ตอนที่ 2 รพีพัฒน์2
เสียงหอบหายใจของสองหนุ่มสาวดังสอดประสานอยู่นานนับหลายนาทีก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลง ชายหนุ่มพลิกตัวลงจากร่างบางแล้วถอดถุงยางอนามัยทิ้งลงถังขยะข้างเตียง ที่เจ้าตัวนำมาวางไว้ตั้งแต่เข้ามาในห้องพร้อมหญิงสาวแล้ว
รพีพัฒน์มองลูก ๆ ที่อยู่ในถุงยางอนามัยอย่างแสนเสียดาย ใจอยากให้มันเข้าไปเติมเต็มคนที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงจะแย่ ทว่าไม่อาจเห็นแก่ตัว เพราะหากพลาดพลั้งขึ้นมาพวกตนจะมีชีวิตเล็ก ๆ อีกหนึ่งชีวิตที่ต้องรับผิดชอบดูแล แม้ว่าเขาจะพร้อมมากก็ตาม แต่ของแบบนี้ใช่ว่าเขาพร้อมแล้วฝ่ายหญิงจะพร้อมด้วย อีกทั้งตอนนี้ทั้งตนและคนรักยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่อดทนอดกลั้นสวมถุงยางอนามัยต่อไป
“เลิกมองได้แล้วค่ะ มองทุกครั้งไม่เบื่อหรือไงคะ” หญิงสาวพูดแกมขำ
ชายหนุ่มปรายตามองคนบนเตียงที่ตอนนี้สวมผ้าขนหนูปิดนวลเนื้อขาวผ่องชวนลิ้มลองเรียบร้อยแล้วก็ทอดถอนใจออกมากล่าวว่า “จะให้เบื่อได้ยังไงครับ ก็นี่มันลูก ๆ ของพี่ทั้งนั้นเลยนะ พี่ฆ่าลูกตัวเองนะครับ มันก็ต้องยืนไว้อาลัยกันหน่อยสิครับ”
จบคำพูดของชายหนุ่มหญิงสาวก็หัวเราะร่าออกมาอย่างไม่เก็บอาการ เล่นเอาเจ้าของคำพูดถลึงตาใส่เป็นยกใหญ่
“ไม่ตลกเลยนะครับ ถ้าพริมยังไม่หยุดขำรอบหน้าพี่ไม่ใส่ถุงยางนะบอกเลย พี่จะปล่อยลูก ๆ ของพี่เข้าไปในท้องพริมทุกหยาดหยดเลย ดีไหมครับ” ใบหน้าหล่อเหลาทำสีหน้าขึงขังจริงจังกอปรกับเสียงเข้ม ๆ แต่กลับไม่ได้ทำให้หญิงสาวกลัวเลยสักนิด
“แหม... พูดอย่างกับพี่พีไม่เคยปล่อยในพริมอย่างนั้นแหละ”
“มันไม่เหมือนกัน! ทุกทีที่พี่ปล่อยใน พริมอยู่ในระยะปลอดภัยตลอด แต่คราวนี้ถ้าพริมไม่หยุดขำหรือล้อเลียนพี่อีก พี่จะปล่อยในพริมทุกรอบทุกวันเอาให้ท้องไปเลย เป็นไง ดีไหมครับ ว่าไปพี่ก็อยากมีลูกอยู่พอดี อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วด้วย”
รพีพัฒน์พูดออกไปตามความจริง ด้วยตอนนี้ตนอายุ 29 ปีแล้ว ปีหน้าก็จะ 30 เป็นธรรมดาที่จะคิดเรื่องการมีครอบครัว เพราะไม่ว่าจะรูปร่าง ฐานะ หน้าตา ตนก็พร้อมสรรพ
“เป็นอะไรไปครับ เงียบเลย” ชายหนุ่มถามด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นระลอกคลื่นสั่นไหวในแววตาคนรัก
“พี่พีคะ พริม..”
“ไม่เป็นไรครับคนดี อย่าคิดมาก พี่รอได้” ชายหนุ่มพูดอย่างเข้าใจพร้อมยิ้มทรงเสน่ห์ให้อย่างไม่นึกหวง สายตาที่ทอดมองไปมีแต่ความห่วงใยหาได้มีแววโกรธหรือไม่พอใจอย่างที่ควรเป็น คบกันมาหลายปีเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคนรักของเขากำลังคิดอะไรอยู่
“พริมขอโทษนะคะ พริมแค่” ใบหน้าของหญิงสาวหม่นหมองพูดด้วยน้ำเสียงเจือความรู้สึกผิด มองสบตาชายคนรักแล้วสะท้อนใจ ไม่ใช่ว่าไม่รัก ไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่งงาน แต่อะไรหลาย ๆ อย่างเบื้องหลังความสัมพันธ์ของครอบครัวฉุดรั้งเธอไว้ ทำให้ไม่สามารถทำตามที่ใจปรารถนาได้ในตอนนี้
“อย่าคิดมากสิครับ พี่รอได้ ขอแค่วันนี้พริมยังอยู่กับพี่ก็พอ ขอแค่พริมไม่ทิ้งพี่ไปไหนพี่ก็มีความสุขแล้วครับ” ชายหนุ่มว่าพลางส่งยิ้มอบอุ่นให้หญิงสาวคนรักที่ตอนนี้รู้สึกผิดน้ำตาคลอเบ้าจวนจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ จึงเร่งรีบตัดบทสนทนาไปด้วยไม่อยากให้หญิงสาวรู้สึกไม่ดีไปมากกว่านี้
“เหนื่อยไม่ใช่เหรอครับ ไปอาบน้ำเถอะนะคนดี เดี๋ยวพี่ทำความสะอาดเตียงรอ เสร็จแล้วจะได้มานอนพักผ่อนกันนะครับ”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่ายแล้วเดินหายไปในห้องน้ำ โดยมีรพีพัฒน์มองตามสุดสายตา