สำนักฝ่ามือเทวะ
ณ เมืองเจียวลู่
หรือเมืองที่ตระกูลเฟิงคุม เวลาผ่านไปในที่สุดเล่อป๋อก็ได้มาถึง เล่อป๋อไม่ได้เข้าทางหน้าเมืองเเต่เป็นกำเเพงเมืองซะเเทน เเละด้วยความอ่อนเเอของทหารเมืองนี้ ทำให้เล่อป๋อสามารถลอบเข้ามาในเมืองได้อย่างง่ายดาย ขนาดเจ้าเมืองยังได้ข่าวว่ามีขั้นบ่มเพาะเพียงผู้ครอบครองระดับกลางเท่านั้น ในขณะที่เมืองเฟยเทียนที่เป็นโล่ทัพหน้าของมนุษย์มีระดับเทพสงครามถึงห้าคนเเละยังมีเจ้าเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษในระดับไร้เทียมทานอีกหนึ่งคน ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะมีเสือสุ่มมังกรซ่อนอีกมากมายที่ยังไม่เปิดเผยตัวก็เป็นได้
โดยที่ข้อมูลพวกนี้ข้าได้ฟังมาจากเหล่าศิษย์น้องของข้าที่อาศัยอยู่ในโลกผู้ฝึกตน เนื่องจากตำเเหน่งของพวกเขาเเต่ละคนก็ใช่จะธรรมดา ไหนจะลูกชายคนเล็กของสมาคมทมิฬ องค์หญิงเเห่งราชวงศ์หลิน ผู้สืบทอดนิกายกระบี่เทพ เเต่ถึงข้าจะไม่ได้ข้อมูลจากพวกเขา ข้าเองก็พอรู้อยู่บ้างในความทรงจำที่ข้าได้ไปมาทุกเมือง ในฐานะของเกมเมอร์ เเต่เหมือนข้อมูลที่ข้ามีมันจะถูกบิดเบือนไปพอสมควร เเละเป็นข้อมูลของพวกศิษย์น้องที่ถูกต้อง และเมื่อข้าได้มานั่งเล่นที่โรงน้ำชาสักวันนึง ผู้คนมากมายได้มานั่งพูดคุยกันเล่าเรื่องกัน ข้าจึงใช้พลังปราณเสริมความสามารถในการได้ยินเเละได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันทั้งหมด
‘ทำไม…ที่นี่ถึงมีไอติมรสนมขาย?’
‘โพชั่นรักษา?’ ข้าสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยินมา หรือว่าเล่อปิงได้ส่งของพวกนั้นมาขายที่นี่? เเล้วใครเป็นคนสร้างมันขึ้น? นางได้ทำอะไรไปกันเเน่?
‘ข้าคงต้องไปเข้าสำนัก…’ ข้าคิดในใจ เเละใช่ ในเมืองเจียวลู่มีเพียงสำนักเดียวที่สอนเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ นั่นก็คือสำนักฝ่ามือเทวะ ถึงเเม้จะเป็นเมืองที่มีแต่คนอ่อนเเอที่สุด เเต่วิชาของสำนักฝ่ามือเทพนั้นไม่ธรรมดาเลย เพราะในอดีตผู้ก่อตั้งคือเผ่าเซียนที่มีระดับไร้เทียมทานเเละเทพยุทธคิดค้นวิชาเเละฝึกศิษย์ เเต่เมื่อพวกเขาจากไปเพื่อไปช่วยเมืองเฟยเทียนในการปกป้องเมือง สุดท้ายพวกเขาก็ตายด้วยเทพอสูร เหตุการณ์นั้นถือเป็นการสูญเสียที่มากที่สุดสำหรับมนุษย์ เเละมนุษย์ทำได้เพียงสร้างบาดเเผลจนมันบาดเจ็บสาหัสจนถอยไปเพียงเท่านั้น
"ถึงเเม้ว่าท่านพ่อจะให้เงินติดตัวมาบ้างก็ตาม…เเต่ข้าคิดว่ามันคงไม่พอ'' ข้ากล่าวกับตนเองพลางเดินไปยังสำนักฝ่ามือเทพ
ณ สำนักฝ่ามือเทพ
"พวกท่านรับศิษย์หรือไม่?'' ข้ากล่าวถามไปตรงๆเมื่อได้เจอกับผู้อาวุโสที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าสำนักฝ่ามือเทพ สถานที่ของสำนักไม่ใหญ่มาก ส่วนใหญ่เเล้วเมืองจะเน้นไปทางอุตสาหกรรมซะมากกว่า เเละใช่ศิษย์ก็น้อยเช่นกัน
"เจ้าคิดว่าคุณหนูเฟิงอวิ๋นจะมาเมื่อใด?'' พวกผู้อาวุโสของสำนักไม่ได้สนใจข้าเเม้เเต่น้อย พวกเขากลับพูดคุยกันเกี่ยวกับเฟิงอวิ๋นที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฟิง นางน่าจะอายุเท่ากับข้า เเละดูจากที่พวกเขาพูดรวมถึงพวกที่โรงน้ำชา คุณหนูเฟิงอวิ๋นคงจะสวยเเละมีสเนห์มากอย่างเเน่นอน
“ถ้าไม่ตอบก็อย่าขวางทางข้า” ข้ากล่าวออกไปก่อนจะเดินผ่านพวกเขาไป ข้าอาจจะดูผิดพวกเขาน่าจะเป็นเพียงยาม
ฟึบๆ
"เจ้าเด็กไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!'' พวกเขาทั้งคู่ขยับร่างเข้ามาชนกันเพื่อปิดทางเข้าเเละตั้งท่าเตรียมสู้กับข้า
"เจ้า…?''
ตุบ ฟุบ..
ข้าเดินเข้าไปใกล้ๆพวกมันเเละจับหัวของพวกมันกระทบกันด้วยความเร็วสูง จนพวกมันรู้ตัวอีกทีก็น่าจะตอนตื่นหลังจากสลบร่วงลงไปกองบนพื้น ผู้คนมากมายที่เห็นเช่นนั้นจึงยืนซุบซิบกันสักพักก่อนที่ข้าจะเข้าไปในสำนัก เหล่าศิษย์รวมถึงอาจารย์จึงมารวมตัวกันเพื่อดูว่าใครเป็นคนบุกเข้ามาในสำนัก
"เจ้าเด็กนี่!'' เมื่อพวกอาจารย์เห็นว่าเป็นข้าจึงพยายามจะพุ่งเข้ามาสั่งสอน
ฟึบ ฟุบ
"ข้าไม่คิด…ว่าพวกท่านจะอ่อนเเอกันถึงเพียงนี้'' ข้ากล่าวออกไปตรงๆเมื่อระดับอาจารย์ยังต้องทรุดลงเพียงเเค่ข้ากดบ่าของเขาลง พวกเขาได้กินข้าวกันบ้างหรือเปล่า?
"หรือว่ามันจะมาจากเมืองอื่น?'' ทำให้พวกเขาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของข้า ในเมื่อความเเข็งเเกร่งของข้าที่เป็นเด็กอายุราวๆสิบห้าหรือเท่าพวกเขาสามารถเอาชนะอาจารย์ของพวกเขาที่อยู่ในระดับยอดฝีมือได้อย่างง่ายดาย นั่นน่าจะเพราะในตอนนี้ข้าอยู่ในระดับผู้ครอบครองขั้นที่ 5 เเต่ถึงกระนั้นเเล้วข้าไม่จำเป็นต้องใช้กำลังภายใน เพราะในเมื่อข้ามีกายอยู่ในระดับร่างศักดิ์สิทธิ์ขั้น 1 ถ้าหากข้าเอาจริงคงสามารถฉีกร่างของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
"เสียงดังอะไรกัน?'' เสียงนึงกล่าวมาก่อนจะค่อยๆปรากฏตัว
"ท่านเจ้าสำนักเฟิงชิงหยาง?'' เหล่าศิษย์เเละอาจารย์พากันทำความเคารพ เเละตามมาด้วยรองเจ้าสำนักทั้งสองคน รวมถึงผู้อาวุโสอีกสี่คน พวกเขาน่าจะกำลังพูดคุยกันอยู่ จนได้ยินเสียงดังจึงออกมาดู
ท่านเจ้าสำนักนี้ถ้าหากข้าจำไม่ผิดเขาเป็นลุงของคุณหนูเฟิงอวิ๋น เเละเป็นผู้ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในเมืองนี้ด้วยระดับผู้ครอบครองขั้นกลาง ข้าเองก็ขั้นกลางเช่นกัน เเต่ดูเหมือนกายของเขาจะไม่ค่อยเเข็งเเกร่งสักเท่าไหร่ เช่นนั้นถ้าต้องสู้ข้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังภายใน…
"เช่นนั้นท่านก็คือเจ้าสำนักฝ่ามือเทพ'' ข้ากล่าวออกไปซึ่งทำให้พวกเขางุนงนกับสิ่งที่ข้าต้องการ อยู่ดีๆก็บุกเข้ามาเเล้วก็พูดจาอะไรแปลกๆ
“ไม่ผิด…"
"ข้าเฟิงชิงหยาง...เจ้าสำนักฝ่ามือเทวะ”
"เจ้าต้องการอะไรเด็กน้อย?'' เขาที่ถือตัวว่าเป็นผู้อาวุโสกล่าวออกมา ทำให้ข้ายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆปล่อยคลื่นพลัง
คลื่นนน
พลังระดับผู้ครอบครองได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากเด็กน้อยที่เขากล่าว ทั่วทั้งสำนักอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี่มันเด็กจริงๆใช่หรือไม่? เพราะขนาดองค์ชายลำดับที่หนึ่งที่เป็นอัจฉริยะในตอนนี้เพิ่งจะทะลวงขึ้นระดับเหนือมนุษย์สำเร็จ เเล้วเจ้าเด็กนี่มันปีศาจอันใดกัน? ผู้ครอบครองขั้นที่ห้า!?
"เฟิงอวิ๋นเจ้าสู้เขาไม่ได้!!'' เฟิงชิงหยางที่กำลังตกใจเเต่เมื่อสัมผัสได้ถึงการมาอย่างรวดเร็วของหลานสาวเขาตกใจมาก เพราะหลานสาวของเขาอาจจะบาดเจ็บได้จากคนระดับนี้!
"ท่านคือเฟิงอวิ๋น'' ข้ากล่าวออกไปก่อนที่ฝ่ามืออันรุนเเรงของนางจะปะทะเข้ากับฝ่ามือข้างซ้ายของข้า
ตุบ ฟิ้ววว ฟึบๆ
เเต่กลับเป็นนางที่ต้องกระเด็นกลับไปหลายตลบจนตั้งหลักได้ เเละเตรียมจะเข้ามาสู้กับข้าใหม่ ทำให้เฟิงชิงหยางต้องเข้าไปหยุดนาง ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรนางถึงต้องทำเช่นนี้ เหตุใดต้องเข้ามาสู้กับข้าด้วยในเมื่อนางเองก็รู้ว่าไม่สามารถสู้กับข้าได้
‘มันเเข็งเเกร่งถึงเพียงนี้…’ เฟิงอวิ๋นคิดในใจก่อนจะกัดฟันเเละ
"ข้าไม่ยอม!…ไม่ว่าเจ้าจะมีความสามารถึงขนาดไหนข้าจะไม่ยอม!!'' ตะโกนออกมาพร้อมกับเร่งพลังระดับยอดฝีมือขั้นห้าออกมา นางเองก็ใช่ว่าจะอ่อนเเอ เเต่ดูจากที่นางพูดออกมาเเล้วข้าเองก็พอจะเข้าใจ นางต้องการฝึกตัวเองเพื่อปกป้องตัวเอง จากอะไร? ผู้ชาย? อืม…น่าจะใช่ เมื่อข้าได้มองสีหน้าของนางที่เเสดงออกว่ารังเกียจข้า
