ตอนที่ 4 ตามไปส่ง 2
เมื่อกลับมาถึงบ้านชายหนุ่มก็ตรงขึ้นไปยังห้องนอน วางเสื้อสูทที่พาดอยู่บนแขนลงบนโซฟากลางห้องอย่างไม่สนใจราคาของมันเลยสักนิด ก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงสีหน้าเหนื่อยล้า
ร่างสูงใหญ่เอนกายพิงพนักโซฟา เปลือกตาปิดลงช้าๆ ในสมองหวนคิดไปถึงหญิงสาวที่เขารู้สึกสะดุดตาเพียงแค่กวาดตามองไปรอบๆเหมือนปกติ เธอดูแบบบางแต่สัดส่วนไม่บางเลยแม้แต่น้อย แขนขาเรียวเล็ก ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต คิ้วเรียวได้รูปที่มองออกว่าไม่ได้เขียน ปากได้รูปกระจับสวย ลำคอยาวระหง หน้าอกอวบอิ่มจนแม้แต่เสื้อกั๊กสีดำที่สวมทับเสื้อเชิ้ตอีกชั้นยังไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ สะโพกผายรวมทั้งบั้นท้ายกลมงอนที่น่าจับมาฟาดยามเธอโดนกดลงบนเตียง
ใบหน้าคมตามแบบฉบับลูกครึ่งไทยเยอรมันขยับเล็กน้อย เขาพยายามสลัดภาพของเธอออก หลังจากที่หญิงสาวเดินออกไปจากห้องทำงาน คนของเขาก็เรียกคนมาให้เขาฟัด แต่ภาพของหญิงสาวที่เขาสลัดไม่ออกมันทำให้เขาหมดอารมณ์จะทำกับคนอื่นจึงทำเพียงแค่ให้เงินแล้วไล่หล่อนออกไป
“อยากจะรู้นัก ว่าถ้ามานอนดิ้นอยู่บนเตียงของฉัน เธอจะส่งเสียงยังไง”
เขาพึมพำเสียงเบา จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับส่วนล่างที่ดันกางเกงราคาแพงออกมาจนเห็นได้ชัด ทั้งที่เขาเพียงแค่นึกถึงเธอเท่านั้น
ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ศลิษาตื่นมาเรียนแต่เช้าตามปกติ จนเมื่อหมดวิชาเรียนของวันนี้ก็ลงมายืนรอรถหลังจากที่ร่ำลาเพื่อนในกลุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ลิษา”
“อ้าว บอมบ์ ว่ายังไง”
“กลับกับเราไหม เดี๋ยวเราไปส่ง”
“วันนี้ไม่มีนัดสาวที่ไหนเหรอ”
“บ้า ไม่มี ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวโดนบีบแตรไล่”
“โอเค”
บอมบ์ หรือพาทิศ เพื่อนร่วมสาขาวิชาของศลิษาแวะจอดรถตรงที่เธอยืนอยู่ ก่อนที่จะอาสาไปส่งหญิงสาวที่หอพัก ศลิษาเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มมาแล้ว 2 ปี จึงไม่ได้มีปัญหาหากจะให้เขาไปส่ง
“บอกทางเราด้วย”
“โอเค”
ศลิษานั่งคุยกับพาทิศไปตลอดทาง เธอกับเขาไม่เคยใกล้ชิดกันมากกว่าเพื่อนร่วมกลุ่มในเวลาเรียน จึงไม่เคยมาคุยเรื่องส่วนตัวกันเลยสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พาทิศอาสาไปส่งเธอ
หญิงสาวเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างไว้ตัว จึงไม่ค่อยชอบให้คนที่ไม่สนิทมาถูกเนื้อต้องตัว เรื่องนี้คนในเอกเดียวกันรู้ดี เพราะเธอจะไม่สุงสิงกับใครนอกจากเพื่อนในกลุ่มเท่านั้น
“แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่มีนัดสาวๆล่ะ”
“เธอก็พูดไป เราก็ไม่ได้เจ้าชู้ขนาดนั้นนะ”
“ล้อเล่นน่า แล้วนี่จะไปไหน”
“วันนี้กลับบ้านเลย ญาติกลับมาจากต่างประเทศน่ะ ที่บ้านเลยมารวมตัวกัน”
“อ้าว แล้วพาเราไปส่ง ไม่เสียเวลาแย่เหรอ”
“ไม่ๆ นัดรวมตัวกันที่โรงแรมน่ะ ไปกินมื้อเย็นกัน”
“อ๋อ โอเค”
“ลิษา”
“หือ”
“เธอไม่มีแฟนจริงเหรอ”
“จะเอาเวลาที่ไหนไปมีล่ะ เราก็เรียนกับทำงานมาตลอดตั้งแต่จบมัธยมต้น”
“มันก็ใช่ แต่เธอดูเพื่อนดิ มีแฟนกันจนเปลี่ยนไปตั้งกี่คนแล้วก็ไม่รู้”
“เดี๋ยวเราจะมีแฟนคนเดียว มีแล้วแต่งงานเลย” ศลิษาพูดทีเล่นทีจริง
“เราจะรอดู มีอะไรให้เราช่วยเหลือก็บอกเราได้นะ เรารู้ว่าลิษาไม่ขอความช่วยเหลือใคร แต่บางทีถ้ามันเป็นเรื่องอะไรที่มันสะดวกใจเธอในฐานะเพื่อน เราช่วยได้ ขอให้รู้ว่าเราบริสุทธิ์ใจ เธอเป็นเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เราชื่นชมในความเก่งจริงๆ”
“โอเค ขอบใจนะ เอาไว้วันไหนทำงานดึกแล้วขี้เกียจไปเรียนเองจะโทรให้มารับ”
“ได้เสมอ ไม่มีปัญหา”
สองหนุ่มสาวคุยกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ มิตรภาพดีๆระหว่างเพื่อนมันทำให้หญิงสาวสบายใจมากขึ้น อย่างน้อยก็มีคนให้ความเป็นเพื่อนเธอได้เต็มร้อยเหมือนที่เธอเคยให้เพื่อนเต็มร้อยอย่างในอดีตที่ผ่านมา
“เราไปก่อนนะ”
“ไปเถอะ ขอบใจมากที่มาส่ง”
“จ้า เจอกันพรุ่งนี้”
“โอเค”
หญิงสาวยืนรอส่งจนรถยนต์คันหรูขับออกไปจากบริเวณที่จอดรถก็เตรียมจะเดินไปที่ลิฟต์ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นรถยนต์ที่มันดูคุ้นตาจอดอยู่ใกล้ๆ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็หมุนตัวเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างไม่ติดใจอะไรอีก