EP 4 : คู่ค้าไม่ใช่คู่นอน
พิษร้ายพ่ายรักมาเฟีย : ตอนที่ 4
"เป็นไงบ้างพี่ดาว พวกเราเห็นพี่ดาวสีหน้าไม่ค่อยดีเลย" หนึ่งในพนักงานถามเจ้าของร้านที่พึ่งเดินเข้ามาหลังจากส่งแขกกลับเรียบร้อยแล้ว
"ไม่มีอะไรหรอก ไปๆเก็บของ ส่วนอาหารที่แขกยังไม่ได้กินก็เก็บใส่ถุงแบ่งๆกันไปนะ ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีลูกค้าแล้ว พี่ให้พวกเรากลับไปพักผ่อนปิดร้านเร็วสักหนึ่งวัน"
"พี่ดาวลินขอโทษนะคะ ลินไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้" ฉันยกมือไหว้ขอโทษหญิงวัยกลางคนด้วยความรู้สึกผิด
"พี่ไม่ได้โกรธลินเลยนะ พี่รู้ว่าคุณโซเฟียเขาจ้องจะเล่นงานเราอยู่แล้ว"
"แต่ลินเป็นคนแบบนั้นออกไปก่อน ยังไงลินก็ผิด"
"ที่ลินพูดเป็นเพราะคุณโซเฟียพูดจาไม่ดีใส่พี่ต่างหากล่ะ"
"พวกเราก็เห็นด้วยนะลิน คุณคนนั้นเขาพูดจาไม่ดีกลับพวกเราก่อน" พนักงานต่างเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าของร้าน
"งั้นพี่ดาวหักเงินเดือนลินจนกว่าจะครบค่าเสียหายของวันนี้ได้เลยค่ะ"
"คิดมาก เราไม่ได้ผิดทำไมพี่ต้องหักเงินเราด้วยล่ะ เอาเถอะๆ ไม่ต้องคิดมากแล้ว ถือซะว่าวันนี้ไม่ใช่วันของร้านเราละกัน แยกย้ายๆ" หญิงวัยกลางคนพูดด้วยรอยยิ้มและตบหลังเด็กสาวเบาๆเป็นการปลอบ ก่อนจะเดินออกไป
ฉันได้แต่มองตามหลังพี่เจ้าของร้านด้วยตาละห้อยก่อนจะแยกย้ายกันไปเก็บร้าน และนี่ถือเป็นครั้งแรกของทุกคนที่ร้านต้องปิดเร็วขนาดนี้ ทำให้รู้สึกแปลกๆ
ชาร์ล
รถยนต์คันหรูขับออกจากร้านอาหารระดับห้าดาว โดยมีชายหนุ่มหญิงสาวนั่งอยู่เบาะหลัง โซเฟียพยายามอ่อยชายหนุ่มเต็มที่ ด้วยชุดเดรสที่สั้นแค่คืบพอนั่งก็ยิ่งสั้นมากกว่าเดิมจนเกือบเห็นแพนตี้ด้านใน
"ถ้าชาร์ลหงุดหงิดให้โซเฟียคลายเครียดให้ไหมคะ" นิ้วเรียวยาวลูบไล้ไปที่แผงอกแกร่ง เธอไม่ได้ต้องการจะกินข้าวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่อยากมีเวลาร่วมกับชายหนุ่มเท่านั้น
"ไปส่งโซเฟียที่คอนโด" ชาร์ลไม่ได้สนใจท่าทางอ่อยของเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับสั่งให้ลูกน้องไปส่งเธอที่คอนโดแทน
"โซเฟียยังอยากอยู่กับชาร์ลอยู่เลยนะคะ"
"ลืมไปแล้วเหรอไง ว่าเรานัดทานข้าวเพราะจะคุยเรื่องธุรกิจ แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ" ชาร์ลปรายตามองหญิงสาวข้างกายอย่างเบื่อหน่าย เพราะวันนี้เขาต้องมาคุยกับเธอแต่การกระทำของเธอมันต้องการเรื่องอย่างว่ามากกว่าเรื่องงาน ถึงเขาจะสนใจเรื่องผู้หญิงแต่ถ้าเกี่ยวกับงานจะไม่เอามาปนกัน เขาไม่เคยเอาคู่ค้ามาเป็นคู่นอน
"โซเฟียไม่ได้ผิดนะคะ อีเด็กคนนั้นต่างหากที่หาเรื่องก่อน อีกอยากชาร์ลก็เป็นคนเดินออกจากนั้นเองด้วยซ้ำ ถ้าชาร์ลไม่ชอบร้านนั้นเราไปคุยร้านอื่นก็ได้นิคะ" โซเฟียพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นตอนที่เธอทำอะไรเด็กคนนั้นใต้โต๊ะ"
"นี่ชาร์ลหลงเสน่ห์อีเด็กชั้นต่ำคนนั้นเหรอคะ พึ่งรู้นะคะว่าชาร์ลตาต่ำถึงขั้นชอบเด็กเสิร์ฟไปแล้ว"
หมับ
มือหนาเอื้อมไปบีบคอหญิงสาวอย่างแรงด้วยความเดือดดาล
"อึก...เจ็บนะคะ"
"ถ้าเธอยังแหกปากใส่ฉันอีกครั้งเดียว....." ชาร์ลไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น แต่สายตาคมกริบจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นั่งข้างๆอย่างคาดโทษ สายตาที่ไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นมิตร และการกระทำของเขาทำให้หญิงสาวข้างกายเงียบลงทันที นิ้วแกร่งเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆก่อนจะสะบัดออกอย่างแรง
พรึบ
"แค่ก แค่กๆ" โซเฟียลูบลำคอตัวเองเบาๆ เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
บรรยากาศภายในรถกลับมาเงียบเหมือนเดิม ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมา
ใช้เวลาไม่นานรถยนต์คันหรูก็ขับมาจอดคอนโดแห่งหนึ่งและมีลูกน้องของเขาคอยเปิดประตูให้หญิงสาวลงจากรถ โดยที่ชายหนุ่มอีกคนไม่มีแม้แต่เหลียวสายตามองเธอเลยสักนิด ใบหน้าคมคายยังคงเรียบนิ่ง
"เราทำแบบนี้กับเธอจะดีเหรอครับ บริษัทพ่อเธอเป็นตัวขับเคลื่อนบริษัทใหญ่ๆหลายบริษัทเลยนะครับ เกรงว่าเราจะเสียนักลงทุนสำคัญไป" เทเลอร์พูดขึ้นหลังจากที่รถยนต์คันหรูขับออกจากคอนโดของหญิงสาวได้สักพัก
"มึงน่าจะเห็นว่าเธอเข้ามาหากูไม่ได้เพราะธุรกิจ กูต้องการเรื่องงานไม่ใช่ต้องการผู้หญิงขายตัว ถ้ากูต้องการแบบนั้นกูไปซื้อกินเอาง่ายกว่า อีกอย่างคนแบบนี้ถ้าไม่มีอำนาจของพ่อตัวเองคงไม่มีใครเคารพ"
"ครับ" เทเลอร์เห็นด้วยกับคำพูดของนายใหญ่
"แล้วเรื่องร้านนั้นจะให้ผมจัดการยังไงครับ"
"ร้านอาหารระดับห้าดาวมึงคิดว่ามาตรฐานควรเป็นแบบไหนดีล่ะ" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปาก
"ได้ครับ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดไม่เกินเย็นนี้ครับ" เทเลอร์เข้าใจความหมายที่นายใหญ่ต้องการให้เขาทำดี
"กูต้องการรู้ประวัติเด็กคนนั้น"
"หมายถึงเด็กเสิร์ฟคนนั้นใช่ไหมครับ"
"...."ชาร์ลไม่ได้ตอบคำถามของลูกน้องคนสนิท แต่ก็ทำให้ลูกน้องเขาเข้าใจว่าการที่เขาเงียบนั่นคือคำตอบ
@อพาร์ทเม้นต์
หญิงสาวร่างบางนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงหลังจากกลับมาจากร้านอาหารก็ไม่มีที่อื่นให้ไปอยู่นอกจากกลับมานอนในห้องตัวเองรอเวลาไปเรียนช่วงค่ำ จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำเอาคนอย่างฉันที่เคยโหยหาเวลานอนกลับนอนไม่หลับซะงั้น คิดแต่เรื่องที่เกิดขึ้น กลัวว่าจะมีผลกระทบกับร้าน ฉันไม่รู้เลยว่าเขามีอิทธิพลมากแค่ไหน แต่ดูจากท่าทางเคร่งเครียดของเจ้าของร้านก่อนหน้าก็ทำเอาฉันคิดฉันฟุ้งซ่านไปหมด
การกลับห้องเร็วในครั้งนี้ถือเป็นประวัติการณ์และนานมากแล้วที่ไม่ได้ยินเสียงโทรทัศน์เครื่องเก่าเพราะส่วนใหญ่ฉันจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปมหาวิทยาลัยเลย พอกลับมาก็อาบน้ำนอนไม่ก็อ่านหนังสือเตรียมสอบ นี่ถือเป็นรอบหลายเดือนที่ได้เปิดดูโทรทัศน์
"พึ่งรู้ว่าการไม่มีอะไรทำมันน่าเบื่อแบบนี้ ทุกทีจะวุ่นวายจนไม่ได้พัก"
สวัสดีค่ะผู้ชมผู้ฟังทุกท่าน เรากลับมาพบกันอีกครั้งในข่าวด่วนพิเศษของวันนี้
มีผู้หวังดีแจ้งว่าร้านอาหารระดับห้าดาวใจกลางเมืองมีคุณภาพที่ไม่ได้มาตรฐานมาก่อนหน้านี้ ทางกรมอนามัยได้ลงพื้นที่ตรวจร้านอาหารดังกล่าวพบกับสารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์และคุณภาพของร้านไม่ตรงกับที่ทางองค์การอนามัยเข้าตรวจประเมินคะแนนก่อนหน้านี้ ถือว่าเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่มากสำหรับร้านอาหารระดับห้าดาว เพราะทุกคนล้วนแต่ไว้ใจมาตรฐานนี้มาก คาดการณ์ว่าร้านนี้คงปิดปรับปรุงไปอีกนานหรือจนกว่าจะพิสูจน์ถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่ผลสรุปจะเป็นยังไงทางสำนักข่าวช่องทรูจะกลับมารายงานให้ท่านทราบอีกครั้ง
"นั่น! มันร้านเรานิ หรือว่าที่พี่ดาวให้เรากลับบ้านเร็วเพราะรู้ว่าจะมีคนเข้ามาทำแบบนี้" ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ถึงหน้าร้านจะโดนเบลอเป็นบางส่วนแต่ฉันจำได้แม่นว่านั่นคือร้านที่ฉันทำงาน
“เป็นไปไม่ได้ที่ร้านเราจะไม่ได้คุณภาพ วัตถุดิบทุกชิ้นร้านเรามีการตรวจวัดปริมาณสารปนเปื้อนทุกครั้งก่อนนำมาทำอาหารให้ลูกค้า” ฉันส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับคำรายงานของนักข่าว
ติ้ง ติ้ง ติ้ง
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังรัวๆราวกับมีเรื่องวุ่นวาย
LINE
Phung : เกิดอะไรขึ้นคะพี่ดาว ทำไมข่าวถึงออกแบบนั้น
Panut : ตามที่ข่าวออกมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยนะครับ
Jiwjiw : หนูไม่เชื่อว่าร้านเราจะไร้คุณภาพแบบที่เป็นข่าว
Aum_A : พวกเราตรวจสารปนเปื้อนกันทุกรอบเป็นไปไม่ได้ที่วัตถุดิบจะปนเปื้อน คุณภาพของร้านก็ให้คนเข้ามาตรวจความเรียบร้อยทุก 6 เดือน
Dawn(Owner) : ใจเย็นๆนะทุกคนพี่กำลังแก้ไขปัญหาอยู่ แต่พี่คงต้องปิดร้านชั่วคราวก่อนสักหนึ่งอาทิตย์ พี่โอเคดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครอบครัวของพี่ ❤️
Alynda(Lynn) : เป็นเพราะลินเองค่ะ วันนี้คุณชาร์ลให้ลินอธิบายเรื่องอาหาร แต่ลินอธิบายไม่ได้ ลินเลยจะออกไปตามเชฟแต่คุณชาร์ลไม่พอใจทำให้ลุกออกไปแบบนั้น ทุกอย่างมันเป็นความผิดของลินเองค่ะ
หลังจากเรียบเรียงเหตุการณ์วันนี้ก็พอจะเดาออกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนี้คนเดียว เพราะตั้งแต่เริ่มทุกอย่างภายในร้านถูกเปลี่ยนใหม่แม้แต่จานทานอาหาร และพี่ดาวเจ้าของร้านก็กำชับทุกคนมาตั้งแต่แรกถึงขั้นให้คนเก่งๆมาทำงานเท่านั้น และฉันกลับทำทุกอย่างพัง
“ต่อให้โดนหักเงินเดือนทั้งปีก็ยังไม่คุ้มกับชื่อเสียงของร้านเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ตอนนี้สมองมันตื้อไปหมด ฉันรับผิดชอบอย่างที่ปากพูดก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย