บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

“กิตต์ เราจะยังเป็นเพื่อนกันได้จริง ๆ หรือเปล่า?”

“ได้สิ หลังจากนี้เราสองคนจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันอีก หรือถ้าถูกก็ต้องไม่ใช่เพราะว่าอยากมีอะไรกัน” ชายหนุ่มยืนยันทั้ง ๆ ที่ดวงตายังฉายความต้องการที่มีอยู่ท่วมท้น “ลองดูคืนนี้ก่อนก็ได้นะ ถ้าเราผ่านคืนนี้ไปโดยที่ไม่ได้จูบกันอีก อะไร ๆ ก็คงไม่ยากแล้วละ”

“แล้วถ้ากิตต์ห้ามตัวเองไม่ได้อีกล่ะ?”

“งั้นเราต้องห่างกันสักพักเพื่อที่จะได้ชิน…มาดูซีรีส์ต่อดีกว่า อีกสองตอนก็จะจบแล้วเนี่ย”

ดนัยกิตต์ไม่ชอบคำว่าห่างจึงเปลี่ยนเรื่อง ใช่ว่าเขาไม่เคยอยู่ห่างจากเธอ ในช่วงที่ไปฝึกงานก็ไม่ได้เจอกัน แต่คำว่าห่างในที่นี้ไม่ได้หมายถึงระยะทาง ทว่าเป็นความรู้สึกทางใจมากกว่า เขาจึงนั่งเงียบ ๆ มองภาพเคลื่อนไหวบนจอทีวีขนาดใหญ่ ทว่าคำพูดของตัวละครกลับไม่เข้าหูเลยแม้แต่ประโยคเดียว

สมองของเขาคิดวุ่นวายแค่เรื่องของอัณณิกาที่ตอนนี้ผล็อยหลับไปบนโซฟาตัวกว้าง เธอเหนื่อยกายที่ต้องเอาใจเขาในช่วงเช้า ซ้ำร้ายชั่วโมงก่อนก็เพิ่งเหนื่อยใจจากการทะเลาะกันรุนแรงครั้งแรก แล้วยังจะต้องมาตามใจเขาที่เอาความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ทะนุถนอมกันอย่างที่เคยเพียงเพราะต้องการฝากฝังความทรงจำ เพื่อไม่ให้เธอลืมกันง่าย ๆ

“อ้อนชอบไอ้ป้องจริง ๆ เหรอ?”

เขากระซิบถามอัณณิกาที่หลับสนิท ริมฝีปากของเธอเผยอเล็กน้อยเช่นเดียวกับทุกครั้งที่เหนื่อยกลับมาบ้าน มันดูตลกและน่ารักเสียจนเขาอดทาบริมฝีปากลงไปไม่ได้

“ดูอะไรกันอยู่เหรอลูก?”

เสียงทักทายที่มาก่อนตัวของเจ้าของบ้านทำเอาดนัยกิตต์ดีดตัวกลับแทบไม่ทัน เขาลุกจากโซฟาและเดินเร็ว ๆ ไปรับของจากมือของน้าชมเนตร ขณะเดียวกันก็ลอบสำรวจว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ คุณน้าข้างบ้านเห็นเขาจูบลูกสาวคนเดียวอยู่หรือเปล่า?

“ซีรีส์เรื่องนี้น้าเห็นเพจรีวิวว่าสนุกดีอยู่นะ จำได้ว่าพระรองชอบนางเอกมาก แต่นางเอกก็มูฟออนไม่ได้สักทีเพราะพระเอกกั๊กไว้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ให้สถานะนางเอก อ้างว่าครอบครัวไม่ยอมรับ เป็นน้าคงไปหาพระรองนานละ ไม่มาทนเหนื่อยกับความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้หรอก อุ๊ย! นี่น้าเผลอสปอยล์ไปหรือเปล่าเนี่ย?”

“ไม่หรอกครับน้าชม ผมดูใกล้จบแล้ว น้าชมมาแล้วงั้นเดี๋ยวผมกลับเลยนะครับ พรุ่งนี้กะว่าจะออกจากบ้านแต่เช้า”

“อ้าว หยุดถึงวันมะรืนไม่ใช่เหรอ ทำไมรีบกลับล่ะลูก”

“ผมกลัวรถติดน่ะครับ ยังไงผมฝากบอกอ้อนด้วยนะครับว่ากลับแล้ว วันนี้อ้อนเที่ยวกับเพื่อนมาทั้งวัน คงตื่นมาส่งผมไม่ไหว”

“นอนพักเยอะ ๆ บ้างก็ดี อ้อนฝึกงานหนักจะตายไป กว่าจะถึงบ้านก็ดึกทุกวัน จริง ๆ น้าก็ว่าจะให้เช่าคอนโดแถวที่ฝึกงานนะ แต่อ้อนบอกว่าเป็นห่วงน้า เลยทนนั่งรถไกล ๆ เอาน่ะ”

“อ้อนเขาน่ารักแบบนี้เสมอแหละครับ”

“แปลกนะ น่ารักแต่ว่าไม่มีแฟนกับเขาสักที ไม่รู้ไปถูกใครกั๊กไว้แบบนางเอกคนเมื่อกี้หรือเปล่า” ชมเนตรมองลูกสาวที่นอนหลับอยู่บนโซฟาอย่างห่วงใย ก่อนหันมาขอบคุณเพื่อนบ้านผู้ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของลูกสาวอีกครั้ง

“ขอบใจที่ช่วยดูแลอ้อนนะ หลายปีมานี้ถ้าไม่มีกิตต์คอยอยู่เป็นเพื่อน อ้อนก็คงจะเหงาน่าดูเลย”

“เพื่อนยังไงก็ต้องดูแลกันและกันอยู่แล้วครับน้าชม…”

ดนัยกิตต์ไหว้ลาผู้สูงวัยกว่าและขอตัวกลับบ้าน ก่อนจากเขาเหลือบมองร่างเล็กที่นอนหมดแรงอยู่บนโซฟา ความรู้สึกพลุ่งพล่านพลันพุ่งสูงอย่างห้ามไม่อยู่ อยากกอดจูบให้สมกับความคิดถึงเพราะจะไม่ได้เจอกันอีกตั้งสองเดือน

การกระทำของชายหนุ่มไวเท่าความคิด รีบสาวเท้าเดินไปจนถึงตัวอัณณิกา ทว่าเสียงกุกกักของน้าชมเนตรที่กำลังเก็บของทำให้เขาได้สติ ตระหนักได้ว่าไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ง่ายอย่างที่คิด จึงทำเพียงเลื่อนผ้าห่มผืนบางคลุมไหล่เพื่อไม่ให้เธอหนาวจนเกินไป

“เราคงต้องห่างกันสักพักแล้วละอ้อน…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel