บทที่1.ฉนวนเหตุ!! 2/3
“อืม...มีธุระน่ะ” แพรวนรีตอบเสียงแห้ง ท่าทางหล่อนร้อนรน เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
“ล็อคประตูด้วยนะ วันนี้ขอนอนยาวๆ สักวัน” สาวเจ้าของห้องตะโกนบอก รีบซุกตัวใต้ผ้าห่ม และหลับใหลไป โดยไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องกำลังสร้างความลำบากให้ตนเอง
“ขอโทษนะปัด...” แพรวนรีพึมพำ เธอรีบเร้นกายหายไปความมืด จุดหมายปลายทางยังไม่แน่ชัด แต่ที่เธอรู้...เธอต้องรีบไปก่อนที่เงามัจจุราชจะมาคร่าชีวิตตนเอง
คนนอนหลับหลับสนิท ฝันหวานเพราะไม่รู้เรื่องรู้ราว...
“ว่าไงนะ...แกต้องการบอกอะไรพี่กันแน่!!” เสียงแหบห้าวเอ่ยถามผู้ชายวัยอ่อนกว่าตรงหน้า น้ำเสียงที่ใช้เย็นชาเสียจนคนเป็นน้องหนาวถึงไขกระดูก
ธาม นาคะวงศ์ น้องชายสุดหล่อของธันน์ นาคะวงศ์ สองหนุ่มที่สังคมกำลังจับตามอง เมื่อทั้งคู่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ไฟแรง แกร่ง และเก่งแบบนักธุรกิจรุ่นเก่าต้องยกนิ้วให้
“ผมก็ไม่รู้ว่ามันหายไปตอนไหนครับ ผมเก็บไว้ที่เดิมหลังเอาออกมาอวดสาวๆ พวกนั้นแล้ว” ธามตอบเสียงเป็นกังวล เมื่อของสำคัญอันตรธานหายไป
ปาร์ตี้ตามประสาหนุ่มโสด อัญมณีชุดสำคัญหายไป...นั่นยังไม่ร้ายแรงเท่า เมื่อมันไม่สามารถจำมือใครดมได้ แหวนเพชรเม็ดงามหายไปอย่างไร้ร่องรอย มันอันตรธานหายไปจากที่เก็บแบบจับมือขโมยไม่ได้นี่ซิ
“แกถามแม่พวกนั้นหรือยัง?” ธันน์ตะคอก เครื่องเพชรชุดนั้นมีมหาเศรษฐีสั่งทำ เขาจะใช้สำหรับวันสำคัญ เพื่อผู้หญิงที่เขารัก แต่มันดันหายไป ทั้งที่ใกล้ถึงวันส่งมอบ
“ถามแล้วครับ...แต่ละคนไม่รู้เรื่อง แต่เดี๋ยว!!” ธามตอบ เขาขมวดคิ้วเมื่อพอจะนึกอะไรออกเลาๆ “มีคนบางคนหายไป...แม่นั่นไม่ใช่คนที่ผมสนิทด้วยนี่นา... หรือว่า...” ปลายนิ้วชี้เคาะข้างขมับ เขาย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป
“ใคร?” ธันน์เดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ น้ำเสียงเหี้ยมเกรี้ยม จนคนฟังนึกกลัวแทน ‘โจร’
“ไม่แน่ใจนะครับพี่ รู้แค่ว่าเป็นพริ้ตตี้ในกลุ่มนั้น” ธามตอบ เขากัดกรามกรอด ที่ถูกลูบคมจากสาวๆ
“ฉันจะตามเอง...เอาประวัติหล่อนมา” น้องชายเป็นคนใจอ่อน หากแม่นั่นเล่นละครตบตา ธันน์เกรงว่าธามจะใจอ่อนและปล่อยหล่อนจะลอยนวลไป ผู้หญิงหิวเงินพวกนั้น...ควรได้รับบทเรียนให้สาสม หล่อนจะได้ไม่กระทำแบบเดิมซ้ำ
“ครับพี่” หนุ่มรุ่นน้องรับคำ เขากลัวแทนผู้หญิงคนนั้น ไม่รู้ว่าหล่อนบ้าดีเดือดมาจากไหน ถึงกล้า...ล้วงคองูเห่า อย่างธันน์ นาคะวงศ์
“ไหนล่ะของที่เธออยากให้ฉันหาที่ปล่อยให้?” เสียงแหบๆ ร้องถาม เมื่อแพรวนรีดันประตูไม้เก่าๆ ให้เปิดเข้าไป
หญิงสาวปรายตามองผู้ชายหุ่นผอมบางที่นั่งเอนๆ อยู่บนโซฟาผ้าเก่าๆ เขากำลังพ่นควันบุหรี่ออกมาจากปาก ด้วยถ้วงท่ามีความสุข
“ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะอิฐ” แพรวนรีบ่นพึม แฟนหนุ่มขี้ยาของตัวเองวันๆ ไม่ทำอะไร คิดแต่จะทำเรื่องไม่ดี บุหรี่ในมือของเขาคงไม่ใช่บุหรี่ธรรมดาเหมือนที่คนทั่วไปเขานิยมกัน
“อะไรอีกล่ะ!!” ชายหนุ่มตะคอก ดูดก้นบุหรี่แรงๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วดีดม้วนบุหรี่ที่มอดไหม้จนหมดแล้วลงในถังขยะข้างตัว
“เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวแบบนี้สักทีล่ะ อิฐสัญญากับนรีแล้วนะ” หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นว่างๆ ของโซฟาตัวนั้น ปลดกระเป๋าสะพายไหล่วางไว้ข้างตัว แต่ชำเรืองมันบ่อยๆ ด้วยสายตาระแวดระวัง
“เอาน่า สักวัน” ฝ่ายชายตอบอย่างขอไปที ในหัวสมองไม่เคยคิดเหมือนคำพูด เมื่อตกเป็นทาสยาเสพติดเต็มตัว
“ทุกที!!”
หญิงสาวพูดเสียงขึ้นจมูก เอนตัวพิงเบาะเก่าๆ หลุบเปลือกตาลง
“มันไม่ง่ายเหมือนที่เธอคิดหรอกนะนรี” อิฐตอบ เขาเองก็อยากพ้นวังวนโสมมนี่ แต่...ใจเขาไม่แข็งพอ
มันไม่เหมือนโยนขยะลงในถัง...การเลิกเสพยา มันเหมือนโลกตรงหน้าถล่มทลาย เจ็บปวดเจียนตายกว่าจะผ่านห้วงความทรมานนั่น ขณะนี้เขามีความสุขดี จึงยังไม่อยากลด ละ สิ่งที่ตนเองโปรดปราน เมื่อยังมีสตางค์กว้านซื้อยามาเสพได้...ไม่ได้อัตคัตถึงขนาดต้องขาดยาดิ้นทุรนทุรายน่าอาย