บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

คำถามของปกป้องตรงไปตรงมาจนอัณณิกาไม่รู้ว่าจะให้คำตอบอย่างไร ชายหนุ่มตามจีบเธอมาปีกว่าแล้ว ปฏิเสธอย่างไรก็ไม่ยอมถอยเพราะเชื่อว่าหัวใจของเธอยังไร้เจ้าของ เขาเชื่อเช่นนั้นจนกระทั่งเห็นชายหนุ่มที่เข้าใจถูกต้องแล้วว่าเป็นศัตรูหัวใจหอมแก้มของอัณณิกาในลานจอดรถ

“เราไม่มีสิทธิ์ห้ามความรู้สึกของอ้อนหรอกนะ เพราะอ้อนเองก็ห้ามเราไม่ได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เราอยากจะพูดคือ ถ้าเราเป็นผู้ชายคนนั้น เราจะบอกทุกคนว่าเราคบกับอ้อน ไม่ใช่บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทแล้วทำอะไรแบบนั้น”

ปกป้องเอ่ยหลังจากได้อยู่ตามลำพังกับหญิงสาว ในขณะที่เพื่อนคนอื่น ๆ เข้าไปลองเสื้อผ้าในร้านที่กำลังลดราคา เขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ถึงภาพที่เห็นสด ๆ ร้อน ๆ เพราะต้องการเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้หญิงที่ตนแอบชอบ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกกับเขาแค่เพื่อนก็ตาม

“แต่เรากับกิตต์เป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ นะ”

“เพื่อนไม่หอมแก้มกันหรอกอ้อน อีกอย่างเราก็เป็นผู้ชาย เราดูออกนะว่ากิตต์เองก็ชอบอ้อนมาก ไม่งั้นหล่อ ๆ แบบนั้นจะโสดมาได้ไงตั้งหลายปี อ้อนเองก็เหมือนกัน เรารู้นะว่าที่อ้อนไม่รับรักเราก็เพราะมีใจให้กิตต์ อย่าว่าเราสอนเลยนะอ้อน แต่เราว่าเธอไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องเถอะว่าจะเอายังไง ถ้าไม่คบกันก็ควรขีดเส้นให้มันชัดเจน ไม่ใช่ทำอะไรไม่ให้เกียรติกันแบบนี้”

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะป้อง คือเรากับกิตต์ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเป็นแค่เพื่อนกัน เป็นเพื่อนกันยังไงก็ดีกว่าเป็นแฟนอยู่แล้ว คบกันแต่ไม่มีวันเลิก”

“เว้นแต่มีวันที่ใครสักคนเริ่มมีใจให้คนอื่น อีกคนก็จะหมดความหมาย อ้อนไม่รู้สึกอะไรเกินเพื่อนก็ดีไป แต่ถ้ารู้สึกมากกว่านั้น ต่อให้สนิทกันแค่ไหนก็คงไปต่อไม่ได้”

ปกป้องเลื่อนจานขนมเค้กให้กับหญิงสาวที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะถูกจับได้ว่าใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่อ้างว่าเป็นแค่เพื่อนสนิท แต่มีอีกเรื่องที่ยังเขาไม่รู้ นั่นคืออัณณิกาและดนัยกิตต์มีความสัมพันธ์ที่เกินกว่าการหอมแก้มมานานหลายปีแล้ว

“เรากลัวว่าถ้าพูดไปแล้วกิตต์จะไม่เหมือนเดิมน่ะ ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องตามหึงหวงกัน กิตต์ไม่ได้มีใคร เราเองก็ไม่ได้มีใคร มีแต่ป้องนั่นแหละตามตื๊อ…”

อัณณิกาที่แซวเพื่อนอยู่ถึงกับชะงักเมื่อเห็นเจ้าของร่างสูงคุ้นตายืนอยู่ไม่ไกล ในมือของเขาถือถุงกระดาษหลายใบ ซึ่งล้วนแต่เป็นเสื้อผ้าแบรนด์ที่ใส่เป็นประจำ ทว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ เขากลับไม่ใช่เธออย่างเคย

“นั่นกิตต์นี่นา มากับใครอะ อ้อนรู้จักหรือเปล่า”

ปกป้องถามจบก็แทบตบปากตัวเอง เพราะคนที่เห็นภาพเดียวกับเขากำลังหน้าซีดราวกับไม่สบาย มือเล็กบีบแน่นจนข้อนิ้วเปลี่ยนสี บ่งบอกถึงความเครียดที่ถาโถมเข้ามาในระยะเวลาอันสั้น

“แฟนเก่าของกิตต์น่ะ”

“อ้อนโอเคหรือเปล่า?”

“โอเคสิ ทำไมจะไม่โอเคล่ะ” อัณณิกายิ้มบางราวกับว่าภาพบาดตาตรงหน้าไม่ได้ทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบน้ำตาไหล ส่วนคนที่มองสบตามาพอดีก็ตกใจไม่แพ้กัน

คนในห้างเดินเบียดกันเต็มไปหมดเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว แต่ดนัยกิตต์ก็ยังอุตส่าห์มองเห็นคนที่บอกว่ามีนัดกับเพื่อนในกลุ่ม นั่งยิ้มหวานจิบกาแฟกินขนมกับชายหนุ่มที่แสดงออกชัดเจนมาตลอดว่ามีใจให้ แถมมือของเขาคนนั้นยังวางอยู่บนมือของเธอ

มือนิ่ม ๆ ที่ถูสบู่และอาบน้ำให้เขาช่วงเช้าที่ผ่านมา

“นั่นมันอ้อนเพื่อนของกิตต์นี่นา ไม่เข้าไปทักหน่อยเหรอ”

เพียงขวัญมองหน้าคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างมีคำถาม จำได้ว่าอัณณิกาคือเพื่อนสนิทบ้านติดกัน เรียนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเดียวกัน ตัวติดกันจนแทบเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝด ตอนที่เธอคบกับเขายังแอบหึงหวงอยู่บ่อยครั้ง ระแวงว่าแฟนหนุ่มจะแอบนอกใจเพราะเพื่อนสนิทที่หน้าตาน่ารักไม่ต่างจากตุ๊กตา แต่สุดท้ายคนที่จบความสัมพันธ์กลับเป็นเธอที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันและย้ายไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ได้พบกับคนใหม่และบอกเลิกกับเขาทางข้อความ เพิ่งจะได้ติดต่อกันอีกครั้งก็ช่วงที่กลับมาพักผ่อนที่ประเทศไทยนี่เอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel