ตอนที่ 2 ข่าวฉาว
"ทำไมคะ แค่การออกไปดื่มสังสรรค์ข้างนอกก็ถูกมองไม่ดีแล้วหรือคะ" แพรรดาตั้งคำถามต่อผู้จัดการไม่หยุด เธอไม่มีทางออกไปแก้ข่าวด้วยการโกหกต่อหน้าประชาชนคนทั้งประเทศแน่นอน เพราะในคลิปวิดีโอมันคือเธอจริง ๆ หลักฐานมันเด่นชัดจนไม่อาจดิ้นหลุด
หากใครเป็นแฟนคลับตัวจริงของเธอ แค่เห็นรูปลักษณะในรูปภาพดังกล่าวหน้าเธอก็คงผุดเข้าไปในหัวพวกเขาทันที หากเธอออกมาโต้แย้งเสียงวิพากย์วิจารณ์จะยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้ สู้อยู่นิ่ง ๆ อีกไม่นานคงมีกระแสอื่นกลบข่าวเธอ จนทุกคนเลิกสนใจ ข่าวเงียบกันไปเอง
"ไม่ใช่ไม่ดีหรอก แต่เธอเพิ่งเข้าวงการนะ การที่เผยตัวตนกะทันหันแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดี มันมีคนไม่ชอบ" มินตราพยายามอธิบาย งัดเหตุผลร้อยแปดข้อออกมา
"ไม่ชอบก็เรื่องของเขาค่ะ จะมาฟาดงวงฟาดงาใส่แพรก็ไม่ถูกหรอก เขาควรจัดการความรู้สึกตัวเองนู่น'"
กระนั้นแพรรดากลับทำหูไปนาทำตาไปไร่ คิดว่าการแสดงธาตุแท้ตั้งแต่ต้นไม่ใช่เรื่องผิดขั้นร้ายแรงอะไร แค่สังคมอ่อนไหวรับไม่ได้เอง
กลายเป็นดาราตกอับไม่มีงานจากวงการบันเทิงเธอก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อน เพราะมรดกตกทอดจากที่บ้านสามารถเลี้ยงเธอได้ไปจนแก่ ก่อนบิดากับมารดาจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จากเธอไปเมื่อหนึ่งปีก่อน
ท่านได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทรัพย์สินทั้งหมดยกให้แพรรดา ซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล 'ธิราเกียรติ'
แพรรดาเผชิญหน้าใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่อายุ 23 ปี โดยมีทนายความประจำตระกูลคอยประสานเรื่องจัดการธุรกรรมการเงิน การเรียนไม่ขาดตกบกพร่อง
จนไม่กี่เดือนก่อนเธอได้เรียนจบปริญญาตรีเป็นที่เรียบร้อย แล้วตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อสานฝันของผู้เป็นมารดาที่รักยิ่ง เนื่องจากในอดีตมารดาเป็นถึงดาราก่อนจะตกลงปลงใจแต่งงานกับบิดา
แพรรดาสวยเหมือนมารดาราวกับถอดแบบกันออกมาไม่มีผิด หล่อนอยากเห็นบุตรสาวได้เฉิดฉายแสดงพรสวรรค์ที่คล้ายคลึงหล่อน แต่วงการนี้มันเละเทะกว่าภาพเบื้องหน้าลวงตาที่เห็น เต็มไปด้วยการแกร่งแย่งชิงดีชิงเด่น...น่าเบื่อหน่ายสิ้นดี
"เธอเข้าวงการเพราะแม่ของเธอต้องการ แต่เธอไม่คิดบ้างเหรอ เธอทำตัวจนป่นปี้เสียชื่อเสียงแบบนี้ แม่ของเธอที่เฝ้ามองอยู่จะรู้สึกยังไง" แพรรดาชะงักท่าทีที่เคยแข็งข้อก็อ่อนลง ตระหนักถึงคำพูดมินตราที่เตือนสติ
สิ่งสำคัญในชีวิตของเธอคือครอบครัว แม้ว่าบิดา มารดาจะจากไป ความรักความผูกพันที่มียังตราตรึงในหัวใจ แพรรดาใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมายว่าอยู่ไปทำไม ตอนนี้ก็เพื่อคนบนฟ้าหวังว่าท่านจะหมดห่วง
"พี่อยากให้เธอตอบปัดเรื่องนี้ต่อหน้าสื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจนะ" มินตราพยายามเกลี้ยกล่อม เชื่อว่าเด็กในการปกครองของหล่อนมีความเป็นมืออาชีพ และใช้เหตุผลเหนือกว่าอารมณ์ คอยบอกคอยเตือนทุกครั้งแพรรดาก็เชื่อฟังเป็นอย่างดีเสมอมา ทว่าคงต้องยกเว้นครั้งนี้เสียแล้ว
"ถ้าอยากให้แพรออกสื่อนัก แพรจะพูดตามความจริงค่ะ หลักฐานมัดตัวขนาดนั้นไม่มีใครจำแพรไม่ได้หรอกนะคะ ใครเขาก็ดูออกยิ่งบอกปัดเท่าไหร่แพรก็ยิ่งจะโดนโจมตีมากเท่านั้น แพรไม่อยากแถแล้วค่ะ ดราม่าคงไม่จบไม่สิ้นอีกแน่"
แพรรดาเห็นแก่บิดามารดา ถึงยอมอ่อนข้อลงบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นยังคงถือความคิดเธอเป็นใหญ่
"เฮ้อ! เอาเถอะ ๆ ถ้าอย่างนั้นก็เก็บตัวอยู่ที่ห้องไปก่อน แต่พี่ขอร้องล่ะ เธออย่าออกไปไหนสร้างความเสื่อมเสียอีกก็พอ"
มินตราถอนหายใจพรืดใหญ่ หล่อนคร้านจะโต้ตอบกลับ หากต้องออกสื่อยอมรับตามความจริง ผลกระทบที่ตามมาคงไม่ต่างจากตอนนี้หรอก
เธอเป็นคนหัวสมัยใหม่ยอมรับว่าผู้หญิงสามารถเที่ยวกลางคืนได้ปกติเหมือนกับผู้ชาย แต่ยังมีกลุ่มคนล้าสมัยที่ตีหน้าผู้หญิงเที่ยวกลางคืนว่าคือคนไม่ดี โดยเฉพาะบุคคลมีชื่อเสียงจะถูกโจมตีรุนแรง
ช่วงนี้คงทำได้เพียงขอร้องให้แพรรดาอยู่ติดห้อง อย่าได้ออกไปไหนข้างนอกหากไม่จำเป็น ส่วนเรื่องอื่นหล่อนจะตามล้างตามเก็บเอง โชคยังดี เพราะเพิ่งปิดกล้องกองถ่ายละครไปไม่กี่วันก่อน ไม่อย่างนั้นเรื่องคงวุ่นวาย แพรรดาถูกถอนตัวออกจากนักแสดงนำหญิงแน่ ๆ
"แพรไม่รับปากค่ะ แต่จะพยายามทำตามให้ได้มากที่สุด" ดาราสาวกอดอก เชิดหน้าอย่างเจ้ายศ การต่อรองครั้งนี้ถือว่าเธอชนะ แต่แอบขัดใจแพรรดานิดหน่อยตรงที่โดนมินตราสั่งห้ามให้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมนี่ ใครมันจะอุดอู้ทนอยู่ได้ทั้งวัน อย่างน้อยก็ต้องมีบ้างที่จะออกไปรับแสงเห็นเดือนเห็นตะวันจากโลกภายนอก