ตอนที่ 3 ข่าวฉาว
"แพรไม่รับปากค่ะ แต่จะพยายามทำตามให้ได้มากที่สุด" ดาราสาวกอดอก เชิดหน้าอย่างเจ้ายศ การต่อรองครั้งนี้ถือว่าเธอชนะ แต่แอบขัดใจแพรรดานิดหน่อยตรงที่โดนมินตราสั่งห้ามให้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมนี่ ใครมันจะอุดอู้ทนอยู่ได้ทั้งวัน อย่างน้อยก็ต้องมีบ้างที่จะออกไปรับแสงเห็นเดือนเห็นตะวันจากโลกภายนอก
มินตราอยู่กับแพรรดาที่คอนโดส่วนตัวถึงครึ่งวัน หล่อนก็ต้องขอตัวกลับ เนื่องจากมีเด็กในสังกัดให้ดูแลอีกไม่น้อย แต่ที่ดูเหมือนใส่ใจแพรรดาเป็นพิเศษ ด้วยเหตุว่าเธอเป็นเด็กปั้นใหม่ แต่กลับได้รับกระแสนิยมเหนือความคาดหมาย มินตราจึงรีบกอบโกยผลประโยชน์ที่ควรได้จากฝีมือการปั้นเด็กของหล่อน ที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์สำคัญเอาไว้
ทว่าแพรรดามักคิดนอกกรอบ ฝ่าฝืนกฎการร่วมงานกันอยู่บ่อยครั้ง จนพลอยทำให้หล่อนต้องเดือดร้อน เสียรายได้ส่วนแบ่งที่ไม่ควรจะเสียด้วยซ้ำ มินตราจำเป็นต้องข่มใจแม้รู้สึกไม่พอใจต่อการกระทำอวดดีของหญิงสาวอายุอ่อนกว่า ในตอนนี้แพรรดายังมีค่ากับหล่อนเลยต้องเป็นคนยอมอ่อนข้อให้เธอ
เธอไม่ชอบการอยู่นิ่ง ๆ ปกติเวลานี้แฟนคลับต้องพบเธอตามห้าง เพราะออกไปช้อปปิ้ง หรือไม่ก็อาจจะมีการนัดแนะเจอเพื่อนสมัยเรียนเชื้อเชิญกันออกมาดื่มสังสรรค์ แต่เมื่อถูกกักบริเวณกิจวัตรที่อยากทำเหมือนแต่ก่อนจึงต้องพับเก็บลง
"เฮ้อ! เบื่อชะมัดเลย"
แพรรดาอยู่ไม่นิ่ง ถอนหายใจหลายสิบรอบต่อนาที ครั้นอยู่เพียงลำพังในห้องสี่เหลี่ยมเงียบเชียบ หญิงสาวยิ่งรู้สึกเบื่อหน่าย เหมือนคนว่างงานที่นั่งเหม่อหมองนอกระเบียงอย่างไร้จุดโฟกัสไปให้พ้นวัน ไม่มีแผนผังชีวิตว่าวันนี้ต้องทำอะไร หรืออยากไปที่ไหนไหมจึงจะก้าวผ่านหนึ่งวันไปโดยไม่อึดอัด
กริ้ง กริ้ง
เสียงโทรศัพท์วางบนโต๊ะกระจกตรงหน้าแผดเสียงร้องดังลั่น จนดาราสาวสะดุ้งเฮือกเรียกสติเธอกลับมา เธอรีบคว้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นแนบหูภายหลังเห็นรายชื่อผู้ติดต่อมาหา
"ว่ายังไงราตรี" แพรรดากรอกเสียงเนือย ราตรีเป็นเพื่อนสาวสมัยเรียนมหา'ลัย เพียงคนเดียวของแพรรดา แม้นิสัย บุคคลิกจะต่างกันมาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการคบหา ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักไปไหนไปกัน และรู้ใจกันที่สุด
'ฉันเห็นข่าวแกในทีวีแล้วนะ'
"น่าเบื่อ จะไปไหนก็ไปไม่ได้ พี่มินทำแบบนี้ไม่ต่างจากกักบริเวณฉันเลยนะ" แพรรดาบ่นอุบ ความอดทนเธอสั้นลงเรื่อย ๆ
'วันนั้นพวกเราประมาทด้วยแหละน่า'
ราตรียอมรับว่าคืนวันนั้นที่ไปสังสรรค์ด้วยกันประมาทจนเกินไป โดยปกติหล่อนกับเพื่อนรักจะจองที่นั่งแบบวีไอพีโซนผู้นั่งซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูง
แต่คืนนั้นความเมาคึกคะนองมันมีมากเกินกว่าสมองจะไตร่ตรองดี ๆ ถึงเลือกนั่งดื่มโซนธรรมดา ผู้คนมากหน้าหลายตาจนไม่ทันสังเกตว่ามีมือดีที่ไหนแอบถ่ายภาพหลุดแพรรดาไปปล่อยบนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นข่าวดังข้ามคืน
ราตรีไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะหล่อนไม่ได้มีหน้าตาหรือชื่อเสียงจนมีคนคอยจับตามองทุกการเคลื่อนไหวแบบแพรรดา ไม่อย่างนั้นหล่อนคงอึดอัด ขยับตัวทำไรต้องเกร็งแย่เลย
"ฉันอยากออกไปข้างนอก อยากหนีไปจากห้องที่อุดอู้แบบนี้"
'นี่ไงฉันถึงติดต่อแกมานอกเหนือจากเรื่องข่าว'
"แกมีอะไร"
'พี่รันตรีจะแต่งงาน อีกสองวันนี้จัดขึ้นที่โรงแรมแบบเป็นการส่วนตัว ที่บ้านฉันเรียนเชิญแค่แขกคนสนิทกับญาติพี่น้อง ฉันเลยโทร.มาเชิญแก แต่ไม่รู้แกจะมาได้ไหม ถ้าแกรับปาก ฉันจะได้ส่งการ์ดเชิญไปให้เย็นนี้เลย'
"ฉันต้องไปอยู่แล้วสิ พี่รันตรีจะแต่งงานทั้งทีนะ"
ราตรีมีพี่สาวหนึ่งคนนั่นคือรันตรี ส่วนหล่อนเป็นน้องสาวคนเล็กของบ้าน ซึ่งมีอายุห่างจากพี่สาวถึงเก้าปี
แพรรดารู้จักมักคุ้นกับครอบครัวของราตรีเป็นอย่างดี และค่อนข้างสนิทชิดเชื้อด้วยประหนึ่งลูกหลานของคนบ้านนั้น บิดา มารดา และพี่สาวของราตรีใจดีมาก แถมยังเอ็นดูแพรรดาไม่น้อย
'แกโดนกักบริเวณอยู่นี่ แกมาได้ง่าย ๆ หรือไง ไม่วายฉันคงโดนพี่มินว่าอีกแน่" ราตรีย่อมรู้ดีว่ามินตราเข้ามาเข้มงวดในชีวิตเพื่อนของหล่อนมากแค่ไหน
ตั้งแต่แพรรดาโด่งดังขึ้นยิ่งถูกควบคุมเสียจนเสียความเป็นตัวเอง จากนัดพบกันได้บ่อยครั้งช่วงนี้กลับมีเวลาสนทนากันไม่ถึงสิบประโยค
แพรรดาค่อนข้างมีคิวงานเดินแบบ ถ่ายละครหนาแน่นเดือนชนเดือน มีคิวยาวงานตลอดปีจนถึงปลายปีต่อ ๆ ไป
จนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว และราตรีโทร.ติดต่อมาคงต้องพลาดที่จะรับสาย เวลาของแพรรดายุ่ง และทุกวินาทีคือเงินทอง ผลประโยชน์ร่วมกับทางบริษัท
แม้ว่าเธอไม่มีความเดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ต้องทำตามกฎของผู้จัดการที่เซ็นสัญญากันเอาไว้ตั้งแต่แรก
"เรื่องอะไรฉันต้องบอกพี่มิน อีกอย่างแกบอกแล้วนี่ว่าจัดขึ้นแบบส่วนตัว คงไม่มีใครมีสิทธิ์เข้ามาถึงตัวฉันเพื่อสัมภาษณ์ข่าวหรอกนะ"