3.ยัยหน้าจืด
ณ คณะวิศวะกรรมศาสตร์
ด้านธามไทพอไปส่งยัยจอมโก๊ะที่ทำให้เขาเสียเวลาแล้วเขาก็รีบขับรถมาที่คณะทันที เพราะวันนี้จะเป็นวันรับน้องวันสุดท้ายของคณะ ซึ่งรุ่นพี่ทุกคนจะต้องมาเข้าร่วม ทำให้เขานั้นรีบเดินมาแบบไม่สนใจเลยว่าใครจะมองเขา
“อื้อหือ…ยัยออยพี่สายรหัสแกมานู้นแล้วอ่ะ…หล่อโคตรๆเลยอ่ะแก…ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆเลยที่โชคดีได้พี่ธามเขามาเป็นพี่รหัสน่ะ” แก้มพูดออกไปขณะสะกิดเพื่อนสาวให้ดูพี่สายรหัสสุดหล่อที่กำลังเดินเร็วเข้ามาจนเธอละสายตาไม่ได้
“หึๆ ของแบบนี้มันแข่งบุญแข่งวาสนากันไม่ได้ไหมล่ะแก…” ออยพูดแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เพราะพี่รหัสของเธอคนนี้น่ะเป็นหนุ่มฮอตอันดับต้นๆของมหาวิทยาลัยเลย แถมยังโสดด้วย
“ก็จริง…แต่แกยิ้มแบบนี้นี่แกคงไม่คิดจะกินพี่เขาหรอกใช่ไหมเนี่ย” แก้มถามเพื่อนสาวไป เมื่อสายตาของเพื่อนสาวมองไปทางธามไทด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มแบบนั้น
“ก็ถ้าพี่เขาให้ฉันกินฉันก็กินสิแก งานดีแบบนี้ใครจะปล่อยให้พลาดล่ะ พี่เขาโสดนิ….มันก็น่าลองไหมล่ะ” ออยพูดไปแล้วก็ทำหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
“ไอ้น่าลองก็น่าลองนั่นแหละแก แต่แกก็ได้ยินเรื่องของพี่เขามานิ แกคิดว่าพี่เขาจะสนใจแกไหมล่ะ สาวๆจีบเขาเยอะนะแก ฉันว่ายากอ่ะ” แก้มตอบไปแล้วคิดว่าน่าจะยาก เพราะไดยินเพื่อนๆและพี่ๆในคณะบอกว่าพี่รหัสของเพื่อนสาวน่ะ มีผู้หญิงมาจีบเขาไม่เว้นวันเลย แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใคร
“ยากก็ยากสิแก ฉันก็ใช้การเป็นน้องสายรหัสของพี่เขานี่แหละ วันมะรืนจะมีกินเลี้ยงสายรหัสของฉัน ฉันก็จะได้กับเจอพี่เขา ฉันจะใช้โอกาสนี้แหละแก” ออยพูดไปแบบมาดมั่นเลย ก่อนจะมองไปทางธามไทด้วยรอยยิ้ม
ด้านธามไทพอเดินเข้ามาแล้วเขาก็เข้าไปหากลุ่มเพื่อนๆของเขาทันที เพราะตอนนี้พวกมันกำลังนั่งจับกลุ่มกันแล้วพูดคุยกันอยู่
“มาแล้วเหรอวะไอ้ธาม….ทำไมมาช้าจังเลยวะ….” มาร์ชเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มไป เมื่อเพื่อนหนุ่มเดินเข้ามา
“พอดีมีปัญหานิดหน่อยน่ะ แล้วนี่ใกล้จะเสร็จพิธีหรือยัง…” ธามไทถามไปแล้วมองหน้าเพื่อนหนุ่มไป
“พึ่งจะเริ่มเองว่ะ แกจะให้รีบจบไปไหนวะ…ตอนนี้น้องปีสองกำลังรับน้องอยู่ พวกเรารอแค่ออกไปรับสายรหัสก็แค่นั้น…แล้วนี่แกจะเลี้ยงสายรหัสพร้อมพวกฉันไหมวะ จะได้เหมามันทั้งคลับเลยแม่ง…” มาร์ชพูดไปตามประสาหนุ่มเจ้าสำราญ
“ถึงขนาดต้องเหมาคลับเลยเหรอวะไอ้มาร์ช…มันเวอร์เกินไปไหมวะ” ชินพูดเสริมออกมาทันที เพราะแค่เลี้ยงสายรหัสก็ไม่น่าจะถึงขั้นเหมาคลับขนาดนั้น
“แกยังไม่ชินกับความเวอร์ของไอ้มาร์ชมันหรือไงวะ…มันชอบอวดรวยแกก็รู้นิวะ…” เจไดพูดแซวเพื่อนหนุ่มไปแล้วก็ยิ้มออกมาแล้วยักคิ้วใส่ไป
“ไอ้เจได…ผีเจาะปากแกมาพูดหรือไงวะ ฉันไม่ได้อวดรวยโว้ย แค่อยากจะได้ความเป็นส่วนตัวเท่านั้นแหละว่ะ…สรุปแล้วพวกแกจะเอายังไงก็ว่ามาเลย…ฉันจะได้ไปบอกน้องรหัส..หลานรหัส..เหลนรหัสของฉัน” มาร์ชพูดบอกไป
“แกจะอยากได้ความเป็นส่วนตัวทำหอกอะไรวะ น้องๆรหัสพวกเราส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงก็มีไม่กี่คน…แกจะไปนั่งดูหน้ากันหรือไงวะ ฉันขอบายว่ะ ฉันอยากจะไปเจออะไรที่สวยๆงามๆ ไม่ใช่ผู้หญิงแมนๆที่แทบจะกลายเป็นทอมแบบนี้….” บอมพูดไปแบบนั้นเพราส่วนใหญ่ผู้หญิงที่มาเรียนที่นี่ จะเป็นผู้หญิงแนวห้าวๆ ไม่ค่อยมีสาวสวยหวานๆเท่าไหร่
“งั้นก็ไปคลับของพี่ชายแกดีไหมวะธาม…ครบวงจรดี เมาแล้วฉันจะนอนที่คลับเลยแม่ง…” มาร์ชเอ่ยถามไปเพราะเขาก็เล็งคลับของพี่ชายเพื่อนหนุ่มไว้อยู่แล้ว
“อืม…แล้วแต่พวกแกเลย ฉันยังไงก็ได้..” ธามไทพูดตอบไปเพราะเขาไม่ค่อยจะอะไรอยู่แล้ว เพื่อนว่ายังไงเขาก็ว่ากันไปตามนั้น
“โอเค งั้นก็ตามนี้แหละ ถ้าสายรหัสของพวกเราไปกันครบก็เกือบจะยี่สิบคนแล้วมั้ง…แค่คิดก็สนุกแล้วว่ะ พวกแกคอยดูนะ ฉันจะใช้ชีวิตปีสี่ให้สุดเหวี่ยงไปเลย” มาร์ชพูดออกไปแล้วยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“ที่ผ่านมาแกยังใช้ไม่สุดเหวี่ยงอีกเหรอวะ…แค่นี้ก็เละแล้วนะโว้ย…ฮ่าๆ…” เจไดพูดแซวเพื่อนหนุ่มไปอย่างขำๆ
“จริงว่ะ…ถ้าแกสุดเหวี่ยงกว่านี้ ฉันว่าแกจบช้ากว่าพวกฉันแน่ๆ….เพลาๆบ้างก็ได้โว้ย ปีนี้ก็จะจบแล้ว…โตเป็นผู้ใหญ่สักทีเถอะว่ะ” ชินพูดเตือนเพื่อนหนุ่มไป เพราะจบแล้วพวกเขาก็ต้องไปเรียนต่อเพื่อกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว แต่ดูเพื่อนเขาสิ มันยังเที่ยวยังไม่สนใจอะไรกับอนาคตมันเลยสักอย่าง
“เอาน่า ถึงเวลาฉันก็จบพร้อมพวกแกเองแหละ ปู่ฉันเป็นเจ้าของมหาลัยเลยนะโว้ย แล้วพ่อฉันก็เป็นผู้บรหารของที่นี่ด้วย มีเหรอวะที่ฉันจะเรียนไม่จบน่ะ..ฉันจบพร้อมพวกแกแน่ๆ…ไม่ต้องห่วง” มาร์ชพูดไปแล้วก็ยิ้มออกมาพร้อมกับยักคิ้วใส่เพื่อนหนุ่มไป
“เจได…บอกเพื่อนๆมารวมกันได้แล้ว เดี๋ยวเราจะรับสายรหัสกันแล้ว…” ณิชาพูดบอกเพื่อนหนุ่มให้ไปเตรียมตัวกันแล้ว แล้วเธอก็มองธามไทแล้วยิ้มให้ ก่อนจะเดินกลับไป
“นั่นเจได้ แม่แกเรียกแล้ว ป่ะ…เดี๋ยวจะโดนด่ากันยกทีม…ลุกสิวะ เดี๋ยวเจ้แกของขึ้นก็โดนด่าอีกอ่ะ ไปเร็ว…” บอมพูดบอกไป เพราะณิชาเป็นประธานรุ่นของพวกเขาและเธอก็ดุมาก
“แม่แกน่ะสิวะ…ปากแบบนี้แหละแกจะโดน เดี๋ยวฉันจะบอกณิชาให้ด่าแกต่อหน้าน้องๆเลยแม่ง…” เจไดพูดขู่ไป เพราะณชาน่ะปากร้ายมาก มากจนพวกเขาทั้งรุ่นต้องยอมให้เธออ่ะ
“ฉันไม่กลัว…เพราะฉันมีตัวช่วย…แค่อยู่กับไอ้ธาม ณิชาก็ไม่ดุเหมือนหมาแล้วแกก็รู้นิวะ…อยู่ต่อหน้าไอ้ธาม ณิชาอย่างกับผ้าพับไว้…นี่ถ้าฉันเป็นแกนะไอ้ธาม ฉันฟาดณิชาไปนานแล้ว…” บอมพูดไปแล้วเขายิ้มมุมปากออกมา เพราะทุกคนรู้ว่าณิชานั้นชอบธามไท ทำให้ณิชานั้นจะดูอ่อนโยนลงไปเลยเมื่อมีธามไทอยู่กับพวกเขา
“ฉันไม่ได้เอาไม่เลือกแบบแกนิวะ….สำหรับฉัน เพื่อนก็คือเพื่อน…” ธามไทพูดตอบไปด้วยเสียงเข้มแบบนิ่งๆ เพราะเขารู้ว่าณิชาแอบชอบเขาแต่ไม่ได้รู้สึกใดๆกับเธอนกจากคำว่าเพื่อนเลย
“แล้วเฟรีนล่ะวะ เพื่อนกันเหมือนกันนิ แกก็ยังเอาเลยนิวะ แบบนี้สองมาตรฐานนิวะ…” มาร์ชพูดเสริมไป เพราะเฟรีนก็เป็นเพื่อนในก๊วนกันอยู่ แต่ยังแอบมีซัมติงกับธามไทเลย
“เฟรีนเป็นเพื่อนฉันตอนไหนวะ” ธามไทเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มไป เพราะเขาและเฟรีนไม่ใช่เพื่อนกัน เขาเจอเธอที่คลับเมื่อปีที่แล้ว แล้วเขาก็มีความสัมพันธ์กับเธอก็แค่นั้น
“แล้วพวกแกจะไปยุ่งกับเรื่องของไอ้ธามมันทำไมวะ เอาเรื่องของพวกแกให้รอดก่อนเถอะ ดูหน้าณิชานู้นสิวะ ถ้าพวกแกยังเอาแต่คุยอยู่ตรงนี้แล้วไม่ไปสักที ก็ตัวใครตัวมันนะโว้ย ฉันไปก่อนล่ะ” ชินเห็นธามไทตอบมาแบบนั้นก็พูดบอกไปแล้วเขาก็รีบลุกไปทันที เพราะไอ้สองตัวนี่ดันไปพูดไม่เข้าหูเพื่อนหนุ่มซะแล้ว
“ฉันไปด้วยโว้ย…” เจไดพูดบอกไปก็รีบลุกตามเพื่อนหนุ่มไปทันที ทำให้ทั้งมาร์ชและบอมรีบเดินตามไป ส่วนธามไทก็เดินไปแบบนิ่งๆไม่พูดไม่จาอะไร เพราะเขาไม่ได้สนใจหรือกลัวใครอยู่แล้ว
จากนั้นธามไทก็ไปร่วมกิจกรรมรับสายรหัสตามธรรมเนียมที่คณะของเขาทำกันมาทุกปี แล้วเขาก็เจอสายตาของน้องผู้หญิงมองเขาแล้วยิ้มให้ แต่เขาก็ไม่สนใจหรือคิดจะส่งยิ้มไปให้ใครเลย เพราะเขาไม่คิดจะสนใจใครอยู่แล้ว
สามชั่วโมงต่อมา ณ โรงอาหารของมหาวิทยาลัย
เจนลดาและแบมบี้ก็มานั่งรอมิกกี้และไอริณที่โรงอาหารตามที่นัดกันเอาไว้….เพราะพวกเธอมีเรียนช่วงบ่ายต่อเลยไม่อยากจะออกไปทานข้าวข้างนอก
“นี่เธอคือคนที่นั่งรถมากับธามเมื่อเช้าใช่ไหม…” เฟรีนเดินมาหยุดที่โต๊ะของยัยเด็กปีหนึ่งนี่แล้วก็มองอย่างจดจ้องด้วยสายตาดูถูกเลย เพราะสวยก็ไม่สวย ไม่รู้ธามจะสนใจอะไรแม่นี่ถึงได้พานั่งรถมาด้วย
“คะ…พี่หมายถึงใครเหรอคะ” เจนลดาเงยหน้ามองแบบงงๆ เพราะเธอไม่รู้จักรุ่นพี่คนนี้ แล้วดูสายตาที่มองมาสิ น่าตบจริงๆ นี่เธอมาเรียนวันแรกก็จะมีศัตรูแล้วเหรอเนี่ย
“อย่ามาทำเป็นใสซื่อหน่อยเลย เมื่อเช้าเธอนั่งรถมากับธามได้ยังไง…เธอเป็นอะไรกับเขา…บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ…” เฟรีนพูดบอกไปด้วยสายตาร้ายๆ
“แล้วทำไมหนูต้องบอกพี่ด้วยล่ะคะ เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย…” เจนลดาตอบไปแบบไม่กลัว เพราะเธอยังไม่รู้เลยว่ารุ่นพี่คนนี้กำลังพูดเรื่องอะไร เธอไปนั่งรถใครกันมาล่ะเมื่อเช้า เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เมื่อเช้าเธอมากับพี่สุดหล่อนิ อย่าบอกนะว่าผู้หญิงของเขาตามมาหาเรื่องเธอเพราะเธอนั่งรถมากับเขาน่ะ คุณพระ…อะไรจะหึงขนาดนี้ เจนลดาคิดไปอย่างพิจารณา
“ถ้าไม่รู้จักเธอก็รู้จักเอาไว้ซะ ฉันชื่อเฟรีน…และผู้ชายที่เธอนั่งรถมาด้วยเมื่อเช้าก็เป็นผู้ชายของฉัน…ฉันจะเตือนเธอไว้นะ ว่าอย่ามายุ่งกับผู้ชายของฉัน ไม่งั้นเธอจะอยู่ที่นี่แบบไม่มีความสุข…จำเอาไว้ยัยหน้าจืด…” เฟรีนพูดออกไปแล้วมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
“แต่พี่เขาไม่ได้บอกว่าเขามีแฟนนะคะ…หนูว่าพี่ควรไปเตือนผู้ชายของพี่มากกว่ามั้งคะ….มาเตือนหนูแบบนี้คงไม่ได้ผลหรอกค่ะ เพราะพี่เขาหล่อแล้วก็น่ารักมาเลย หนูเองก็อยากได้…” เจนลดาพอได้ยินชื่อก็รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่โทรหาพี่สุดหล่อเมื่อเช้า แต่เขาไม่รับสายนี่เอง เธอจึงตอบไปแบบไม่สนใจ เพราะเธอก็อยากได้ ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้อยากจะได้คนเดียวซะที่ไหนล่ะ
แบมบี้หันไปมองเพื่อนสาวทันที เพราะขณะที่โดนหาเรื่องแบบนี้เพื่อนสาวของเธอก็ยังจะปากเก่งสู้ไปอีก ตายๆ นี่เพื่อนเธอมันเปิดศึกกับรุ่นพี่แย่งผู้ชายกันแล้วเหรอเนี่ย
“ฝันไปเถอะย่ะ อย่างเธอไม่มีวันได้ธามไปหรอก ก็แค่ลูกครึ่งหน้าตาธรรมดา แต่งตัวก็เฉยๆ ไม่มีมุมไหนที่ดูดีเลยแบบนี้ ธามเขาไม่มองหรอกย่ะ อย่าได้คิดฝันอาจเอื้อมของสูงเลย…เขาไม่มีวันสนใจเธอแน่..” เฟรีนพูดไปแล้วก็หัวเราะออกมา เพราะคนอย่างามไทไม่มีทางคว้าผู้หญิงแบบนี้มาเป็นแฟนแน่ๆ ขนาดเธอคุยกับเขามาเป็นปีๆ เธอยังไม่ได้เขาเลย ยัยนี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
“ถ้าพี่คิดว่าพี่เขาไม่สนใจหนูแล้วพี่ตามมาหึงหวงพี่เขากับหนูทำไมล่ะคะ หึๆ ทำไมคะ กลัวพี่เขาจะสนใจผู้หญิงหน้าจืดๆแบบหนูเหรอคะ…ก็ไม่แน่นะคะ…อีกหน่อย…หนูอาจจะพูดได้เหมือนกันว่าพี่เขาเป็นผู้ชายของหนู…” เจนลดาพูดไปแล้วก็ขำออกมา เพราะแค่นี้ก็เดาออกแล้วว่าหวงก้าง ถ้าเป็นแฟนกันป่านนี้ก็คงประกาศบอกเธอแล้วว่าเป็นแฟนน่ะ นี่เอาแต่พูดผู้ชายของฉันอยู่ได้
“เธอนี่มันเด็กแก่แดดจริงๆ อายุเท่านี้ก็คิดจะแรดนอนกับผู้ชายแล้วเหรอ…น่าสงสารพ่อแม่ของเธอจริงๆที่มีลูกแรดแบบนี้…” เฟรีนพูดกัดฟันออกไปแบบไม่พอใจ ก่อนจะต่อว่าเด็กตรงหน้าไปอย่างอดไม่ได้
“ก็สงารพ่อแม่พี่เหมือนกันแหละค่ะที่ส่งลูกมาเรียน แต่ลูกกลับมาไล่หึงหวงผู้ชายกับคนอื่นแบบนี้…แล้วอายุเท่านี้แล้วไงคะ เด็กบางคนก็ตั้งแต่แตกสาวแล้วด้วยซ้ำ นี่อายุสิบเก้าจะยี่สิบแล้วยังเคยนอนกับผู้ชายเลยค่ะ จะเรียกว่าแรดได้ยังไงคะ…คนที่เรียกว่าแรดได้ น่าจะพี่มากกว่านะคะ…” เจนลดาพูดออกไปแล้วเธอก็มองหน้ารุ่นพี่คนนี้อย่างไม่พอใจ ที่กล้ามาพูดลามปามไปถึงพ่อแม่ของเธอแบบนี้ มันก็ต้องเจอเธอสั่งสอนหน่อยแล้ว
“นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอ ยัยหน้าจืด…พรึบ..” เฟรีนพูดไปแล้วง้างมือจะตบหน้าของเด็กนี่ แต่ยัยเด็กนี่ก็เอามือมาจับข้อมือของเธอไว้ แล้วก็มองหน้าสู้เธอมา
“อย่าคิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วหนูจะกลัวนะคะ…ถ้าพี่ตบ หนูก็ตบเหมือนกัน…ทางที่ดีอย่ามาหาเรื่องกันดีกว่าค่ะ…” เจนลดาพูดบอกไปแล้วก็สะบัดมือของรุ่นพี่คนนี้ออกไป
“ถ้าพี่มาหาเรื่องเพื่อนหนู หนูจะไปฟ้องอาจารย์นะคะ หนูถ่ายวิดีโอไว้หมดแล้วว่าพี่มาหาเรื่องเพื่อนหนู” แบมบี้พูดไปแล้วเธอก็ชูโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างพร้อมช่วยเพื่อนสาว
“ไม่ใช่เรื่องของน้องอย่างเสือก…” เอิร์นเพื่อนของเฟรีนที่มาด้วยพูดออกไป แล้วมองรุ่นน้องอย่างเอาเรื่อง
“พี่ก็ไม่ควรเสือกเหมือนกันค่ะ…” แบมบี้ตอบกลับไปแล้วมองหน้ารุ่นพี่ที่มาหาเรื่องเพื่อนของเธออย่างไม่กลัวเช่นกัน เพราะพวกเธอถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว
“เกิดอะไร มีเรื่องอะไรกัน…” เสียงเข้มๆของมิกกี้พูดออกไปพร้อมกับร่างกายสูงใหญ่เดินเข้ามาแบบดุๆ ก่อนจะมองไปยังผู้หญิงสามคนที่เข้ามาเหมือนจะมีเรื่องกับเพื่อนของเขา
“แกมาก็ดีเลย พี่สามคนนี้เขามาหาเรื่องพวกฉัน แกช่วยจัดการให้ฉันหน่อยสิ” แบมบี้เห็นมิกกี้มาก็รีบบอกเพื่อนหนุ่มทันที เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอกำลังทำทรงเข้มเป็นชายแมนๆอยู่
“ฝากไว้ก่อนเถอะ…ถ้าเธอยุ่งกับผู้ชายของฉันอีก เธอเจ็บตัวแน่…” เฟรีนพูดไปแล้วก็เดินออกไปทันที เพราะกลัวเพื่อนผู้ชายของยัยหน้าจืดนี่ เพราะมันมองมาที่พวกเธอซะน่ากลัวเลย เธอเลยต้องรีบเดินหนีออกมา
“หึ…กลัวตายล่ะ แค่นี้ก็กลัวหางจุกตูดแล้ว เฮ้อ…อ่อนจริงๆ” เจนลดาพูดไปแล้วก็มองตามพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
“อะไรของแกเนี่ย มาวันแรกก็จะตบกับรุ่นพี่แย่งผู้ชายแล้วเหรอยะ” มิกกี้สลัดความมาดแมนเมื่อกี้ออกไปแล้วก็นั่งลงไปตรงข้ามเพื่อนสาว ก่อนจะเอ่ยพูดออกไป เพราะแค่ได้ยินประโยคส่งท้ายก็เดาออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ฉันไม่ได้แย่งเลยแก…พี่เขาเข้ามาหาเรื่องฉันก็เลยพูดกวนเขาไปแค่นั้นแหละ” เจนลดาพูดตอบไปแบบขำๆ
“จ้ะ…เมื่อกี้ถ้ามิกมันไม่เข้ามาช่วย แกอาจจะโดนพี่เขาตบเลยนะเจด้า…แกเพลาๆเรื่องความห้าวของแกหน่อยเถอะ อย่างสร้างศัตรูเลยแก…” แบมบี้พูดออกไปเพราะนี่พึ่งวันแรกเองนะ
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะสร้างไหมแก แต่เขามาหาเรื่องฉันเองนิ จะให้ทำยังไงล่ะ เดี๋ยวแม่ก็แย่งพี่คนนั้นจริงซะเลยนิ พี่เขายิ่งน่ารักอยู่ด้วย…” เจนลดาพูดไปแล้วก็ยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงรุ่นพี่หน้าหล่อที่เธอเจอเมื่อเช้า เธอก็อดยิ้มไม่ได้เลย