"เซียนน้อยไปพูดคุยกันดีๆก่อนดีหรือไม่?'' เฟิงชิงหยางกล่าว เขาเองก็เริ่มกลัวในพลังของข้า เเละคิดว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังของข้า
"ข้าขอเพียงเเค่คุณหนูเฟิงอวิ๋นยอมคุยกับข้า…'' ข้ากล่าวออกไปก่อนจะยกมือขึ้นมาปัดบริเวณโพธิ์ดำที่อยู่บนหน้ากาก
"ไม่…ข้า…ตกลง'' สีหน้าของนางดีขึ้นมากเมื่อได้เห็นใบโพธิ์ดำที่สลักอยู่บนหน้ากากของข้า เเละเดินมาหาข้า
"อะ…อะไรกัน?'' หลายคนที่เห็นเช่นนี้จึงคิดว่านางน่าจะโดนพลังอะไรจากข้าอย่างเเน่นอน
"เเล้วท่านก็มิบอก…ว่าท่านรู้จักกับเฟยเฟย'' นางกล่าวทำให้หลายคนคลายข้อสงสัยลง เพราะเฟยเฟยที่นางเรียกก็คือเพื่อนสมัยเด็กที่สนิทของนาง หรือก็คือองค์หญิงหลินเฟยเฟิ่ง ทั้งคู่สนิทกันมากเพราะองค์หญิงเสด็จมาที่นี่บ่อยเเละในตอนนั้นทั้งคู่ยังเด็ก เฟิงอวิ๋นเองก็ยังไม่รู้ความจึงเข้าไปเล่นกับองค์หญิงเเละทำให้ทั้งคู่สนิทกันจนถึงปัจจุบันนี้
เเละใช่หลินเฟยเฟิ่งเคยกล่าวกับข้าเรื่องนาง ว่าถ้าหากข้าไปเยือนเมืองเจียวลู่ นางจะบอกให้เฟิงอวิ๋นช่วยดูเเลข้าอย่างดี เสมือนเป็นเพื่อนสนิทกันราวกับทั้งคู่ เเละดูจากท่าทางของนางดูเหมือนนางจะไว้ใจข้ามากพอสมควร ท่าทางของนางเปลี่ยนไปจากตอนเเรกอย่างลิบลับ
ระหว่างทางกลับบ้านตระกูลเฟิง
"ปานของท่านอยู่ที่ใด?'' นางกล่าวถามข้าเบาๆ
"เจ้าคนนั่นมันคนที่บุกเข้าไปในสำนักฝ่ามือเทวะมิใช่หรือ?''
"เเล้วเหตุใดจึงมาเดินข้างคุณหนูเฟิงอวิ๋นได้กัน!?'' พวกเขาต่างสงสัยกับสิ่งที่เห็น เฟิงอวิ๋นตีตัวออกห่างผู้ชายทั้งหมด เเต่ทำไมถึงกลับมาเข้าใกล้เจ้าหน้ากากโพธิ์ดำนี่กัน?
‘อีกไม่นาน…ข่าวของข้าคงจะสร้างปัญหาไม่น้อย’ ข้าคิดในใจก่อนจะยกยิ้มออกมา มันดีเเล้ว เพราะมันน่าสนุกดี เเละข้าต้องการรู้ด้วยว่าหลินเฟยเฟิง ศิษย์น้องของข้าจะทำเช่นกันกับเหตุการณ์นี้
"อยู่ที่บริเวณเอวข้างซ้าย'' ข้ากล่าวในใจเเละส่งไปทางจิต เเละช่วยทำให้นางสามารถพูดคุยทางจิตกับข้าได้
‘เช่นนั้น!?…ท่านก็คือศิษย์ลำดับที่หนึ่ง!’ นางตอบกลับมาด้วยท่าทางตกใจเเละดีใจในเวลาเดียวกัน
‘นางรู้ถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ?’ ข้าคิดในใจ เช่นนี้เเสดงว่าหลินเฟยเฟิงคงจะคุยกับนางไว้เยอะพอสมควร นางไว้ใจได้อย่างเเน่นอนถ้าศิษย์น้องของข้าไว้ใจนางถึงเพียงนั้น
‘ถูกต้อง…ข้านามว่าหลี่เล่อป๋อ’ ข้ากล่าวนามที่เเท้จริงของข้าออกไป ท่าทางของนางดูตื่นเต้นพอสมควร
