บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 สาวใช้คนใหม่

เสี่ยวหรูอวี้ คือนามของสาวใช้คนใหม่ที่นางเพิ่งรับเข้าจวนมาเมื่อไม่กี่อึดใจที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่าถูกชะตาจึงรับเข้ามาเป็นสาวใช้ประจำตัวอีกคนหนึ่งเช่นเดียวกับอาหวน

ถูกชะตานั้นนับเป็นข้ออ้างที่ดี....พอได้กระมัง

ใช่แล้วเสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้แท้จริงมิใช่เป็นนางที่ถูกชะตาจึงรับคนมาอยู่ด้วย ความจริงคือเสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้ถูกส่งมาอยู่ข้างกายนางโดยหย่งไห่ชินอ๋องผู้นั้นต่างหาก

ท่านอ๋องมอบคนมาให้แน่นอนว่าอย่างไรก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ จำต้องรับเอาไว้ข้างกายตามที่ผู้มีอำนาจเหนือกว่าต้องการ

หลี่เยว่เล่อเปรยตามองไปที่เสี่ยวหรูอวี้ครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะทอดมองไปยังกระดาษเล็กๆ ที่มีตัวอักษรลายมือหนักแน่นเขียนอยู่

[มอบคนให้เจ้า ใช้ได้ตามต้องการ]

เจ้าของมือเรียวสวยพับจดหมายกระดาษแผ่นเล็กเข้าหากัน ก่อนที่จะส่งให้อาหวนนำไปเผาทำลายทิ้ง ทั้งที่ในใจอยากจะขย้ำหรือฉีกทำลายมันทิ้งไปซะเดี๋ยวนี้แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะมีเสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้คอยมองอยู่ในทุกการกระทำ

ท่านอ๋องส่งคนมาอยู่ข้างกายนาง เห็นได้ชัดว่าจุดประสงค์คือการคอยจับตาดูนางอย่างใกล้ชิด หลี่เยว่เล่อหรือจะกล้าใช้คนตามใจชอบอย่างที่เขาเขียนในจดหมายเล็กมา

“เสี่ยวหรูอวี้ ต่อจากนี้เจ้าก็คือสาวใช้ประจำตัวของข้าเช่นเดียวกับอาหวน”

“ข้าน้อยยินดีรับใช้คุณหนูเจ้าค่ะ” สิ้นเสียงเสี่ยวหรูอวี้ก็คุกเข่าคำนับผู้เป็นเจ้านายของนางในทันที

ท่าทีของเสี่ยวหรูอวี้นั้นทำเอาหลี่เยว่เล่อเกือบจะหลงเชื่อแล้วว่าสาวใช้คนใหม่ผู้นี้กำลังฝากตัวรับใช้นางจริงๆ ทั้งที่นางเองก็รู้แก่ใจว่าผู้ใดคือเจ้านายที่แท้จริงของเสี่ยวหรูอวี้ผู้นี้กันแน่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากที่มีหย่งไห่ชินอ๋องผู้นั้นให้การปกป้องดูแลสกุลหลี่อย่างลับๆ ทำให้หลี่เยว่เล่อสามารถวางใจได้เปลาะหนึ่ง ไม่ต้องมาคอยกังวลใจอยู่ในทุกช่วงเวลาอีก หลายวันมานี่จึงสามารถช่วยเหลือท่านแม่จัดเตรียมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของท่านพ่อได้อย่างใส่ใจเต็มที่

แม้งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดจะจัดไม่ได้ใหญ่โตแต่ก็ต้องมีความ ประณีตและความละเอียดอ่อนการใส่ใจจะขาดไปไม่ได้ เทียบเชิญถูกจัดส่ง ออกไปเพียงไม่กี่เทียบเท่านั้น เชิญแค่สหายสนิทรู้ใจของบิดานาง ส่วนขุนนางน้อยใหญ่ในราชสำนักนอกจากที่สนิทกันจริงๆ ไม่กี่คน นอกนั้นก็ไม่ได้ส่งเทียบไปเชิญเช่นกัน

งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของท่านพ่อนั้นจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเช่นนี้มาตลอด แม้ว่าท่านพ่อจะนับได้ว่าเป็นขุนนางที่สำคัญไม่น้อยของราชสำนักผู้หนึ่งก็ตามที แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าใกล้จะถึงวันพระบรมราชสมภพของฝ่าบาท

ดูเอาเถิดว่าสกุลหลี่เรารู้ความแค่ไหน จงรักภักดีแค่ไหน

โถงจัดงานเลี้ยงด้านหน้ามีเอาไว้สำหรับรับรองแขกที่เป็นบุรุษท่านพ่อและเหล่าสหายต่างก็สังสรรค์กันอยู่ที่นี่ ส่วนแขกที่เป็นสตรีฮูหยินหรือบุตรสาวที่ติดตามเหล่าบิดามาด้วยล้วนแล้วแต่มีนางและท่านแม่รับรองต้อนรับอยู่ที่โถงเล็กที่อยู่ติดกันซึ่งด้านข้างจะเปิดกว้างออกได้ ซ้ำยังมีระเบียงยื่นออกไปที่บ่อบัวสวยงามซึ่งกินพื้นที่ยาวเท่ากับระเบียงทางเดิน

ทุกคนต่างก็เป็นคนที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว บทสนทนาหรือการวางตัวจึงไม่ได้มีพิธีรีตองกันมากมายนัก บรรยากาศจึงดูสนุกสนานและสบายๆ เหล่าสตรีหัวเราะพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น

“รั่วรั่ว รีบชิมเร็วเข้าอาหารจานนี้ถูกปากเจ้าหรือไม่” หลี่เยว่เล่อเอ่ยถามสหายสนิทของนางที่ไม่ได้เจอกันมานานเนื่องด้วยสวีรั่วรั่วนั้น ไปอยู่บ้านเดิมของสกุลสวีอยู่กว่าครึ่งปี (หลี่เยว่เล่อจำได้ว่าตอนที่สกุลหลี่เกิดเรื่องในกาลก่อนนางไม่มีโอกาสที่จะพบสหายผู้นี้เป็นครั้งสุดท้ายเสีย ด้วยซ้ำ)

สวีรั่วรั่วผู้นี้ก็คือบุตรสาวของท่านป้าสวีหรือสวีฮูหยินผู้ที่เป็นสหายสนิทของท่านแม่ของนาง

นางและรั่วรั่วเรียกได้ว่าเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เล็กจึงสนิทกันมากเช่นเดียวกับท่านแม่ของพวกนาง

เรียกได้ว่ามารดาเป็นสหายสนิทกัน พวกนางที่เป็นบุตรสาวก็เป็นสหายสนิทไม่ต่าง

“รสชาติไม่เลวทีเดียว เจ้าก็รีบกินด้วยกันเถอะ” รั่วรั่วเอ่ยคีบอาหารจานเดียวกันให้สหายตนบ้าง

“กินเสร็จแล้วพวกเราออกไปเดินเล่นที่ลานดอกไม้ด้านนอกกัน” หญิงสาวเอ่ยชวนหลังจากที่ตั้งใจจะหยิบตะเกียบขึ้นคีบอาหารที่รั่วรั่วคีบให้เข้าปาก แต่กลับไม่ทันระวังปัดตะเกียบตกลงไปที่ใต้โต๊ะเสียก่อน

“บ่าวจะไปนำตะเกียบคู่ใหม่มาเปลี่ยนให้เองเจ้าค่ะ” เสี่ยวหรูอวี้เอ่ยก่อนจะก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่รอให้ผู้เป็นนายต้องเอ่ยสั่ง

“สาวใช้คนใหม่หรืออาเล่อดูคล่องแคล่วเชี่ยว”

“ใช่...ข้าถูกชะตาจึงเพิ่งรับมาอยู่ด้วยน่ะ” นางเอ่ยพร้อมทั้งยกยิ้มเล็กน้อย

ไม่นานตะเกียบคู่ใหม่ก็ส่งถึงมือนาง เรียกว่ารวดเร็วกว่าหลายเท่านักหากเทียบกับให้สาวใช้ผู้อื่นหรืออาหวนไปนำมาให้

อาหารเลิศรสสุราและชาชั้นเยี่ยม รวมไปถึงเสียงเพลงที่บรรเลงสร้างบรรยากาศฟังแล้วรื่นหูยิ่งนัก บรรยากาศงานเลี้ยงจึงแสนเพลิดเพลิน เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังไม่ขาด

จนกระทั่งจู่ๆ เสียงดนตรีก็เงียบลง ด้านเหล่าสตรีจึงเกิดความสงสัยกันอยู่ครู่หนึ่ง เหตุเพราะยังไม่ถึงเวลาจบงานเลี้ยงจึงทำให้คนเกิด ความสงสัย ท่านแม่ของนางจึงสั่งให้สาวใช้คนสนิทไปดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้นที่ อีกโถงงานเลี้ยงหนึ่ง

ไม่นานนักสาวใช้ผู้นั้นก็กลับมา

“ที่โถงใหญ่มีสิ่งใดหรือ” ท่านแม่นางเอ่ยถามขึ้น ท่ามกลางความอยากรู้จากทุกคนในบริเวณที่กำลังรอฟังคำตอบอยู่รวมไปถึงตัวนางเองก็เช่นเดียวกัน

“เรียนฮูหยิน เมื่อครู่มีของขวัญจากหย่งไห่ชินอ๋องส่งมาให้นายท่านเจ้าค่ะ”

สิ้นเสียงของสาวใช้ที่รายงานจบ ก็เกิดเสียงซุบซิบขึ้นรอบข้าง

“เป็นหย่งไห่ชินอ๋องผู้นั้นจริงหรือ” ฮูหยินชุดเขียวผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

“ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่” แม่นางชุดสีฟ้าอ่อนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น

“สกุลหลี่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับจวนชินอ๋องหรือนี่” เสียงเอ่ยเบาๆ จากฮูหยินผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ไกลๆ

หลายคำพูดที่กระซิบกระซาบต่างก็คาดเดาไปหลายเรื่อง แน่นอนว่า เรื่องที่หย่งไห่ชินอ๋องมอบของขวัญให้ในวันนี้ พรุ่งนี้ทั้งเมืองหลวงก็คงรู้กันไปทั่ว

“หลายวันมานี้สามีข้าทำงานภายใต้การควบคุมของท่านอ๋องน่ะ” ท่านแม่ของนางเอ่ยขึ้น หมายจะหาข้ออธิบายสักข้อเกี่ยวกับของขวัญที่ท่านอ๋องส่งมา

ก็นะ นี่ถือได้ว่าหลี่เจ๋อสามีของนางเป็นคนแรกที่ได้รับของขวัญจากหย่งไห่ชินอ๋องที่อยู่ใต้คนเพียงคนเดียวอย่างแท้จริงกระมัง

ต่างคนต่างก็มีความคิดแตกต่างกันไป พวกนางสกุลหลี่ไม่อาจไปบ่งการความคิดของผู้ใดได้จริงๆ

เสียงบรรเลงเพลงเริ่มขึ้นอีกครั้ง บรรดาฮูหยินและคุณหนูต่างๆ ก็พากันเดินกลับไปยังที่ของตน ทุกอย่างเกือบที่จะกลับเข้าสู่ความปกติแล้ว หากไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะมีสตรีผู้หนึ่งร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะมีเสียงน้ำกระจายดังขึ้นตามมา

ตูม!!!

“ช่วยด้วยมีคนตกน้ำ!!!”

“รีบเรียกคนมาเร็วเข้า!!!”

“บ่าวไพร่อยู่ไหนกันหมด มีคนตกน้ำ!!!”