“เนี่ยๆ เมียเขาจะมาตบแกก็เพราะแบบนี้แหละ จะแรดกับใครก็ได้แต่คนคนนั้นต้องไม่มีแฟน เพราะถ้าเขามีแฟนแล้วเขามายุ่งกับแกได้ ให้แกคิดไว้เลยว่าถ้าวันหนึ่งแกคบกับเขา เขาก็ไปทำแบบนี้กับคนอื่นได้เหมือนกัน เข้าใจไหมยะ…” มิกกี้พูดบอกไปแล้วมองเพื่อนสาวอย่างจดจ้อง
“เข้าใจแล้วค่ะคุณมิกกี้…..แล้วนี่ไอริณล่ะ ไม่มากับแกเหรอ” เจนลดาเอ่ยถามออกไป เพราะไม่เห็นไอรีณเพื่ออีกคนในกลุ่มเลย
“เฮ้อ..ยัยไอไปกับเพื่อนก๊กใหม่ของนางแล้วจ้ะ วันนี้นางเทพวกเรา พูดแล้วก็น่าโมโหจริงๆ ไม่น่าเสียเวลาไปรับมาเลย…” มิกกี้พูดบอกไปแล้วก็ยักไหล่ เพราะเขาไปรับแล้วแต่ไอรีณบอกว่าจะไปกับเพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน เขาก็เลยมาคนเดียวเลย
“เอาน่าแก ยัยไอมันก็ต้องมีสังคมเพื่อนที่เรียนด้วยกันด้วยสิ จะมาคบแต่พวกเราได้ยังไงล่ะ เราเรียนมหาลัยแล้วนะไม่ใช่ไฮสคูลเพราะฉะนั้นต้องเริ่มคิดแบบผู้ใหญ่นะคะ” แบมบี้พูดบอกไปเพราเข้าใจเพื่อนสาว
“จริง…แกก็อย่าไปงอนเลย ยังไงยัยไอเลย….เอางี้ ฉันเลี้ยงเหล้าปลอบใจแกดีไหม…” เจนลดาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มออกมา
“ดี…นี่แหละที่ฉันต้องการ…เมื่อไหร่ วันนี้เลยดีมะ ฉันว่างพอดี…” มิกกี้พูดไปแล้วยิ้มออกมาอย่างแพรวราวเลยที่เพื่อนสาวจะเลี้ยงเหล้าเขา
“ฉันไม่ว่างน่ะสิแก วันนี้ฉันต้องไปซื้อรถกับพี่ชายฉันอ่ะ ไว้วันมะรืนได้มะ ฉันกลับดึกได้ เราจะได้เที่ยวแบบสะใจไปเลยไง…” เจนลดาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มออกไป
“แต่อายุเรายังไม่ถึงเลยนะแก เราจะเข้าผับได้เหรอ…คราวก่อนหลบตำรวจแทบไม่ทันเลยนะแก….” แบมบี้พูดไปเพราะเธออายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าผับได้
“เรื่องนั้นฉันจัดการเอง…เข้าได้แน่นอน…รอบนี้ฉันจะพาพวกแกไปคลับใหม่..สวย หรู ผู้ชายงานดีมาก…” มิกกี้พูดบอกไปแล้วยักคิ้วใส่เพื่อนสาวไป
“โอเค งั้นจัดไปค่ะเพื่อน…วันมะรืนเจอกัน…” เจนลดาตอบเพื่อนหนุ่มไปแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เพราะเธอชอบไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆของเธอแบบนี้ที่สุด