ตอนที่ 3 - 1 บุพเพของพี่หญิงใหญ่
หลังจากชื่นชมเหล่าบัณฑิตท่องบทกวีกันจนจบ จ้าวฟางหรูจึงขอตัวกลับจวนก่อน เพราะวันนี้นางรู้สึกผิดหวังอยู่ไม่น้อย ครั้นแยกจากสหายสนิทของนางแล้ว เปี๋ยเอ๋อ สาวรับใช้คนสนิทก็เข้ามากระซิบบอกนางเบาๆ
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณชายใหญ่สกุลเถียนผู้นั้น หาได้มีคู่หมายอย่างเช่นคุณหนูรองเหลียงกล่าวมาหรอกเจ้าค่ะ” จ้าวฟางหรูชะงักเท้าก่อนที่จะหันกลับไปถามสาวรับใช้คนสนิทของนางทันที
“เจ้ารู้ได้เช่นไร”
“เมื่อสามสี่วันก่อน บ่าวได้ยินพวกในจวนพูดคุยกัน ถึงเรื่องผู้ที่ได้เป็นทั่นฮวาของปีนี้น่ะเจ้าค่ะ” เปี๋ยเอ๋อกระซิบบอกคุณหนูใหญ่ของตน
“เจ้าจะบอกว่า…เยว่เล่อนางโป้ปดข้าเช่นนั้นรึ เพราะเหตุใดนางถึงต้องทำเช่นนั้นกันเล่า”
“คุณหนูใหญ่อาจจะตำหนิว่าบ่าวปากมาก แต่บ่าวอยากจะขออนุญาตเตือนคุณหนูใหญ่สักหน่อย ว่าคุณหนูรองสกุลเหลียงผู้นั้น หาได้เป็นคนที่น่าคบหาไม่ นางไม่จริงใจต่อท่านเจ้าค่ะ" เปี๋ยเอ๋อกล่าวออกมา พลางสังเกตสีหน้าคุณหนูของนาง
“ไม่จริงใจเยี่ยงไรรึ” จ้าวฟางหรูเลิกคิ้ว แล้วเอ่ยถามสาวรับใช้ข้างกาย
"สองสามวันก่อนบ่าวได้ยินพวกบ่าวในจวนพูดคุยว่า ก่อนที่คุณหนูรองเหลียงจะหมั้นหมายกับคุณชายรองสกุลจ้ง นางเคยมอบไมตรีให้แก่คุณชายใหญ่สกุลเถียนมาก่อน แต่ทว่าคุณชายใหญ่สกุลเถียนผู้นั้นหาได้สนใจที่จะตอบรับไมตรีจากนางไม่ ยามที่คุณหนูใหญ่ถามถึงคุณชายท่านนั้น เหตุใดคุณหนูรองเหลียงจึงได้บอกว่าเขามีคู่หมายแล้วเยี่ยงไรเล่าเจ้าคะ”
เปี๋ยเอ๋อแสดงความเห็นที่เก็บกดเอาไว้ในใจมานานหลายปีออกมา นางรู้ดีว่าหากนางเป็นฝ่ายเอ่ยปากห้ามคุณหนูใหญ่มาตั้งแต่ต้น มีหรือที่คุณหนูใหญ่จะเชื่อ ว่าสหายที่คบหากันมานั้น มีจิตใจอิจฉาริษยามากเพียงใด นางจึงจำต้องปล่อยให้คุณหนูใหญ่ได้ลองคบหากับคุณหนูรองสกุลเหลียวดูสักครา บัดนี้อีกฝ่ายเริ่มเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว นางจึงกล้าเล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาให้คุณหนูใหญ่ได้ฟัง
“ฉลาดนัก… เจ้าไม่ต้องห่วงเปี๋ยเอ๋อ คุณหนูใหญ่ของเจ้าหาใช่เป็นสตรีที่โง่เขลาไม่ เพราะที่ผ่านมาข้าเองก็ไม่ได้คิดว่าจะผูกมิตรกับนางอย่างจริงจังเสียหน่อย ข้าเพียงแค่เห็นว่านางมีความชอบที่เหมือนกัน ยามได้พบปะพูดคุยกันทำให้ข้าได้สนุกสนานบ้างก็เท่านั้น”
จ้าวฟางหรูไม่เคยเก็บเอานิสัยของสหายผู้นี้มาใส่ใจ มีหรือที่นางจะมองเหลียงเยว่เล่อไม่ออก แต่ที่ผ่านมานางเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้กระทำการใดที่เป็นการทำให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย นางจึงยอมคบหามานานถึงสามปี ดูเหมือนสิ่งที่นางจะมองไม่ออก ก็คือสหายผู้นี้ไม่คิดอยากจะให้นางได้คบหาบุรุษที่ดีกว่าตนสินะ
