บท
ตั้งค่า

EP 2 : แขกคนสำคัญ

พิษร้ายพ่ายรักมาเฟีย : ตอนที่ 2

ช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน

"ทุกคนได้เวลาแล้วไปรอรับแขกกันก่อน" หนึ่งในพนักงานของร้านส่งเสียงเรียกทุกคนในร้านให้มารอต้อนรับแขกคนสำคัญของวันนี้

"ทำไมเราต้องไปรับเขาด้วยล่ะพี่ แขกคนอื่นก็เดินเข้ากันมาปกตินิ" ทุกคนดูลนลานจนฉันอดที่จะถามไม่ได้ ไม่ใช่แค่คนในร้านอาหารนะ แต่สถานที่ก็ถูกปูพรมแดงไว้ตามทางเดิน ดอกไม้สั่งทำพิเศษที่พึ่งมาส่งช่วงสาย จานอาหารถูกเปลี่ยนให้ดูหรูหราขึ้น ทุกอย่างภายในร้านถูกเปลี่ยนเพราะแขกคนนี้คนเดียวเลย

"พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมากหรอก รู้แค่ว่าเขาเป็นผู้มีอิทธิพล คุณดาวก็กำชับนักกำชับหนา"

"ก็คงจะมีอิทธิพลจริงๆ" ฉันมองไปรอบๆร้านกับสิ่งที่เปลี่ยนไปจดแปลกตา และสุดท้ายฉันก็ต้องมายืนรอแขกคนสำคัญมาที่ร้านอาหาร ซึ่งมันน่าเบื่อสำหรับฉันมากกับการที่ต้องมายืนรอ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมาตอนไหน

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

ทุกคนก็ยังใจจดใจจ่อมองทางหน้าร้านรอแขกคนสำคัญ

"เฮ้อ...นี่เที่ยงครึ่งแล้วนะพี่ แขกเขาจะมาชัวร์ใช่ไหม ไม่งั้นร้านคงเสียโอกาสที่ไม่ได้รับลูกค้าคนอื่นเลยนะ" ฉันยืนรอจนขาจะแข็งอยู่แล้ว แต่เงาของแขกคนสำคัญก็ยังไม่มาให้เห็น

"นั่นไงๆ มีรถนำขบวนเลี้ยวเข้ามาแล้ว ต้องใช่แน่ๆ" พนักงานในร้านรีบพูดแทรกทันที ทำเอาทุกคนร่วมถึงอลินดากลับมาอยู่ในท่าทางเตรียมพร้อมรอต้อนรับ

ดวงตากลมโตมองรถยนต์คันสีดำและยังติดฟิล์มดำสนิทขับเคลื่อนมาจอดหน้าร้าน และคันที่ดูหรูกว่าคันอื่นก็จอดให้ประตูของคนนั่งหลังตรงกับประตูร้านที่มีพรมแดงปูตามทางไว้พอดี บอดี้การ์ดชุดสูทสีดำสุดเนี๊ยบพากันลงจากรถและตรวจดูรอบๆร้าน ก่อนจะเปิดประตูให้คนที่นั่งอยู่ด้านในรถลงมา

"อย่างกับในหนัง"

เมื่อประตูรถยนต์คันหรูเปิดออก รองเท้าหนังสีดำเงาวับแตะลงกับพื้นพรมพอดี ทำเอาทุกคนมองตาม ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะค่อยๆปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ผู้ชายมาดนิ่ง ส่วนสูงราวร้อยเป็ดสิบบวกๆ ใบหน้าคมคายสไตล์ยุโรป ทำเอาทุกคนที่เห็นอึ้งไปตามๆกัน

และตัวฉันเองก็หลุดไปในภวังค์ของใบหน้าอันแสนหล่อเหลานี้เช่นกัน นี่มันคนหรือเทพบุตร ชุดสูทสีกรมสุดเนี๊ยบขับผิวขาวไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของแบรนด์เนมและทุกส่วนที่เขาสวมใส่ยังเสริมให้บุคลิกดูดีตั้งแต่ตัวจรดปลายเท้า

แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้างอีกรอบเมื่อเห็นผู้หญิงสาวสวยในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงออกมาอีกฝั่ง หุ่นเธอราวกับนางแบบ ขาเรียวยาวเสริมด้วยรองเท้าส้นสูง ทำให้เธอดูเด่นและเฉิดฉายเป็นอย่างมาก ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสด

"สวัสดีค่ะคุณชาร์ล เอ่อ...คุณ..."

"โซเฟียค่ะ"

"สวัสดีค่ะคุณโซเฟีย ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ทราบชื่อของคุณโซเฟีย" พี่ดาวเจ้าของร้านพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"ไม่เป็นไรค่ะ แต่ทีหลังควรจดและจำใส่สมองไว้บ้างนะคะ ว่าแขกคนสำคัญชื่ออะไรบ้าง"

"อื้อหื้อ...ปากเหรอนั่น" ฉันถึงกับตกตะลึงกับคำพูดของเธอจนเปล่งเสียงออกมาเบาๆ ความสวยที่เห็นมันหายไปในพริบตาเพราะคำพูดของเธอ อย่างที่เรียกว่า สวยแต่รูปจูบไม่หอมของจริง แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มกับหญิงสาวก็หันมาจ้องที่หน้าฉันพร้อมกัน คราวซวยแล้วล่ะอลินดาเอ๊ย ฉันพูดดังไปใช่ไหม

ตึก ตึก ตึก

เสียงรองเท้าของทั้งคู่เดินตรงมาที่ฉัน ทำเอาฉันยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ต้องก้มหน้ายอมรับความผิดเพราะมันอยู่ในหน้าที่

"ขะ ขอโทษค่ะ" มือทั้งสองข้างจับประสานกันไว้ตรงหน้า ตอนนี้ทุกอย่างมันรวนไปหมดจนพูดติดๆขัดๆ บรรยากาศทำไมมันหนาวเย็นขนาดนี้ รังสีบางอย่างในสายตาของผู้ชายคนนั้นทำเอาฉันเสียวสันหลังวาบ

"เมื่อกี้เธอว่าฉันเหรอย๊ะ"

"ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าคุณโซเฟียเลยนะคะ"

"ตอแหล! ฉันได้ยินสิ่งที่แกพูด เป็นแค่เด็กเสิร์ฟอย่าคิดมาเทียบชนชั้นกับฉัน ตบสั่งสอนสักทีปากน่าจะดีขึ้นบ้าง" สาวสวยในชุดแดงเพลิงง้างมือจะตบ

พรึบ

แต่แล้วฝ่ามือหนาก็มารั้งมือของหญิงสาวสวยคนนั้นไว้

"ฉันพึ่งรู้ว่าพนักงานร้านนี้ไร้การอบรมสั่งสอน" สายตาคมจ้องมองหญิงสาวตัวเล็กก่อนจะปรายตามองเจ้าของร้านด้วยความไม่พอใจ

"ขอโทษแทนเด็กด้วยนะคะ" เจ้าของร้านวัยกลางคนรีบเดินเข้ามาแก้สถานการณ์ที่เริ่มตึงเครียด

"เงยหน้าขึ้นมา!"

"..." น้ำเสียงเข้มที่พูดออกมาทำเอาฉันขนลุกไปทั้งตัว ถ้าไม่ทำตามที่เขาสั่งฉันคงโดนมากกว่านี้แน่ สุดท้ายฉันก็ต้องยอมเงยหน้าขึ้นเพราะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แค่เพียงเงยหน้าขึ้นใบหน้าของเขาก็โน้มเข้ามาใกล้จนเห็นผิวเนียนละเอียดของใบหน้าคมคาย กลิ่นน้ำหอมลอยเข้ามาเตะจมูกแววตาคู่นั้นมีแต่ความน่ากลัว

หมับ

"อื้อ..."

"หึ! ฉันชอบที่เธอปากเก่งนะเด็กน้อย แต่…เธอปากเก่งผิดที่เท่านั้นเอง…" นิ้วแกร่งบีบปลายคางมนให้ใบหน้าหวานเชิดขึ้น แรงบีบที่เขาใช้กับเธอยังไม่ถึงครึ่งแรงที่เขามี แต่ก็ทำให้เด็กสาวตรงหน้าแสดงความเจ็บปวดออกมา

"อึก ขอโทษค่ะ"

"คุณชาร์ลคะ ดาวขอโทษแทนน้องลินจริงๆนะคะ"

พรึบ

มือหนาสะบัดมือออกจากปลายคางมนอย่างแรงจนอลินดาเซถอยหลัง ดีที่ยังมีเพื่อนพนักงานคนอื่นพยุงเธอไว้ได้ทัน

"แม่จะตบสั่งสอนสักฉาด" แต่ไม่วายที่หญิงสาวชุดแดงจะทำท่าจะตบอลินดาอีกครั้ง

"ฉันมากินข้าว ไม่ได้ต้องการจะมีเรื่อง ถ้าเธออยากมีเรื่องนักก็ออกไปที่อื่น!" น้ำเสียงเข้มประกาศก้าวเสียงดังลั่น ทำเอาทุกคนสะดุ้งไปตามๆกัน โดยเฉพาะโซเฟียที่หยุดชะงักมือทันที

"คุณชาร์ลเชิญทางนี้ค่ะ เดี๋ยวดาวพาคุณไปโต๊ะอาหารที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ" หญิงสาววัยกลางคนพยายามส่งสายตาไปที่อลินดาเพื่อให้เธอหลบ และชวนแขกคนสำคัญให้สนใจเธอแทน

ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้งเมื่อเจ้าของร่างสูงยอมเดินตามเจ้าของร้านไป โดยมีหญิงสาวชุดแดงเดินตามไปด้วยท่่าทางกระฟัดกระเฟียด

"เฮ้อ...เกือบได้รอยห้าแถวแปะที่หน้าแล้วไหมล่ะลินเอ๊ย"รุ่นพี่พนักงานในร้านพูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เดินห่างออกไปแล้ว

"ลินขอโทษทุกคนนะที่ทำให้ร้านเราดูแย่ ไม่รู้ว่าแขกจะไม่พอใจแล้วไปลงที่พี่ดาวไหม"

"แต่ลินไม่ผิดนะ เราสามารถออกความเห็นได้ อีกอย่างนิสัยแบบนั้นก็ไม่เหมาะกับหน้าตาสวยๆเลยจริงๆ"

"ใช่ๆ นี่คงคิดว่าตัวเองได้เป็นถึงคนใหญ่คนโตเลยกล้า ลองเป็นคนธรรมดาเหมือนพวกเราสิ"

พนักงานคนอื่นต่างเห็นด้วย ถึงพวกเธอจะไม่มีสิทธิ์ไปว่าลูกค้า แต่การที่ลูกค้าทำนิสัยแย่ก่อนก็อดที่จะพูดลับหลังไม่ได้

"ไปเหอะพี่ๆ ทำหน้าที่ของตัวเองกัน" ฉันรีบบอกให้ทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง ถึงแม้ความกลัวจะยังไม่หายไปก็ตาม แต่ฉันผิดเองที่พูดออกไปแบบนั้น ดีที่เขาไม่พากันออกนอกร้านแทนการเดินเข้าไปนั่ง ไม่งั้นฉันคงไม่มีปัญญาชดเชยค่าเสียหายให้ร้านแน่

"อย่างนี้ลินก็ต้องเข้าไปเสิร์ฟให้อีกละสิ จะรอดไหมเนี่ย โดนเพ่งเล็งตั้งแต่ยังไม่ได้ทำหน้าที่เลย"

"...." ฉันได้แต่นิ่ง เพราะวันนี้พี่ดาวเจ้าของร้านให้เฉพาะคนที่ทำงานเก่งมาทำงานสำหรับต้อนรับแขกคนสำคัญโดยเฉพาะ ปกติแล้วเด็กเสิร์ฟจะมีน้องๆพาร์ทไทม์ด้วย แต่วันนี้เป็นฉันคนเดียว "คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าเมื่อกี้แล้วล่ะพี่"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel