ตอนที่ 1.ความซวยกระทบหัวไหล่....
“ขอแสดงความยินดีกับสาวน้อยท่านนี้ด้วยนะครับ รางวัลใหญ่ของเราแตกตั้งแต่วันแรกแบบนี้ ก็แย่สิครับ” เสียงพิธีกรบ่น พร้อมกับหัวเราะ
พบูเอียงตัวกระซิบถาม “รางวัลใหญ่คืออะไรคะ คูปองกินฟรีทั้งปีหรือเปล่า?” หากเป็นเช่นนั้น กว่าจะหางานใหม่ได้ พบูคงไม่ต้องกังวลเรื่องท้องหิวอีกเลย ต่อให้กินก๋วยเตี๋ยวทั้งปีพบูก็ไม่บ่น เพราะเป็นของฟรี
“ไม่ใช่ครับ พอดีเถ้าแก่ของเรามีหุ้นส่วนเล็กน้อยกับบริษัททัวร์” พิธีกรยิ้มกริ่ม แล้วก็เฉลยต่อ “ถ้าใครอยากโชคดีเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้ พรุ่งนี้มาร่วมเล่นเกมกับเราอีกนะครับ รับประกันคุ้มค่า ผมอยากรู้แล้วสิ จะมีผู้เข้าแข่งขันคนไหนเอาชนะสถิติของคุณผู้หญิงท่านนี้ได้”
“คุณๆ ตกลงรางวัลคืออะไรเหรอคะ?” พบูกระตุกชายเสื้อแล้วก็ปั้นหน้าใสซื่อถามต่อ
“รางวัลสมนาคุณอีกอย่างที่ร้านก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์มอบให้คือ...บัตรท่องเที่ยวเรือสำราญเจ็ดวันเจ็ดคืนครับ”
มีเสียงเฮดังอยู่รอบตัว แต่พบูไม่ดีใจด้วย เธออยากได้เงินสักก้อน หรือไม่ก็คูปองอาหารที่ช่วยให้ตนเองประหยัดเพิ่มขึ้น
“เอาวะ ไปหาขายคนอื่นก็ได้ เพื่อมีคนอยากได้”
พบูกำตั๋วบริษัททัวร์ที่พิธีกรมอบให้เดินลงจากสแตน แต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุดกับชายแปลกหน้าท่าทางไม่เป็นมิตร คนกลุ่มนั้นมองมาที่เธอเป็นตาเดียว พบูลองขยับเดิน คนเหล่านั้นก็เดินตาม เธอเม้มปากรีบหาทางเอาตัวรอด
คนเหล่านั้นไม่ได้มาหาเธอฉันมิตรแน่ๆ คำเตือนของผู้จัดการร้านรองเท้าดังก้องในรูหู ‘คุณนายตันหยงไม่ใช่แค่รวยธรรมดานะ นางมีอิทธิพลด้วย’ พบูกวาดตามองไปรอบๆ เธออกแรงวิ่งสุดตัวตอนที่คนเหล่านั้นเผลอ เธอแอบตรงซอกเล็กๆ ที่ไม่มีคนสนใจ เป็นที่เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดของแม่บ้านที่ทำงานในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ พบูขดตัวอยู่ตรงนั้นหลายนาที
“หายหัวไปไหนแล้ววะ มึงเห็นไหมไอ้เข้ม หาตัวให้เจอด้วยละ ไม่งั้นคุณนายเอาพวกมึงตายแน่” เสียงแหบห้าวดังอยู่ใกล้ตัว พบูบีบตัวเองให้เล็กลงอีก เธอเดาถูกเสียด้วย ยายคุณนายนั่นไม่คิดจะจบแค่การบีบให้พบูตกงาน หล่อนตั้งใจลงโทษเธอด้วย
พบูนั่งนิ่งๆ จนแน่ใจว่าปลอดภัยจึงออกมาจากที่ซ่อน ทุกย่างก้าวมีแต่ความระแวง อะไรที่ผิดสังเกตจะทำให้พบูผวา
ในที่สุดเธอก็สามารถเล็ดลอดสายตาคนกลุ่มนั้นออกมาได้ พบูลงจากรถประจำทางวิ่งฉิ่วเข้าไปในซอยแคบๆ ลัดเลาะตามเส้นทางเลียบริมคลอง จนกระทั่งถึงที่พักตนเอง
เธอเป่าปากดังพรวด รีบไขกุญแจประตูมือไม้สั่น
พบูได้แต่ภาวนา เธอหวังว่าเพลิงโทสะของคุณนายตันหยงจะมอดดับลงเร็ววัน
แต่ทว่า...มันกลับไม่เป็นอย่างที่พบูคิดไว้ คุณนายตันหยงอาฆาตแรงกว่าที่เธอคิด คงเป็นเพราะพบูยังคงเหลือบุญเก่าไว้ให้พึ่งพา หลังอาบน้ำล้างคราบเหงื่อจนหมด พบูเลยตัดสินใจปิดไฟทั้งบ้าน เธอนั่งอยู่ท่ามกลางความมืดเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง
“มึงแน่ใจนะว่านังนั่นพักอยู่ที่นี่” เสียงแหบๆ ดังอยู่ริมกำแพง
“แน่ใจสิพี่” พบูจรดปลายเท้าเดินไปซุกตัวอยู่ใต้หน้าต่างแล้วแอบฟังเสียงที่ดังอยู่ด้านนอก
“ไฟไม่เปิด หรือมันยังไม่กลับมาวะ!!” มีเสียงย่ำเท้าดังสวบสาบ คนแปลกหน้าที่อยู่ด้านนอกมีมากกว่าสามชีวิต พบูเม้มปากแน่นแทบลืมหายใจ
“พรุ่งนี้มาดูใหม่ ยังไงก็ต้องจับตัวนังนั่นไปให้ได้” เสียงคนที่เป็นหัวโจกสั่งใครอีกคนที่พยายามจะพังประตูเข้ามา พบูเกร็งตัวจนขาเกือบเป็นตะคริว เธอพยายามเคลื่อนไหวให้เบาที่สุด หากคนเหล่านั้นเข้ามาด้านในได้ เธอคงตกอยู่ในอันตราย
ในที่สุดเสียงทุกอย่างก็เงียบลง คนเหล่านั้นคงถอนตัวไปแล้ว พบูคลานสี่ขาเข้าไปในห้อง เธอปิดประตูลงกลอนด้วยมือที่สั่นหนักกว่าเก่า เธอนั่งนิ่งใช้ความคิดอย่างหนัก คนพวกนั่นรู้ที่พักของเธอแล้ว จากนี้ไปเธอคงไม่มีวันอยู่อย่างสงบแน่นอน
พบูคิดอะไรบางอย่างออก ‘ตั๋วฟรี’ นั่นไงที่น่าจะช่วยเธอได้
เธอควานหาตั๋วที่ได้มาฟรีๆ นั่นขึ้นมาดูวันที่ เหมือนโชคเข้าข้าง ชะตากำหนด เรือลำที่เธอได้ตั๋วมาจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้นั่นเอง พบูไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก เธอควานหาเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าและเผ่นออกจากห้องพักตั้งแต่เวลานั้นเลย