เเละสุดท้ายข้าเเละนางก็มาถึงบ้านตระกูลเฟิง มันดูหรูหราเป็นอย่างมาก นางได้นำข้าไปยังห้องทานอาหารของตระกูลเเละสั่งอาหารดีๆให้ข้ากิน ซี่งข้ากับนางก็ได้นั่งพูดคุยกันสักพัก
"องค์ชายสี่เสด็จ!!'' เสียงตะโกนมาจากหน้าบ้านตระกูลเฟิง ซึ่งทำให้เฟิงอวิ๋นมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
"เช่นนั้น…เจ้านี่คงจะเป็นตัวปัญหาสำหรับเจ้า'' ข้ากล่าวออกไปเมื่อได้เห็นท่าทางของนาง เเละเมื่อข้าได้นั่งฟังนางเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่นางทำกับข้าข้าก็เข้าใจในทันที นางกำลังโดนพวกราชวงศ์จับคู่ให้ ซึ่งนางก็ไม่ยอมพวกเขาก็ได้ส่งคนมามากมายเพื่อเอาชนะนางในวัยเดียวกัน จนนางคิดว่าจนหนทางเมื่อเจอข้า เเต่กลับกันนางไม่ได้จนหนทางเเต่นางเจอทางสว่างจ้าต่างหาก
"ข้าจัดการให้เอง'' ข้ากล่าวจบไอติมรสนมก็ละลายในปากของข้าจนหมดพอดี ซึ่งไอติมรสนมนี้เป็นที่นิยมเเละหายากมาก ผลิตที่เมืองนี้ เเละผลิตได้วันละไม่กี่เเท่ง แต่นางกลับนำมาให้ข้ากิน ก็ดี เช่นนั้นข้าจะตอบเเทนสำหรับไอติรสนมของโปรดของข้า
"ท่านต้องระวัง…พวกเขาคือราชวงศ์!'' นางกล่าวเตือนข้าด้วยความเป็นห่วง เเต่ข้าก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกเขาเเม้เเต่น้อย ข้าเชื่อว่าถ้าข้าก่อเรื่องอะไรไป ศิษย์น้องของข้าจะต้องจัดการปัญหาได้อย่างเเน่นอน…
"น้องอวิ๋นข้านำไอติมรสนมมาฝากเจ้าด้วย!'' เสียงชายคนนึงตะโกนมาบอกพลางเดินเข้ามาในบ้านตระกูลเฟิงอย่างรวดเร็ว
"เช่นนั้นหรือ?…ไอติมรสนมอร่อยมาก'' ข้ากล่าวเมื่อชายคนนั้นเดินมาเจอกับข้าเเละนางที่เดินมาพร้อมกัน ในขณะที่ไม้ไอติมเพิ่งจะออกมาจากปากข้า
"เจ้า…เป็นใคร'' เเละดูเหมือนองค์ชายสี่นั่นจะโมโหเมื่อได้เจอข้าที่เป็นชายอยู่กับคนที่มันชอบ
"เคารพเขาสักหน่อยเเล้วพาข้าไปเดินชมเมือง'' ข้ากล่าวก่อนจะเดินผ่านชายคนนั้นไปโดยไม่สนใจเขาแม้เเต่น้อย ซึ่งเฟิงอวิ๋นก็ทำตามที่ข้าบอกอย่างว่าง่ายดูเหมือนนางจะเชื่อใจข้าพอสมควร ว่าข้าสามารถจัดการปัญหานี้ได้ นางได้บอกอะไรกับเฟิงอวิ๋นไปกันเเน่นะ? ถึงนางได้เชื่อใจข้ามากมายถึงเพียงนี้
“เจ้า…เป็นใคร!!!” เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธก่อนที่เหล่าองครักษ์จะล้อมรอบพวกเราด้วยความเร็ว เฟิงอวิ๋นตกใจพอสมควร นางไม่สามารถสู้กับคนพวกนี้ได้อย่างเเน่นอน เพราะคนพวกนี้ต่างอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ทั้งสิ้น!