บทที่ 2 เด็กใหม่ 2
อันที่จริงแอรินควรจะเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ แต่ติดตรงที่ฝ่ายนี้จงใจจับปลาสองมืออย่างโจ่งแจ้ง เพราะต้องการอวดเบ่งเพื่อนร่วมอาชีพ สุดท้ายจึงกลายเป็นว่าถูกปลาใหญ่สองตัวทอดทิ้งเสียเอง
“น่าน”
“หืม? มีอะไรเหรอนี?” น่านนาราหันหน้ากลับไปถามเพื่อนที่อยู่ๆ ก็หยุดเดิน
“น่าน เธอลองคิดดูอีกทีไหม? เส้นทางนี้ถ้าประสบความสำเร็จเธออาจจะมีเงินเยอะในเวลาไม่นานก็จริง แต่ผลข้างเคียงที่จะตามมามันได้ดีกับตัวเธอเสมอไปนะ”
“...”
“ถ้าเธอก้าวผ่านประตูนี้ไป เธอจะไม่ใช่น่านนาราคนเดิมอีก ชีวิตของเธอต่อจากนี้ไปอาจจะพบเธอแต่สายตาที่คอยดูถูกดูแคลน รวมทั้งคำพูดเหยียดหยามต่างๆ นานา...ในสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครจริงใจต่อใครหรอกนะน่าน ฉันอยากให้เธอไตร่ตรองดูอีกที”
น่านนาราสูดลมหายใจเข้าปอด มือบางเอื้อมไปจับมือเพื่อนมาแล้วลูบเบาๆ หากที่นี่คือการค้าประเวณี อรนีก็คือนายหน้าที่พาเธอมาขายตัว เจ๊แขไขก็คือแม่เล้า
ทว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้น มันไม่ได้เป็นสีดำ มันเป็นเพียงสีเทาที่ทั้งสีขาวและสีดำปะปนอยู่ร่วมกันไป เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้อรนีคิดว่าเธอเป็นคนที่ดูอ่อนแอและอ่อนต่อโลกขนาดนั้น เธออยากปลอบเพื่อนและบอกอีกว่าไม่ต้องวิตกกังวลเกินไป เธอเองก็เป็นคนที่เอาตัวรอดเก่งคนหนึ่ง
เด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพเพียงคนเดียวตั้งแต่อายุสิบแปดย่างสิบเก้า ถ้าไม่มีความใจกล้าในระดับบวกกับความอดทนที่ต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้นจะเติบโตและอยู่มานานหลายปีขนาดนี้ได้ยังไง ถ้าเธออ่อนแอขนาดนั้นเธอคงร้องไห้กลับบ้านไปนอนซุกอกแม่แล้ว
แต่พูดไปตอนนี้อีกฝ่ายก็คงไม่เชื่อ เอาไว้มีโอกาสค่อยแสดงให้เห็นก็แล้วกัน
“ขอบใจที่แคร์ความรู้สึกฉันนะนี แต่ฉันโอเค เธอเองก็ไม่ต้องรู้สึกไม่ดีหรอกนะ ทุกอย่างเป็นฉันที่เลือกเองและฉันก็จะรับผลของมันด้วยตัวเอง”
“น่าน”
“เธอยังทำได้เลยไม่ใช่เหรอ? ฉันเองก็จะทำให้ได้เหมือนกัน เพื่อเงิน” คนพูดเอ่ยจบแล้วก็ขำออกมา “ขอแค่หมดหนี้ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
ประตูบานใหญ่ที่กั้นกลางระหว่างพื้นที่ของคลับกับด้านหลังร้านถูกเปิดออกด้วยมือของคนที่บอกว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเงิน ให้ตัวเองและครอบครัวหมดหนี้ ซึ่งทันทีที่เปิดออก เสียงเพลงจังหวะหนักๆ ก็ลอยเข้ามากระทบโสตประสาทอย่างจัง น่านนาราเผลอนิ้วหน้าด้วยเพราะนอกจากดนตรีจะไม่ใช่ในแบบที่ชอบแล้ว ระดับเสียงยังดังจนเธอคิดว่าน่าจะเกินมาตรฐานไปหลายเดซิเบล
“นี่เป็นโซนสแตนดาร์ดหรือเรียกว่าโซนมาตรฐาน ลูกค้าในโซนนี้ก็จะมีตั้งแต่ลูกค้าธรรมดาทั่วไปจนถึงวีไอพีหรือวีวีไอพี”
“หืม? ...มีการจัดระดับของลูกค้าด้วย?” น่านนาราเอ่ยถามด้วยสีหน้าแปลกใจ ไอ้ที่เธอเคยได้ยินเพื่อนในคณะชวนกันไปเที่ยวผับ คลับ บาร์ นี่เธอก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีแบ่งระดับกันอะไรแบบนี้ด้วย
“มีสิ” อรนีบอกด้วยท่าทางกลั้นขำเพื่อนตัวเอง น่านนาราดูไม่รู้เรื่องราวออกอย่างนี้จะไม่ให้เธอคิดหนักได้ยัง เกิดอยู่โดนลูกค้าหลอกไปทำอะไรไม่ดีไม่ควรขึ้นจะทำยังไง
“นี่นารา เธอควรรู้ไว้ว่าการแบ่งชนชั้นฐานะน่ะมันมีกันทุกทีโดยไม่มีข้อยกเว้น และในสถานที่แห่งนี้ตำแหน่งพีอาร์ไม่ได้อยู่ในลำดับล่างสุดของพีระมิด แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับสูงจนสามารถเชิดหน้าเดินได้”
“อืม...ฉันจะจำไว้”
“ไม่ต้องจำหรอก เรื่องพวกนั้นไม่ค่อยเกี่ยวกับงานโดยตรงเท่าไหร่ พวกเราเป็นพีอาร์ไม่ใช่เด็กเสิร์ฟ เธอเองก็ไม่ต้องเดินไปเสิร์ฟน้ำหรือเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ใคร จำไว้ว่าถ้าใครอยากชนแก้วหรืออยากพูดคุยกับเธอ พวกเขาต้องจ่ายเงินให้เธอเท่านั้น”
“...”
พูดจบอรนีก็สาธิตสิ่งที่ตนเองได้อธิบายไปเมื่อครู่ให้เพื่อนดูโดยการทำตัวเป็นลูกค้าเสียเองเพื่อให้เพื่อนอย่างน่านนาราได้ทดลองงาน
“สเต็ปต่อมาถ้าเขายอมซื้อดื่มให้เธอ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือจิบเป็นเพื่อนเขา ช้าเร็วตามจำนวนดื่มที่เขาซื้อ เธออาจจะชวนเขาคุยไปเรื่อยๆ ในเรื่องที่เขาเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมา ถ้าเขาไม่ชวนคุยเธอก็อาจจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเพราะการชวนคุยให้ลูกค้าคลายเหงามันถือเป็นหน้าที่ต้องทำ แต่เธอต้องสังเกตสีหน้าเขาด้วยนะ ถ้าชวนคุยไปแล้วไม่คุยตอบก็อย่าเซ้าซี้ ลูกค้าบางรายก็มาเพื่อหาเพื่อนดื่มจริงๆ แค่นั้น”
“แล้วในระหว่างนั้นถ้าเขาชวนไปที่อื่นเช่นไปห้องน้ำอะไรทำนองนี้ เธอต้องปฏิเสธเอาไว้ก่อน คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก ที่นี่ไม่มีกฎให้พีอาร์ออกไปข้างนอกกับลูกค้าในเวลางาน ดังนั้นข้อนี้เธอปฏิเสธได้เต็มที่และสำคัญที่สุดคืออย่าลืมจับเวลา แรกๆ เธออาจจะใส่นาฬิกาข้อมือเรือนเล็กๆ มาก่อนก็ได้ หนึ่งดื่มเท่ากับครึ่งชั่วโมง จำเอาไว้ด้วย”
“อืม...ฉันจำได้แล้ว เรื่องพวกนี้เธอสอนฉันตั้งแต่เราอยู่ในรถแท็กซี่แล้วไหม...อนนี่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนฉันถึงจะดู...เป็นงานแบบเธอ”
คำถามนั้นเรียกรอยยิ้มออกมาจากเพื่อนสาวคนที่นั่งอยู่ข้างๆ “ไม่รู้สิ ของแบบนี้มันแล้วแต่คน”
“...”
“เหลือเวลาอยู่ยี่สิบนาที เธอนั่งอยู่นี่นะ แล้วดูว่าแต่ละคืนฉันหาเงินยังไง แม่สาวน้อย”
“...ฉันอายุเท่าเธอย่ะ” น่านนาราทำจริตใส่เพื่อน ในขณะที่ข้างในของเธอก็ยังอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ มันเป็นเรื่องยาก เธอไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะทำงานนี้ได้ไหม แต่คิดอีกแง่งานนี้มันก็เป็นงานที่จะทำให้เธอใช้หนี้ได้หมดอย่างรวดเร็วที่สุด
เอาวะ! หนี้หมดเมื่อไหร่ชีวิตน่านนาราก็เป็นไทเมื่อนั้น สู้!