บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

ชมเนตรสำทับลูกสาวว่าหากว่าไม่ไหวก็ให้รีบบอก ลึก ๆ ในใจแอบหวั่นเพราะอาการดูไม่เหมือนกับอาหารเป็นพิษ แต่ไม่อยากพูดอะไรจนกว่าเจ้าตัวจะพร้อมอธิบาย ส่วนอัณณิกาก็ได้แต่ฝืนยิ้มจนกระทั่งได้นั่งในรถแท็กซี่ และก่อนถึงบริษัทเธอก็แวะร้านขายยาแห่งหนึ่ง เพื่อซื้ออุปกรณ์ที่จะช่วยคลี่คลายความสงสัยว่าเรื่องมันเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า

“สวัสดีค่ะพี่รินทร์ อ้อนขอโทษนะคะที่มาช้า”

เธอยกมือไหว้ขอโทษรุ่นพี่ที่ทำงานเพราะมาช้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเนื่องจากบริษัทที่ฝึกงานนั้นบรรยากาศค่อนข้างสบาย ๆ เจ้านายใจดีตราบเท่าที่รับผิดชอบงานของตัวเองให้เรียบร้อยได้ตามคำสั่ง

อัณณิกาวางของที่โต๊ะแล้วรีบไปเข้าห้องน้ำเพราะอั้นปัสสาวะตั้งแต่เช้าตามคำแนะนำที่อ่านคร่าว ๆ ทางอินเทอร์เน็ต เธออ่านขั้นตอนบนกล่องแล้วเริ่มการทดสอบที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

มันแย่ตรงที่ความกลัวของเธอนั้นเป็นจริงร้อยเปอร์เซ็นต์

เสียงปิดประตูรถยนต์ดังขึ้นราวห้าทุ่มซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนหลับกันหมดแล้ว ทว่าอัณณิกาที่นั่งรออย่างกังวลอยู่ในห้องนอนกลับรีบย่องออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้ปรึกษาเพื่อนสนิทว่าควรทำอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น

“กิตต์…กลับมาแล้วเหรอ ให้เราช่วยขนของไหม”

“อ้อน ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก?”

เขาเลือกกลับบ้านช่วงเวลานี้เพราะไม่พร้อมที่จะคุยกับใคร โดยเฉพาะคนที่ยืนทำตาแป๋วอยู่ตรงหน้า แค่เห็นก็อยากจับมากอดแน่น ๆ ให้สมกับความคิดถึง แต่ทำแบบนั้นคงไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้โสดสนิทอย่างเมื่อก่อนแล้ว

“เอ่อ...เรามีเรื่องเครียดนิดหน่อยน่ะ เลยนอนไม่หลับ อยากปรึกษากิตต์ว่าควรทำไงดี”

“เรื่องผู้ชายเหรอ?” เขาถามเสียงเรียบ

“ก็…น่าจะประมาณนั้นแหละ” อัณณิกาคิดว่าคงใช้คำนั้นได้เพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับดนัยกิตต์โดยตรง “เราคิดว่านะ”

“แต่กิตต์ไม่ว่างอะ นี่ก็กะว่าจะทิ้งของไว้ในรถแล้วออกไปข้างนอกเลย เราค่อยคุยกันวันพรุ่งนี้ได้ไหม”

“แต่ว่า…”

“กิตต์นัดขวัญไว้ว่าจะไปเที่ยวกัน อีกแป๊บคงมารับแล้วน่ะ”

“ไปเที่ยวกับขวัญ? เอ่อ กิตต์กับขวัญคบกันแล้วเหรอ?”

“สักพักแล้ว ที่ไม่ค่อยได้ตอบไลน์ก็เพราะงี้แหละ กิตต์ไม่อยากให้ขวัญไม่สบายใจ คราวก่อนที่อยู่ด้วยกันแล้วเห็นข้อความที่อ้อนส่งมาก็ถามนะ ว่าเราสองคนสนิทกันเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า กิตต์กลัวเขาหึงจนน้อยใจเหมือนแต่ก่อนเลยบอกไปว่านาน ๆ คุยกันทีน่ะ” เขาโกหก ที่ไม่ได้ตอบก็เพราะกลัวว่าจะเผลอทำเรื่องที่ไม่ควร เช่นทิ้งงานแล้วขับรถกลับบ้านมากอดเธอต่างหาก

“แล้วทำไมได้ไปอยู่ด้วยกัน บ้านขวัญอยู่กรุงเทพไม่ไช่เหรอ”

อัณณิกาได้ยินเสียงตัวเองก็ถึงกับกลืนน้ำลาย รู้อยู่เต็มอกว่ากำลังหึงหวงทั้ง ๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ เขาบอกชัดแล้วว่าคบหากับเพียงขวัญ ส่วนตัวเธอนั้นกลายเป็นคนนอก ไม่ได้สำคัญกับเขาอีก กระทั่งคำว่าเพื่อนสนิทยังใช้ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

“ขวัญไม่มีอะไรทำเลยไปหากิตต์ที่ชลบุรีบ่อย ๆ แฟนกันเจอกันมันผิดตรงไหนเหรออ้อน แล้วที่เสียงดังใส่กิตต์แบบนี้ ไม่พอใจอะไรหรือเปล่า?” เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงภาวนาให้อัณณิกาไม่พอใจกับเรื่องที่ได้ยิน อยากให้หึงหวงที่เขาคบกับคนอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังเมื่อเธอยังคงยิ้มให้เช่นเคย

ยิ้มหวาน ๆ ที่ทำให้ดนัยกิตต์อยากตรงเข้าไปกอดเธอ

“ไม่ผิดหรอกที่ไปเจอกัน เราว่าน่ารักจะตายที่ขวัญเป็นฝ่ายทุ่มเทเพื่อกิตต์บ้าง ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ปล่อยให้กิตต์ตามเป็นลูกหมา แล้วที่ถามว่าไม่พอใจอะไรก็คงต้องตอบตรง ๆ ว่าเรารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เราไม่ชอบที่กิตต์หายไปแบบไม่อธิบาย ถ้าบอกแต่แรกว่าแฟนหึงก็จบ เราจะได้ไม่ส่งข้อความไปกวน”

“อ้อนไม่ได้โกรธกิตต์เหรอ แต่เมื่อกี้เหมือน...”

“โกรธอะไร? นี่ถ้าป้องงอแงที่เราสองคนสนิทกัน เราคงบอกกิตต์ตามตรงว่าไม่ต้องทักมาบ่อยเพราะแฟนเราไม่สบายใจ แต่โชคดีที่ป้องเขาไม่ใช่คนขี้หึงไง”

“ป้องไม่ใช่คนขี้หึง? อ้อนคบกับมัน เอ่อ ป้องแล้วงั้นเหรอ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel