ตอนที่ 6 ปรารถนา
แพรรดายืนมึนงงท่ามกลางหญิงสาวชายหนุ่มมากหน้าหลายตากำลังเตรียมตัวรอรับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวบนเวที เสียงเชียร์ตะโกนคำว่า 'โยนเลย' 'โยนมาทางนี้' ดังขึ้นระทึกกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงของทางโรงแรม
เขาว่ากันว่าใครรับได้ดอกไม้จากเจ้าสาวคนคนนั้นจะได้แต่งงานเป็นคนต่อไป ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่แพรรดาปรารถนา
เตกีลาที่แพรรดาดื่มลงท้องไปไม่กี่นาทีก่อนกำลังมีผลต่อระบบประสาท ดาราสาวกลอกกลิ้งมองรอบทิศทางด้วยความสับสน สายตากลับพร่าเลือนจนสรรพสิ่งรอบข้างมองเห็นไม่คมชัด
แพรรดาเที่ยวสถานเริงรมย์บ่อยครั้ง แต่เธอเป็นประเภทคออ่อนดันปากเก่ง ผลกระทบตามมาคือเธอต้องพยายามประคับประคองสติให้ได้ จนกว่าพิธีมงคลจะสิ้นสุดลง อย่าแสดงอาการไก่อ่อนตอนนี้เชียว!
"เผื่อว่าแกจะได้รับช่อดอกไม้ไง" ราตรีตื่นเต้นไม่น้อย อยู่ไม่สุขเพราะอยากรับช่อดอกไม้ให้ได้ ถึงแม้หล่อนยังโสดไม่มีคนรักก็ตาม
"ได้แล้วยังไง ฉันไม่มีแฟนจะให้แต่งงานกับใครล่ะ" แพรรดากลับเห็นต่างค่อนข้างไม่ให้ความสนใจ การแต่งงานไม่เคยอยู่ในหัวเธอเลยสักนิด ยังไม่อยากมีพันธะเป็นบ่วงกักขังตัวเอง
"ตอนนี้ไม่มี อนาคตก็ไม่แน่หรอก!" ราตรีเชื่อในโชคชะตา พรหมลิขิต และเชื่อว่ารักแท้มีจริงเพียงแต่เขาคนนั้นจะเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม มี ส่วนน้อยมากที่จะโชคดีเจอคู่แท้ หล่อนวาดหวังว่าตัวเองจะเป็นหนึ่งในหลายสิบล้านคนเจอคนที่ใช่
"โยนมาแล้ว ๆ !!"
แพรรดาแค่นหัวเราะ กำลังพาตัวออกมาจากจุดผู้คนพลุกพล่าน ทว่าเสียงร้องตระหนักจากราตรีก็ดังขึ้นสนั่น วินาทีนั้นวัตถุบางอย่างลอยลิ่วกลางอากาศตรงมายังแพรรดา
หญิงสาวหมุนตัวกลับมารับสิ่งนั้นเอาไว้ตามสัญชาตญาณมีไหวพริบว่องไว ก่อนมันจะหล่นลงพื้นไปต่อหน้า เสียงโห่แซวดังขึ้นอีกระลอกต่อเนื่องกันไม่หยุดหย่อน
"อ๊ะ!" เหตุการณ์อุกอาจเกิดขึ้นจนแพรรดาไม่ทันตั้งตัว อุปสรรคหลักของเธอคือรองเท้าส้นสูงประมาณ 5 นิ้ว
จึงพาทำให้หญิงสาวข้อเท้าพลิก เธอหลับตาแน่นเตรียมรับแรงกระแทก เสียการทรงตัวจนเกือบหน้าขมำลงพื้นอับอายขายขี้หน้าต่อคนอื่น หากแต่ไม่เป็นอย่างนั้น
แพรรดาไม่มีจุดใดบนร่างกายได้รับบาดเจ็บ เมื่อท่อนแขนแข็งแรงของใครบางคนคว้าเอวบางไว้ทัน ดึงเธอเข้ามาประชิดลำตัว ได้กลิ่นน้ำหอมประจำกายอีกฝ่ายถึงกลิ่นจะไม่คุ้นเคยแต่กลับดึงดูดความสนใจจากเธอได้ดี
แพรรดาค่อย ๆ เปิดเปลือกตาครั้นทุกอย่างเป็นปกติ เงยหน้ามองเจ้าของร่างสูงใหญ่
ดวงตาคู่คมแสนเย่อหยิ่งสบตาเธอนิ่ง สีหน้าเขาเดาไม่ออกถึงความคิด ช่วงจังหวะทีเผลอ หลาย ๆ คนจับจ้องมองทั้งคู่ อีกมุมหนึ่งของงานก็มีพนักงานเสิร์ฟในงานยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายเก็บภาพถ่ายหาดูได้ยากไว้
"ขะ...ขอบคุณค่ะ" แพรรดารีบพยุงร่างกายยืนให้ได้เองจนสำเร็จ เม้มปากอวบอิ่มเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บข้อเท้า แต่ยังฝืนทนเก็บอาการ ดาราสาวรีบกล่าวขอบคุณบุรุษรูปหล่อแต่หน้าเคร่งขรึม
ตอนนี้แพรรดาคิดไม่ตกมากกว่าว่าจะทำยังไงดีกับช่อดอกไม้เจ้าปัญหาในมือนี่ เธอไม่อยากได้ มันกลับพุ่งเข้าหาเอง ถ้าคิดจะส่งให้คนอื่นคงดูไม่สมควรนัก
"ไม่เป็นไรอะไรใช่ไหม" อย่างน้อยเขาก็ถามแสดงความเป็นห่วง
"มะ...ไม่ค่ะ" แพรรดารีบส่ายหน้าปฏิเสธเก็บอาการ แม้ว่าข้อเท้าเธอเริ่มปวดหนึบขึ้นมา
"แพร! แกเป็นอะไรไหม" ราตรีผลุนผลันเข้ามาดูเพื่อนสนิท จับตัวแพรรดาหันซ้ายแลขวาเพื่อให้แน่ใจกับตาตัวเองว่าเธอไม่เป็นอะไร
"ไม่เป็นมากหรอก แต่ช่อดอกไม้นี่สิ ฉันไม่อยากรับเอง กลัวมีภาพหลุดคนเอาไปเล่นข่าวอีก" กุหลาบขาวช่อนี้ทำให้แพรรดาคิดหาทางออกได้ยาก
คนที่ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวต้องขึ้นไปกล่าวอวยพรเจ้าภาพบนโพเดียม หากทำแบบนั้นอาจจะสุ่มเสี่ยงโดนแอบถ่ายนำไปทำข่าวใส่สีตีไข่อีกก็ได้ แพรรดาจึงมีความระแวดระวังตัวเป็นพิเศษ