ขอบคุณนะคะ” ยิ้มแฉ่งจนตาหยีส่งให้
ด้านคนที่ได้รับรอยยิ้ม ก็ยิ้มตาม ใครจะไปคิดว่าแผนการที่เขาคิดมากลั่นแกล้งเธอเล่น ๆ จะทำให้เขาได้มีโอกาสเล่นกับหนูน้อยที่มีแต่ความสดใสและรอยยิ้ม ที่เต็มไปด้วยพลังบวกส่งให้แบบนี้
ย้อนไปเมื่อคืน
หลังจากที่เขาโทรบอกเธอให้ไปเอาเอกสารที่บริษัทให้แล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลับมารอที่ห้อง เขาวนรถกลับไปยังบริษัท ก่อนจะเอาเอกสารฝากไว้กับรปภหน้าบริษัท
“ฝากให้เลขาผม”
“ครับ?”
“เอาให้เลขาผม แล้วบอกเธอว่าให้เอาไปให้ผม” เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไรต่อ เขาก็รีบยัดเอกสารใส่มือของอีกฝ่าย ก่อนจะเลื่อนกระจกรถขึ้น แล้วขับมาจอดอยู่ไกล ๆ เผื่อเฝ้ามองอย่างไม่รู้ว่าทำไม พอเห็นว่าเธอมาถึงพร้อมกับลูก เขาก็ขับรถกลับคอนโด
“ไม่ต้องถาม ทำตามที่ผมสั่งก็พอ”
หัวข้อสนทนาแรกพึ่งจบไป ยังไม่ทันจะได้เริ่มไหม บุคคลที่สามก็เดินเข้ามา ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแม่ของเด็กหญิงนั่นเอง
“พระพาย”
“คุณแม่ขา ตื่นแล้วหรอคะ” เห็นแม่เดินเข้ามา ก็รีบขยับตัวลงจากโซฟาแล้วเดินไปหาทันที
“ค่ะ แม่ตื่นแล้ว” เสียงหวานตอบรับลูกสาว ก่อนจะหันไปหาเจ้าของ เพื่อเอ่ยขอโทษเรื่องที่เธอตื่นสาย และเรื่องที่ลูกกวนเขา
“ไม่เป็นไร พระพายไม่ได้กวนอะไรผม” เขาตอบ
“หิวรึยังคะ” ชาลิสาก้มหน้าถามลูกสาวตัวน้อยของเธอ
“เมื่อกี้พระพายกินขนมกับคุณลุงแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับบ้านกันค่ะ ไปสวัสดีคุณลุงสิคะ”
“กลับแล้วหรอคะ”
“ใช่ค่ะ วันนี้เราต้องเยี่ยมคุณตาที่โรงพยาบาลด้วย” พูดกับลูกเสร็จก็หันไปพูดกับเขา
“ขอบคุณนะคะเรื่องห้องนอน แล้วก็ที่ช่วยดูพระพาย”
“ขอบคุณนะคะคุณลุง” แม้จะไม่อยากกลับ แต่เมื่อแม้จะกลับก็เลี่ยงอะไรไม่ได้ อีกอย่างเธอก็ต้องไปเล่นกับคุณตาที่ป่วยอยู่ด้วย
“เดี๋ยวผมไปส่ง” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดไปแบบนั้น แต่ปากมันก็พูดออกไปแล้ว ก็ได้แต่นั่งรอคำตอบว่าเธอจะตกลงหรือไม่
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” แน่นอนว่าเธอตัดไมตรีเขาเหมือนเคย
“คุณแม่ขาให้คุณลุงไปส่งนะคะ พระพายไม่อยากนั่งรถเมล์คนเยอะ ๆ รถไฟฟ้าด้วย”
“เดี๋ยวเรานั่งแท็กซี่กลับกันค่ะ คนไม่เยอะมีแค่เรา”
“จะเรียกแท็กซี่ให้เปลืองทำไม เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไปค่ะพระพาย ลุงไปส่ง” ว่าแล้วก็เดินไปหยิบกุญแจรถ ก่อนจะกวักมือเรียกให้เด็กหญิงเดินตามมา สุดท้ายเธอก็ต้องยอมให้เขาไปส่งในที่สุด
ทั้งที่พยายามหนีห่างจากเขา พาลูกออกมาให้ไกลจากเขา แต่ทำไม... มันเหมือนยิ่งใกล้เขามากขึ้นไปทุกที ทำไมกัน...
