ตอนที่ 4 คนสวย
เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย ยังไม่ทันแยกกลับบ้านกลับช่องไปพักผ่อน โยษิตาก็ต้องเป็นธุระประสานงานจัดปาร์ตี้ใหญ่ให้ตามคำขอของอิทธิพล เขาเจรจากับคู่ค้าราบรื่น แน่นอนว่าต้องเรียกร้องรางวัล ในขณะที่เจ้านายหนีไปนอนเอาแรง โยษิตาอยู่ทำหน้าที่ประสานงานติดต่อคนมาเตรียมปาร์ตี้ ยังต้องส่งคำเชิญด่วนพร้อมคัดเลือกหญิงสาวสักสามสิบสี่สิบคนมาสร้างความบันเทิงให้เขา ใกล้เย็นพอฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี แขกเหรื่อเพื่อนพ้องก็เริ่มทยอยเดินทางมาร่วมสนุก
“อยากได้เลขาแบบคุณโยบ้างว่ะ นี่ถ้ามาอยู่กับกูนะ ไม่มีทางให้คนสวยทำงานหนักแบบนี้”
เพื่อนในกลุ่มที่สนิทกับอิทธิพลกล่าวความในใจ พลางมองไปยังหญิงสาวที่กำลังคุยยิ้มน้อยๆ กับเจ้าของโมเดลลิ่งดัง เธอสวมชุดเสือเบล้าส์สีเขียวอ่อนเข้าคู่กับกระโปรงทรงเอสีขาวยาวครึ่งเข่า เรียวขาเสลาขับเน้นทรวดทรง เมื่อยืนอย่างมั่นคงอยู่บนรองเท้าส้นสูงสีครีม ก็ให้บุคลิกทั้งสุภาพอ่อนหวานและมีบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกปนกัน
จะบอกว่าซ่อนความเซ็กซี่ที่คาดไม่ถึงก็ย่อมได้ เหล่าผู้หญิงที่มาร่วมงานใส่น้อยชิ้นจนชินตา โชว์หราถึงขั้นที่ว่าอีกนิดเดียวก็จะถอดหมดแล้ว กลับสร้างความเย้ายวนได้ไม่เท่าแม่สาวแว่นหนาเตอะในชุดเลขาสาวสุภาพสักนิด เขาเริ่มคิดว่าสามปีโยษิตาไม่โดนกรงเล็บแหลมของอิทธิพลตะปบ อาจเพราะสายตาของเจ้าพ่อเสือนักล่าเริ่มจะมีปัญหา
ไม่อย่างนั้นผู้หญิงที่ซ่อนความงามไว้ใต้แว่นหนาคนนี้คงไม่รอด อาจจะโดนจับกินไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้ว
เจ้าของปาร์ตี้หยักยิ้มมุมปาก ข้างกายซ้ายขวาหนีบไว้ด้วยหญิงสาวแต่งตัววับๆ แวมๆ “มึงนี่ชอบอะไรเชยๆ”
“เชย? ฮาฮ่า งั้นยกให้กูได้ไหมวะอิท แม่กูเขากำลังมองหาลูกสะใภ้พอดี งานวันก่อนเห็นเลขาโยก็เอาแต่ถามถึงไม่หยุด ดูท่าจะถูกใจมาก”
“เขาเป็นเลขากู ยกให้มึงไปแล้วจะเอาที่ไหนไว้ใช้ ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ เลยนะโว้ย คนที่จัดการทุกอย่างให้กูได้ขนาดนี้”
มาขอกันซึ่งหน้า เห็นเจ้านายอย่างเขาเป็นนักบริจาคหรือไง กับเลขาที่เขาได้มาราวกับถูกหวยคนนี้ ให้ตายก็ไม่ปล่อยไปทำงานกับคนอื่นหรอก เสียดายของแย่
ปาร์ตี้เลิกราเกือบตีสอง อิทธิพลเมาหนักสมกับที่ตั้งใจจึงไม่ได้หิ้วผู้หญิงขึ้นไปบนห้อง โยษิตารับหน้าที่แบกตามเคย วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ให้ดูแลคนเมาต่อก็ไม่ค่อยอยากทำจึงรบกวนแม่บ้านประจำที่ไว้ใจได้ขึ้นมาช่วย
หลังทิ้งร่างหนักอึ้งลงบนเตียงนอน ขณะหญิงสาวเตรียมจะผละกลับไปพักผ่อน ได้มีฝ่ามือหนาคว้าจับที่ต้นแขนนุ่มหมับแล้วพลิกโยษิตาลงไปบนเตียง ท่วงท่าเช่นนี้ เหตุการณ์ประมาณนี้เคยเห็นแต่ในละครหลังข่าว ดูท่าไม่ชอบมาพากลเลขาสาวพลันร้องให้คุณแม่บ้านช่วยทันที เพียงแต่ยังไม่ทันเปล่งเสียงสักแอะ ก็ถูกผนึกริมฝีปากอุดถ้อยคำขอความช่วยเหลือ
“อือๆ” มือของโยษิตาผลักอกเจ้านายหนุ่ม สองขาดิ้นทำท่าไม่ยินยอมเพื่อให้คุณแม่บ้านเข้าใจ แต่มองไปอีกทีกลับไม่มีเงาคนอยู่ในห้องแล้ว พร้อมกันนั้นก็ได้ยินเสียงงับประตูปิดให้แผ่วเบา
คนที่ควรยื่นมือช่วยดันเข้าใจผิดไปว่าพวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัวเสียอย่างนั้น นี่มันอะไรกันเนี่ย!
โพลงปากฉ่ำหวานถูกรุกราน ชายหนุ่มบนร่างอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้าชวนให้เวียนหัว โยษิตาเก่งเรื่องรับมือกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่พอถูกจับกดไว้อย่างแน่นหนาก็จนหนทาง เธอดิ้นสู้สุดฤทธิ์ กลับไม่สามารถเรียกสติเขาได้
บนเตียงนอนนุ่มคิงไซส์ กระโปรงทรงเอเรียบร้อยร่นขึ้นมาอยู่ที่เอวคอด เผยเรียวขาผ่องผาดงดงามคู่หนึ่งหนีบเข้าหากันแน่น อิทธิพลลูบไปลูบมาคล้ายจะรู้สึกไม่ได้ดั่งใจจึงดันหัวเข่าเธอแยกออก เอนตัวแทรกเข้ามาอยู่ระหว่างเขา ท่วงท่าเตรียมเผด็จศึกเต็มที่ สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่รุกร้อนผงาดตั้งอยู่ในกางเกงสแล็คสีดำ ขนาดมหึมาของมันทำเอาโยษิตาขนลุกซู่
“คุณอิทอย่าทำผิดกับคนธรรมดาอย่างโยเลยนะคะ โยยังอยากทำงาน มีอะไรค่อยคุยกันเถอะค่ะ ค่อย…”
“จุ๊ๆ เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นเถอะ ผมไม่ชอบสาวช่างพูดเวลาอยู่บนเตียง”
หื้ม? เขายังมีสติอยู่หรอกเหรอ งั้นก็สามารถเจรจากันได้สิ โยษิตายังมีความหวัง
ขณะที่เจ้านายหนุ่มฉีกเสื้อเธอจนขาดแล้วง่วนขย้ำหน้าอกคู่อวบอึ๋ม เสียงของหญิงสาวดังเจื้อยแจ้วปนหอบ เดี๋ยวขาดห้วงไม่เป็นคำ เดี๋ยวตะเบ็งโก่งคอตะคอกใส่ “โอเคไหมคะ ฟังก่อนได้ไหม นี่คุณอิท ตกลงคุณฟังอยู่หรือเปล่า!”
พร่ำบ่นอยู่ได้สักพักใหญ่ ไม่ทราบเป็นเพราะรำคาญหรือเปล่า อิทธิพลจึงเลื่อนริมฝีปากที่กำลังดูดฟัดอกตูมเต่งขึ้นมา เริ่มทำการขบจูบอุดถ้อยคำที่พรั่งพรูเอาไว้ ท่อนล่างกดลงแนบชิดกับร่องขาด้านในของหญิงสาวมากยิ่งขึ้น เสียดสีกันจนช่องท้องน้อยร้อนวูบวาบไปหมด
ในหัวของโยษิตาเต็มไปด้วยคำว่า ไม่ได้ๆ อย่างเดียว เขาหยุดการกระทำแล้วเอื้อมมือมาถอดแว่นของเธอออก ภาพตรงหน้าจึงเลือนรางไม่ชัดเจน ราวกับภาพโมเสกถูกเซ็นเซอร์เบลอๆ ภาพหนึ่ง เธอสายตาสั้นก็จริง มองไม่ถนัดเป็นเรื่องปกติ แต่กับสัมผัสที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้ไม่ลืมตาก็รู้ว่าขั้นต่อไป หากเขายังไม่หยุดจะต้องตกงานแน่
“คุณสวยมาก”
“เจ้านาย ฉันทำงานให้คุณมาสามปี ทำงานอย่างซื่อสัตย์เต็มที่ ถ้าไม่พอใจตรงไหนก็บอกกันเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้เลย” โยษิตาเสียงอ่อนดิ้นรนเฮือกสุดท้าย เธอรู้ดีว่ามาถึงขั้นแม้แต่เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกไปหมดแล้ว ถ้าอิทธิพลไม่ทำ สำหรับเขาย่อมเป็นการหักดิบตนเองขั้นสุด และเปอร์เซ็นที่จะเป็นแบบนั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ก็เท่ากับว่าโอกาสรอดจากเขาเธอมีไม่มาก นอกเสียจากทุบที่หัวเขาแรงๆ เอาให้สลบจนไม่สามารถฟื้นขึ้นมาบ้าได้อีก
ที่น่าโมโหคือ ทุบให้สลบยังไง ในเมื่อถูกกดซะขยับไม่ได้แบบนี้ อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับรู้สึกร้อนไปทั้งร่างราวกับมีเปลวไฟแผดเผา บนเตียงกว้างในห้องนอนส่วนตัวของชายหนุ่ม หญิงสาวที่พยายามหยุดยั้งในที่สุดก็อ่อนแรง เบื้องล่างปวดสะท้านจนเผลอร้องครางสะอื้น
“หยุดนะ! บอส อย่าเข้ามา ฮึก!”
อิทธิพลขบกรามแน่น ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขาไม่รับรู้ว่าหญิงสาวที่ถูกกดอยู่เป็นใคร เพียงหยัดเอวดันส่วนหัวเห็ดฉ่ำเยิ้มเข้าไป ถึงครึ่งทางก็จำต้องหยุดอย่างขัดอารมณ์ โพรงเนื้ออุ่นนุ่มคับแคบมาก เหมือนสาวซิงที่ยังไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน เขาเจอของดีหายากเข้าจึงตื่นเต้นขึ้นมาโดยพลัน
“แน่น! ผมขยับไม่ได้แล้ว อ๊า! แน่นจริง”
“คุณอิท! หยุดก่อนค่ะ อย่าดันเข้ามาอีกเลย โยเจ็บ อ๊า!” สิ้นคำขอร้องคนด้านบนก็ดันพรวดเดียวเข้ามาทั้งลำ
ท่อนเนื้อแข็งหนึบขนาดฆ่าคนตายได้ฉีกร่างเธอออกเป็นสองท่อน จะทำยังไงดีล่ะ นี่กลายเป็นปัญหาใหญ่แล้ว เดิมทีอยากเรียกสติเขา แต่พอถูกแทงจนมิด โยษิตากลับร้อนผ่าวไปทั่วร่างทั้งพูดไม่ออกสักคำ นิ้วมือไร้กำลังจิกไหล่แกร่งแน่นระบายความเจ็บปวดจนเกิดรอยข่วนลากเป็นทางยาว
“อ๊า! อือๆ” เสียงครางอู้อี้ผสมปนเปความเจ็บปวดดังขึ้นมาเป็นระลอก ทุกครั้งที่ชายหนุ่มขยับเอวสอบทรงพลังเข้าเสียดสี โยษิตาก็กลั้นไม่ไหว ริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อย หอบกระเส่าไปพร้อมกับหยาดน้ำตานองใบหน้า
เธอโกรธความไม่เลือกของอิทธิพล ขาดสติถึงขั้นมีอะไรมาจ่อปากก็เคี้ยวกินง่ายๆ เธอเป็นเลขาให้เขามาตั้งสามปีเต็มทำงานด้วยความขยันขันแข็งไม่เคยเกียจคร้านก็ยังไม่ละเว้น อุตส่าห์หลงนึกไปว่าตัวเองรอดแล้ว กลับต้องมานอนอ้าขาสิ้นสภาพอยู่ใต้การควบคุมของเขา เธอโกรธและเจ็บหว่างขาจนอยากกรี๊ดให้คอแตก
แตกต่างกับอิทธิพล นอกจากช่วงแรกที่ยากลำบาก เขาก็เหมือนถูกอกถูกใจมาก กระหน่ำซอยเอวเข้าใส่ร่องสวาทฉ่ำแฉะจนได้ยินเสียงคล้ายน้ำสาดกระเซ็น หยาดเลือดบริสุทธิ์ปะปนกับน้ำหล่อลื่นโอบเคลือบท่อนลำอวบเขื่อง ช่วยให้ชายหนุ่มขยับเข้าออกอย่างเมามัน คล่องตัวตอดรัด สุขซ่านจนกัดฟันสบถหยาบคายต่อเนื่อง
“แม่ง! แน่นจัง! เสียวหัวฉิบหาย อ้าขากว้างๆ เด็กดี เดี๋ยวฉันจะซอยให้ถึงใจเธอ”
โยษิตาถูกยกเอวแอ่นขึ้น อิทธิพลโน้มลงมาดูดเต้าอวบอึ๋มไปพลางกระแทกกระทั้งเข้าใส่ร่องสวาท เขาดูดทึ้งสลับกัด ไปทั่วหน้าอก ยิ่งสอบเอวยิ่งทำให้หญิงสาวครางน่าเห็นใจกว่าเดิม กระหน่ำซอยเช่นนั้นอยู่เกือบร้อยครั้งได้
จนโยษิตาเหนื่อยอ่อนแทบไม่อยากเอาอะไรกับโลกใบนี้แล้ว อิทธิพลก็กระแทกอีกสามครั้งเน้นๆ เขาคล้ายไม่อยากเสร็จจึงอดกลั้นช้าลงหน่อย แต่คนใต้ร่างบีบคั้นกันหนักเกินไป ทันใดนั้นก็เกิดเสียงครางต่ำในลำคอ ท่อนเนื้อครัดเคร่งปลดปล่อยธารน้ำคลื่นใหญ่ฉีดเข้าไปในท้องของหญิงสาว
โยษิตาขนลุกขึ้นมาทันที ร่างกายพลันกระตุกสั่นตาม “อ๊า! อึก”
เธอคิดว่ามันคงจบสิ้นแล้วจึงจะอาศัยโอกาสที่อิทธิพลยังไม่ได้สติรีบหนีไป ลืมซะว่าเคยทำอะไรไว้ แต่ขาสองข้างกลับอ่อนระทวย ไม่มีแม้กระทั่งกำลังจะพยุงกายลุกขึ้น “อ๊า! คุณจะทำอะไรอีก พอแล้วค่ะ พอแล้ว! อร้ายย!”
เสียงทัดทานนี้ไม่พอให้คนที่กำลังได้ใจหยุดเคลื่อนไหว หลังปลดปล่อยไปยกแรก โยษิตาก็ถูกจับพลิกหันหลัง ฝ่ามือหนาสองข้างยกเอวเธอขึ้นให้อยู่ในท่าหมอบคลาน จุดเชื่อมต่อที่ยังไม่หลุดจากกันเริ่มเคลื่อนไหวสอดประสานต่อ
“รีบไปไหน ผมยังไม่อิ่มเลย”
ผมของโยษิตาถูกรวบไว้ในมือข้างหนึ่งของชายหนุ่ม พอเขาออกแรงดึงก็เชิดใบหน้าสวยหวานให้เงยขึ้น ด้านหลังถูกกระแทกไปพลางสลับกับถูกตีก้นจนเกิดรอยฝ่ามือแดงเป็นปื้น อิทธิพลซอยเอวได้มีความสุขมาก ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อไหลจากโคนผม แววตาหรี่ปรือเคลิบเคลิ้มถึงขั้นสุด
“ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้ มัน…อ๊า!” มันลึกเกินไป
“คนสวย เดี๋ยวคุณจะชอบจนต้องอ้อนให้ผมทำแรงๆ”
“ไม่ๆ ไม่เอาค่ะ”
อิทธิพลไม่ชินกับคำว่าไม่เอา สาวๆ ที่ได้ร่วมเตียงกับเขามีแต่บอกขอหนักกว่านี้ ซอยเร็วกว่านี้ วิธีเล่นตัวที่แปลกใหม่ทำให้ชายหนุ่มฟังแล้วยิ่งคึกคัก “เล่นตัวน่ารักดี ผมจะจัดให้คุณเป็นพิเศษแล้วกัน”