ตอนที่ 7 ปรารถนา
"ไม่เป็นมากหรอก แต่ช่อดอกไม้นี่สิ ฉันไม่อยากรับเอง กลัวมีภาพหลุดคนเอาไปเล่นข่าวอีก" กุหลาบขาวช่อนี้ทำให้แพรรดาคิดหาทางออกได้ยาก
คนที่ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวต้องขึ้นไปกล่าวอวยพรเจ้าภาพบนโพเดียม หากทำแบบนั้นอาจจะสุ่มเสี่ยงโดนแอบถ่ายนำไปทำข่าวใส่สีตีไข่อีกก็ได้ แพรรดาจึงมีความระแวดระวังตัวเป็นพิเศษ
"ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจแก เอามาให้ฉัน ฉันจะจัดการเอง" ราตรีเพิ่งตระหนักได้ไม่น่าลากแพรรดามายืนรอรับช่อดอกไม้จากพี่สาวของหล่อนด้วยเลยตั้งแต่แรก จนลืมนึกถึงผลกระทบอื่น ๆ ที่ ตามมาภายหลัง แพรรดาส่งช่อกุหลาบให้กับราตรี ซึ่งหล่อนถือไว้ด้วยตัวเอง
"ขอบใจนะ" ดาราสาวคลี่ยิ้มหวานรู้สึกโล่งอกเมื่อแขกเหรื่อปรบมือรัว ๆ หันกลับไปสนใจคู่บ่าวสาวบนเวที ก่อนราตรีจะก้าวขึ้นโพเดียม เพื่ออวยพรพี่สาวกับพี่เขยเมื่อพิธีกรของงานเรียกหา
ซึ่งแพรรดาเพิ่งรู้ตัว เธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เพียงคนเดียวโดด ๆ ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มนักธุรกิจ เขาคือคนที่ช่วยเธอจากอุบัติเหตุเจ็บตัว ขายขี้หน้าคนในงาน
"เอ่อ...คุณเป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าวเหรอคะ"
งานถนัดแพรรดาคือเข้าหาคนอื่นเป็นอย่างมีชั้นเชิง เมื่อมาออกงานข้างนอกพบเจอสังคม เธอกลายเป็นผู้หญิงสัมพันธไมตรียอดเยี่ยม ภายนอกดูเข้าถึงได้ง่ายไม่ให้คนรอบข้างรู้สึกอึดอัด เธอยิ้มแป้นยามพูดขึ้น แต่ภายใต้ความสดใสนั่นกลับซ่อนความเย่อหยิ่ง พยศเอาไว้
เมื่อสังเกตดี ๆ แพรรดาจึงทราบว่า เขาเป็นใคร 'ณภัทร หิรัญฤกษ์พิพัฒน์' นักธุรกิจทรงอิทธิพลในประเทศนี่เอง
"ใช่ครับ ไม่คิดว่าดาราสาวคนดังที่กำลังเป็นกระแสอย่างคุณแพรรดาจะมาร่วมงานวันนี้ด้วย" ณภัทรตอบ ยืนล้วงถุงกางเกงอย่างไว้ท่า แม้สาวสวยตรงหน้าที่หมายตาเป็นฝ่ายเข้ามาทักเขาก่อน
ไม่มีใครไม่รู้จักเธอ 'แพรรดา' ดาราสาวมากความสามารถ โดดเด่นในการแสดงละคร หุ่นที่เพอร์เฟ็กต์ต่อการเดินแบบ แต่เสียเพียงอย่างเดียว ข่าวเสียหายของเธอมีมากจนไม่น่าชื่นชมเสียเท่าไหร่นัก นั่นล่ะคือสิ่งที่ณภัทรต้องการ อยากลองนักว่าจะเด็ดสมข่าวลือหรือเปล่า?
"มันทำไมเหรอคะ" คิ้วสวยขมวดนิดหน่อย ฟังแล้วราวกับเขาประชดประชันเธออย่างไรอย่างนั้น
"แค่แปลกใจนิดหน่อยปกติเวลาเป็นข่าวคุณจะไม่ปรากฏตัวเลยนี่"
"คุณดูรู้จักฉันดีจังนะคะ" เป็นจริงอย่างที่ณภัทรว่า ทุกครั้งที่แพรรดาเป็นข่าว เธอไม่เคยปรากฏตัวข้างนอกให้เห็นง่าย ๆ ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครสามารถตามตัวเธอได้ และไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกช่องทาง ใช้แผนเดิมด้วยการรอให้กระแสเงียบลง เอาข่าวอื่นขึ้นมากลบทับประเด็นอันดุเดือด
พวกสื่อตัวร้ายกับเหล่าแอนตี้โจมตีหลายต่อหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน พอเรื่องเงียบก็เป็นข่าวใหม่อีกครั้งในรอบหนึ่งเดือน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
แพรรดาแอบแปลกใจเล็กน้อยเมื่อนักธุรกิจหนุ่มทราบถึงการเคลื่อนไหวของเธอ ไม่คิดว่าเขาจะตามข่าววงการบันเทิงน้ำเน่านี่ด้วย แถมพูดอย่างกับติดตามข่าวเธอมาดี
"ถ้าเกิดสนใจอะไรแล้วฉันรู้หมดนั่นล่ะ"
"คะ...คุณว่ายังไงนะคะ" แพรรดาชะงัก ทวนถามอีกครั้ง หากณภัทรยกยิ้มมุมปากแทนคำตอบ เธอไม่เข้าใจนัก เขาหมายความว่ายังไง หมายถึงสนใจเธออย่างนั้นน่ะหรือ เธอไม่ได้เข้าข้างตัวเองใช่ไหม?
ภายหลังที่ราตรีก้าวลงจากเวที บริกรหนุ่มรีบวิ่งเข้ามากระซิบกระซาบกับหล่อน สีหน้าหญิงสาวตื่นตระหนกไม่น้อย แล้วสนทนาบางสิ่งกับบริกรด้วยเสียงเบา เพราะกลัวว่าแขกรอบข้างจะได้ยินเข้า
เพียงไม่นานทั้งสองคนแยกตัวจากกัน เดินไปคนละเส้นทาง ซึ่งราตรีตรงมายังแพรรดา ที่ตอนนี้เหมือนกำลังพูดคุยกับบุรุษในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เลือกคุยถูกคนเสียด้วยนั่นมันตัวพ่อแห่งวงการธุรกิจ แถมเจ้าชู้ที่สุดในหมู่สหายของพี่เขยเลยก็ว่าได้
"แพร" ราตรีเอ่ยเรียกเพื่อนสนิท สีหน้าท่าทางตื่น ๆ ทำให้ณภัทรกับแพรรดาใคร่อยากรู้
"แกมีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำหน้าแบบนั้น"
"ฉันไม่รู้ว่าใครส่งข่าวให้พวกนักข่าว ตอนนี้พวกเขารออยู่หน้าโรงแรมแล้ว พยายามจะขึ้นมาบนนี้ให้ได้ แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตน่ะสิ!" ราตรีนำข่าวจากบริกรหนุ่มเมื่อครู่มาบอกต่อ ขืนแพรรดาออกจากงานเมื่อไรนักข่าวได้รุมทำข่าวแน่ ๆ
"ใครมันจ้องจะเล่นงานฉันเนี่ย ทำไมกัดไม่ปล่อยสักที" ดาราสาวเริ่มฉุนเฉียวหากไม่มีสายข่าวรายงานจากผู้ไม่หวังดีที่ตามติดชีวิตเธอทุกย่างก้าวคงไม่ล่วงรู้การเคลื่อนไหว และแหล่งกบดาลของเธอขนาดนี้
เพียงแค่สันนิษฐานว่านักข่าวตามกลิ่นเธอได้จากใครสักคนในวงการบันเทิง เธอมีผู้ต้องสงสัยในใจอยู่แล้ว
"อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลยแกรีบหาออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนดีกว่า" ราตรีกระวนกระวาย กลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่นำความเดือนร้อนไปสู่ผู้จัดการ 'มินตรา' ต้องเคลียร์ปัญหาให้ดาราสาวในสังกัดอีกตามเคย
"ฉันจะหาทางออกได้ไงฉันไม่รู้ทางหนีทีไร่เลยนะ" โรงแรมที่ใช้จัดงานไม่ใช่ตึกเล็ก ๆ มีมากกว่าสามสิบชั้น ทั้งยังมีชื่อเสียงพอสมควร การก่อสร้าง และของตกแต่งของที่นี่ดูก็รู้ว่ามีระดับมีราคาค่อนข้างสูง
ความกว้างสมเกียรติ จนแพรรดากลัวเดินหลงทาง งานจัดเลี้ยงอยู่ที่ชั้น 25 ต้องลงลิฟต์ หรือเดินเลี่ยงไปทิศทางใด เธอจึงจะไปถึงชั้นจอดรถ แล้วออกไปจากที่นี่ได้
"นั่นสิทำไงดีอ่ะ!"
ซึ่งสองสาวไม่อาจหาคำตอบนั้นได้
"ให้ผมช่วยไหม ผมรู้จักทางเข้าทางออกของที่นี่ดี" ทว่าเสียงจากนักธุรกิจหนุ่มที่ตั้งใจยืนฟังสองสาวสนทนาหารือกันอยู่ก็เอ่ยขึ้น ดั่งเสียงสวรรค์ที่ช่วยแพรรดาให้กลับมามีความหวังอีกครั้งในสถานการณ์วิกฤต วินาทีนี้มีวิธีใดหลบหนีนักข่าวได้ก็ต้องยอมตามน้ำไปก่อน
"คุณรู้ได้ไงคะ"
ณภัทรยิ้มจางตรงมุมปาก เมื่อแพรรดาตั้งคำถามสงสัยแบบนั้น นี่เธอไม่เห็นข่าวเขาบนทีวีหรอกเหรอ?
"จริงสิ ราตรีลืมคุณภัทรไปสนิทเลย" ราตรีตาโตวาววับ เมื่อพบหนทางช่วยเพื่อนออกไปจากที่นี่ได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับนักข่าว
"ผมเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้เอง ให้ผมช่วยไหม"