ร่างระหงในชุดฮั่นฝูสีชมพูอ่อนเดินนำหน้าสาวรับใช้คนสนิทไป ท่ามกลางสายตาของเหล่าบุรุษ ที่มองมายังนางอย่างสนอกสนใจ ผู้ใดในตลาดแห่งนี้จะไม่รู้จักหญิงงามประจำเมืองหนานจางบ้าง คุณหนูใหญ่สกุลจ้าว ตระกูลคหบดีอันดับหนึ่งของเมือง ยามนี้ถึงวัยสิบแปดปี อีกทั้งนางยังเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงาม และอยู่ในวัยบานสะพรั่งเหมาะแก่การออกเรือนแล้ว แต่ทว่าแม่นางคนงาม ก็ยังไม่ยินยอมที่จะออกเรือนไปกับผู้ใดเสียที จนถึงกับมีชาวบ้านหลายคน ที่อยากจะเห็นว่าบุรุษใดจะมีความสามารถคว้าใจสตรีเช่นคุณหนูใหญ่จ้าวฟางหรูไปได้
ภายในร้านจ้าวจาง
จ้าวฟางเซียนกำลังนั่งดีดลูกคิด เพื่อคำนวณบัญชีรายรับรายจ่ายประจำเดือนของร้านจ้าวจางอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ทว่าภายในใจนางกลับคิดว่า ยามนี้พี่หญิงใหญ่ของนางคงจะได้พบเจอกับว่าที่พี่เขยแล้ว คุณชายใหญ่สกุลเถียนผู้นั้น คือคู่บุพเพของพี่สาวของนางอย่างแท้จริง เพราะหลังจากที่นางออกเรือนไป ทั้งสองก็ยังคงใช้ชีวิตคู่กันอยู่อย่างมีความสุข แต่ทว่าบุพเพของทั้งสอง ก็ทำให้นางต้องออกเรือนไป เพื่อตอบแทนบุญคุณของบิดามารดาแทนพี่สาวของนางเช่นกัน
“เซียนเอ๋อร์…พี่รองของเจ้าไปที่ใดเสียเล่า”
เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าห้องรับรองของร้านจ้าวจาง จ้าวฟางเซียนละมือจากตัวเลขในบัญชีตรงหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นตอบคำถามของผู้มาเยือน
“ออกไปซื้อขนมเซาปิงที่ร้านฮวาเจา เพื่อนำกลับไปฝากท่านแม่น่ะเจ้าค่ะ แล้วนี่พี่หญิงใหญ่เพิ่งจะกลับมาจากโรงน้ำชาอู๋เหลียงหรือเจ้าคะ”
“อือ…แล้วนี่เจ้าตรวจสอบบัญชีเสร็จหรือยัง มีสิ่งใดอยากให้พี่ช่วยเหลือเจ้าหรือไม่”
จ้าวฟางหรูตอบก่อนที่จะถามน้องหญิงรองออกมาอย่างใจดี แม้นางจะหัวไม่ดีเรื่องการคิดคำนวณเช่นน้องสาว แต่ก็ไม่ได้แย่จนเสียชื่อของบุตรีตระกูลคหบดีอันดับหนึ่ง
“ยังเลยเจ้าค่ะ คงจะอีกหลายชั่วยาม พี่หญิงใหญ่จะกลับเรือนก่อนก็ได้นะเจ้าคะ” จ้าวฟางเซียนตอบพี่สาวออกมาตามตรง
จ้าวฟางหรูพยักหน้าให้น้องสาว ก่อนที่นางจะเดินออกจากห้องรับรองไป เพราะถึงอยู่นางก็ช่วยอะไรน้องสาวไม่ได้อยู่ดี นางเดินเลือกชมผ้าไหมที่อยู่ภายในร้านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจกลับจวน โดยไม่รู้เลยว่าที่เรือนฟางเฟยนั้นกำลังมีเรื่องรอที่จะปรึกษากับนางอยู่
จ้าวฟางเซียนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกมาจากภายในห้องรับรอง นางเดินออกไปยืดเส้นยืดสายนอกร้านจ้าวจางโดยมีซู่เอ๋อคอยติดตามดูแลนางอยู่ห่างๆ ร้านจ้าวจางนี้เป็นหนึ่งในยี่สิบร้านค้าของตระกูลจ้าว ร้านนี้ขายผ้าไหม ผ้าแพรและผ้าต่วนขนาดใหญ่ ถือเป็นร้านขายผ้าอันดับต้นๆ ของเมืองหนานจาง
ที่จ้าวฟางเซียนได้รับความไว้วางใจให้ดูแลบัญชีของร้าน เป็นเพราะนางเป็นเด็กที่มีความสามารถ เรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาเลยก็ว่าได้ ทว่ายามที่นางได้ออกเรือนไปกับตระกูลเซี่ย นางกลับแทบที่จะไม่ได้ใช้วิชาความรู้เรื่องนี้ในการดูแลกิจการร้านค้าของตระกูลสามีเลย นั่นก็เป็นเพราะว่านางไม่ได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยเฟยหลงนั่นเอง
แต่ชีวิตนี้มีหรือที่นางจะทำตัวเฉยเมย และไร้ประโยชน์เฉกเช่นในชีวิตก่อน ชีวิตนี้นางจะต้องทำให้เซี่ยเฟยหลง มองเห็นในความดีและความจริงใจของนางให้ได้ อีกทั้งนางต้องสืบให้รู้ความ ว่าสตรีที่เคยทำให้น้องชายของเขาต้องจากไปคือผู้ใด หากบอกว่าเป็นพี่สาวของนางก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะพี่สาวของนางไม่เคยกล่าวถึงเรื่องที่ตนแอบไปมอบไมตรีให้กับบุรุษใดมาก่อนเลย จะมีก็แต่เพียงทั่นฮวาหนุ่ม ที่พี่สาวเลือกออกเรือนไปด้วยเพียงผู้เดียว
“เซียนเอ๋อร์…เจ้ากำลังจะไปที่ใด เจ้าตรวจสอบบัญชีประจำเดือนของร้านเราเสร็จแล้วรึ”
จ้าวฟางฉีร้องถามน้องสาวออกมา หลังจากที่เห็นว่าน้องสาวของตนกำลังเดินไปทางโรงเตี๊ยมอวี้โหรวอย่างเหม่อลอย ราวกับว่านางเป็นคนที่ไร้สติอยู่กับตัวอย่างไรอย่างนั้น
“พี่รอง…ข้าเพียงแค่อยากออกมาเดินเล่นคลายเครียดน่ะเจ้าค่ะ ท่านก็รู้…ว่าถึงแม้ข้าจะชื่นชอบในการคิดคำนวณ แต่ข้าก็ต้องการเวลาพักสายตาและสมองเช่นกัน” จ้าวฟางฉีมองน้องสาวด้วยแววตาประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะชูกล่องขนมเซาปิงที่เพิ่งไปซื้อมาจากร้านฮวาเจาให้นางดู
“ถ้าเจ้ายังไม่กลับ พี่ขอนำขนมนี้กลับไปฝากท่านแม่ก่อน แล้วอีกสองชั่วยามพี่จะกลับมารับ”
จ้าวฟางเซียนพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้แก่พี่ชาย จ้าวฟางฉีจึงจากไปพร้อมกับบ่าวรับใช้ข้างกาย จ้าวฟางเซียนมองตามพี่ชายไปชั่วครู่ก่อนที่จะหันไปบอกสาวรับใช้คนสนิท
“ถ้าเช่นนั้น….ซู่เอ๋อ พวกเราเองก็กลับไปที่ร้านกันเถิด”
กล่าวจบจ้าวฟางเซียนก็เดินนำหน้าสาวรับใช้ กลับไปยังเส้นทางเดิมที่พวกนางเดินมาทันที กลับเรือนไปค่ำนี้ คงจะมีเรื่องที่น่ายินดีให้นางได้ฟังที่นั่น
หากเป็นชีวิตก่อน จ้าวฟางเซียนก็คงจะรู้สึกหวาดหวั่น เพราะเกรงว่าตนเองจะได้ออกเรือนไปกับตระกูลแม่ทัพแทนผู้เป็นพี่สาว แต่ทว่าครานี้หากพี่หญิงใหญ่ของนางไม่ยินดี ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนาง ก็โอกาสที่นางจะได้แก้ไขเรื่องราวในชีวิตก่อน ใกล้มาถึงแล้วเช่นไร