เหตุชุลมุนเกิดขึ้น ตอนนี้ที่นี่มีแต่สตรีหลายคนจึงพากันตื่นตระหนกร้องเรียกให้คนช่วย

ด้านหลี่เยว่เล่อก็สั่งให้อาหวนไปตามคนจากโถงด้านหน้าที่บิดานางอยู่มา “อาหวนเจ้ารีบไปเรียกคนมาเร็วเข้า”

นางเอ่ยสั่งอาหวนยังไม่ทันได้ตอบรับ กลับเป็นเสี่ยวหรูอวี้ที่เอ่ยขึ้นเสียก่อน

“ให้บ่าวจัดการเองเถอะเจ้าค่ะ”

ยังไม่ทันที่หลี่เยว่เล่อจะได้ตอบตกลง หรือเอ่ยถามสิ่งใดเสี่ยวหรูอวี้ก็โฉบผ่านเบื้องหน้าของนางไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโจนลงน้ำไปในทันทีและคว้าตัวคนเอาไว้ได้

เสี่ยวหรูอวี้เพียงคนเดียวก็เพียงพอจะช่วยคนขึ้นมาจากน้ำได้อย่างสบายๆ หญิงสาวมีใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกอะไร เพียงแค่หันมาขออนุญาตนางกลับไปเปลี่ยนชุดเท่านั้น

“เสื้อผ้าบ่าวเปียกหมดแล้ว ขอคุณหนูอนุญาตให้บ่าวกลับไปเปลี่ยนชุดด้วยเจ้าค่ะ”

“รีบไปเถิด ประเดี๋ยวจะเป็นไข้เอาได้” นางเร่งตอบรับ ไม่เท่านั้นยังหยิบเสื้อคลุมของตนจากมืออาหวนมาสวมให้เสี่ยวหรูอวี้อีกด้วย

“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ”

โชคดีที่เวลาก็พอสมควรแล้ว ฮูหยินหลายท่านจึงพาคุณหนูขอตัวกลับก่อน (หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นหลายคนจึงไม่อาจอยู่รบกวนต่อจึงขอล่ากลับอย่างรู้มารยาท)

ท่านแม่ของนางพาฮูหยินที่ตกน้ำไปดูแลด้วยตนเอง หน้าที่การส่งแขกสตรีจึงตกมาเป็นของหลี่เยว่เล่ออย่างเลี่ยงไม่ได้

ด้านฝั่งงานเลี้ยงฝั่งบิดา พอนางให้คนไปแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น หลายคนจึงได้ขอตัวกลับพร้อมกับด้านแขกสตรีฝั่งนางเช่นเดียวกัน

หลี่เยว่เล่อรู้ได้ในทันทีเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ของสกุลหลี่นางจะต้องเป็นที่โจษขานไปทั่วเมืองอย่างแน่นอนเช่นว่า…

สกุลหลี่นั้นเป็นที่พอพระทัยของหย่งไห่ชินอ๋องถึงขั้นที่ท่านอ๋องส่งของขวัญให้ในวันสำคัญของสกุลต่อหน้าผู้คนมากมาย

อีกเรื่องก็คงจะเป็นเรื่องที่สกุลหลี่คงซ่อนยอดฝีมือเอาไว้ไม่น้อยแน่ เพียงแค่สาวใช้ก็มีวิชาตัวเบาไม่ธรรมดา

หญิงสาวกำลังคิดว่าข่าวลือเช่นนี้เบาไปหรือไม่ หรือไม่นางควรเพิ่มข่าวลือขึ้นอีกหน่อยท่าจะดีกระมัง

ข่าวลือเช่นนี้ถือเป็นเกราะป้องกันให้สกุลหลี่นางได้ไม่น้อยอย่าง แน่นอน

หากสัญญาที่หย่งไห่ชินอ๋องจะปกป้องดูแลสกุลหลี่อย่างลับๆ เปลี่ยนเป็นเปิดเผยครึ่งหนึ่งก็ถือได้ว่าดีกว่าจริงๆ

อย่างน้อยหากมีผู้ใดคิดจะลงมือกับสกุลหลี่นาง ก็ย่อมต้องหวาดกลัวอำนาจของหย่งไห่ชินอ๋องก่อนว่าคุ้มหรือไม่ที่จะเสี่ยง

“งานเลี้ยงวันนี้จัดได้ไม่เลวทีเดียว”

เจ้าของใบหน้างามเอ่ยออกมาอย่างพอใจ ริมฝีปากเล็กแย้มยิ้ม ออกมาอย่างไม่ปิดบัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel