ต้นไม้เล่อปิง
"เล่อปิง…นางถูกพาตัวไปสถานที่ห่างไกล…'' ข้ากล่าวออกไปตามความเป็นจริง ทำให้ท่านพ่อสงสัยข้ามากกว่าเดิม
“ข้ารู้ว่าในตอนนี้ท่านพ่อเเละท่านอากำลังสงสัยในตัวข้า”
“มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถคลายความสงสัยนี้ได้”
"ท่านพ่อ…ท่านมาสู้กับข้า'' ข้ากล่าวออกไป ทำให้ท่านพ่อตกใจมาก เพราะด้วยร่างของเล่อปิงที่มีมานาอยู่ มานานั้นมันสะกดพลังของข้าเอาไว้ทำให้ท่านพ่อไม่สามารถประเมิณพลังของข้าได้ เเม้เเต่ข้าเองเมื่อลองดูเลเวลพบว่าเลเวลของข้าเป็นเพียงเลเวลหนึ่ง เเต่ความเเข็งเเกร่งของข้ายังเป็นของข้าอยู่เช่นเดิม ราวกับเลขหนึ่งนี้มันหลอกตาไว้เฉยๆ เช่นนี้เเสดงว่าที่ข้าเห็นนางเลเวลหนึ่งมาตลอด…
"หืม…'' ท่านพ่อมองข้าด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าข้านั้นไม่สามารถชนะเขาได้อย่างเเน่นอน
"ถ้าหากท่านพ่อชนะ''
"เเล้วข้าจะบอกสิ่งที่ข้าบอกได้ในตอนนี้'' ข้ากล่าวออกไปทำให้ท่านพ่อเริ่มสนใจกับข้อเสนอของข้า เเละเหมือนว่าท่านต้องการจะสั่งสอนข้า
ณ ห้องใต้ดินของบ้านตระกูลหลี่
สถานที่นี้เป็นที่ฝึกซ้อมรวมกันของคนทั้งตระกูล มันเชื่อมทั้งสองบ้านไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่ที่ใหญ่พอสมควร โดยที่พวกผู้ใหญ่ปล่อยให้เหล่าเด็กๆในตระกูลหลับกันไปซะก่อน เเล้วค่อยมาคุยกันเรื่องของข้า ในตอนเเรกท่านเเม้ก็ไม่ต้องการให้ข้าสู้ เพราะข้าอาจจะบาดเจ็บ เเม้ว่าพวกผู้ใหญ่จะไม่ได้มองข้าเป็นเด็กอีกเเล้วก็ตาม
“ท่านพ่อ…ข้าไม่อยากให้ท่านประมาทข้า” ข้ากล่าวออกไปเพราะท่านพ่อเลือกที่จะไม่ใช่อาวุธ จะใช้เพียงเเค่หมัดกับข้า ซึ่งถ้าหากให้ข้าสู้กับโลกของผู้บำเพ็ญเเล้วมันช่างง่ายดายกว่าออกไปสู้ในโลกข้างนอกเสียอีก เพราะส่วนใหญ่ผู้บำเพ็ญจะหมั่นกันเเต่บำเพ็ญตบะ ไม่ค่อยฝึกต่อสู้ จะฝึกก็ต่อเมื่ออยู่ในระดับสมบูรณ์ ถึงกระนั้นก็ฝึกเพียงเเค่พื้นฐาน เเละใช่ ท่านพ่อในตอนนี้ถึงเเม้จะมีการตั้งท่าที่ดี เเต่กลับกันในมุมมองของข้าที่เป็นหนึ่งในการเเข่งขันต่อสู้มานับไม่ถ้วนจากชีวิตก่อน ช่องโหว่ของท่านพ่อมีเยอะมาก ตามที่ข้าคิดท่านพ่อคงจะเก่งในด้านการใช้กำลังภายในซะมากกว่า
ฟึบๆๆ
"เช่นนั้น…ท่านได้ตายไปเเล้ว'' ข้าได้พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วในช่องโหว่นั้น เเละใช่ท่านไม่สามารถตามความเร็วของข้าทัน เพราะนอกจากร่างกายของข้าจะถูกฝึกมาเเล้ว กายของข้ายังอยู่ในระดับทองคำ ในขณะที่ผู้บำเพ็ญทุกคนไม่มีขั้นระดับในการฝึกกาย ได้เเต่ลองผิดลองถูกกันเอง
"ถ้าหากข้าเอาจริง'' ข้ากล่าวอีกครั้งเมื่อมีดสั้นในมือของข้าจ่อที่คอของท่านพ่อ ข้าได้เหยียบเข่าของท่านพ่อไว้ทำให้ร่างของข้าเกือบเสมอกับท่านพ่อ
"เจ้าเป็นลูกข้าจริงๆงั้นหรือ?'' ท่านพ่อกล่าวออกมาก่อนที่กำลังภายในของท่านพ่อจะค่อยๆปะทุออกมา พร้อมกับใช้กำลังภายในเคลือบหมัดของท่านให้เเข็งเเกร่งเเละชกมาที่ข้า
ฟึบๆ ตุบ!
"ข้า…เป็นลูกของท่านมาสองชาติเเล้ว'' ข้ากล่าวออกไปเมื่อหมัดของข้าปะทะเข้ากับหมัดของท่านพ่อ โดยที่กำลังภายในของท่านพ่อเเละข้านั้นอยู่ในระดับเดียวกัน เเต่ขั้นของท่านพ่ออาจจะมากกว่าข้าเล็กน้อย ข้าใช้กำลังภายในไปเพียงครึ่งเดียวในการเพิ่มพลัง นอกจากนั้นก็ใช้กำลังของข้าล้วนๆ หมัดของข้าเเละท่านพ่อปะทะกันเเละดูเหมือนจะเป็นฝ่ายท่านพ่อที่เสียหลักไปเอง
“เจ้าหมายความว่าเช่นไร?'' ท่านพ่อกล่าวในขณะที่กำลังจะพุ่งเข้ามาสู้กับข้าต่อ เเละใช่ ท่านน้า ท่านอาเเละท่านเเม่ก็ได้ยินการพูดคุยของข้าไปด้วย
“มันอธิบายยาก…ในอนาคตข้าน่าจะทำให้ท่านพ่อเห็นภาพได้”
“ในชีวิตก่อน…ท่านได้จากไปตั้งเเต่ข้ายังเด็ก”
“เเต่สุดท้ายข้าก็สามารถพาตัวเองไปยังจุดสูงสุดของการต่อสู้ได้”
ตุบ
"หรือพูดง่ายๆก็คือ…ถึงเเม้จะเป็นท่านพ่อ…ก็ยังไม่สามารถชนะข้าได้'' ข้าใช้เเรงทั้งหมดรวมถึงกำลังภายในของข้าในการกดตัวของท่านพ่อลงกับพื้น ท่านพ่อไม่สามารถต้านเเรงของข้าได้ทำให้ท่านค่อยๆทรุดลงไปด้วยเเรงกดของข้า ไม่ว่าจะใครในตอนนี้ก็ตกใจในการกระทำของข้าทั้งหมด
"ข้ารู้…รู้มาตั้งเเต่เเรกเเล้วเหมือนกับท่านที่คิดว่าข้าไม่สามารถชนะท่านได้'' ข้ากล่าวออกไปในขณะที่ท่านพ่อค่อยๆลุกขึ้นยืน เเละท่านน้าท่านอารวมถึงท่านเเม่ก็ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆกัน
"เจ้าจะบอกว่าเจ้ามาเกิดใหม่?'' ท่านพ่อกล่าวตามความเข้าใจของท่าน
“ถูกต้อง…ข้าเกิดใหม่เเละยังคงเป็นลูกของท่านพ่อท่านเเม่เช่นเดิม'' ข้ากล่าวออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมา
‘ร่างเด็กนี่…ห้ามตัวเองเลยไม่ได้รึไงกัน’ ข้ากล่าวเมื่อรู้สึกได้ว่าน้ำตาค่อยๆไหลออกมา
“ส่วนท่านพี่เล่อปิง…ข้าสาบาน…ข้าจะหาทางพานางกลับมาให้ได้” ข้ากล่าวอีกครั้งเมื่อนึกถึงครอบครัวของข้าอีกคนที่ได้หายไปก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นข้าก็ได้เล่าเรื่องของข้าไปบางส่วนรวมถึงเรื่องที่เล่อปิงได้ถูกพาตัวไปด้วยชายผิวซีด ข้าเล่าเรื่องที่ข้ารู้เกี่ยวกับนางออกไปเกือบทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งนิสัยของนางก็เป็นเช่นนี้เเหละ จะทำอะไรไม่ค่อยบอกใคร ที่จริงนางเเทบจะไม่บอกใครเลยด้วยซ้ำ นางชอบทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอด เเละตามที่ข้าคิด หลายตระกูลที่ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลของข้าในเกือบปีที่ผ่านมานี้ เพียงเพราะข่าวว่าข้าได้ตายไปเเล้ว ธุรกิจหลายอย่างได้ถูกล้มเลิก ซึ่งมันอาจจะเป็นฝีมือของพวกคนใหญ่คนโตที่เมืองอื่น
เเละก็อาจจะเป็นเล่อปิงที่ช่วยตระกูลอยู่เบื้องหลัง นางได้บอกใบ้ข้าไว้หลายอย่างมาก ทั้งมานาในขวดโหล เเละโพชั่นสีเเดงที่ตั้งอยู่ข้างๆกัน ข้ารู้เกี่ยวกับพวกมันเหมือนกับที่พวกมันได้ถูกปล่อยขายโดยชื่อของโรงประมูลที่เมืองอื่น สุดท้ายพวกเขาก็มาช่วยตระกูลเราหลายอย่าง โดยที่ผู้นำของพวกเขายังเคารพเล่อปิงในตอนที่เจอกัน เรื่องนี้ข้าได้ยินมาจากท่านพ่อ ในเมื่อข้าเล่าเรื่องที่ข้ารู้ออกไป ท่านพ่อก็เล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟัง เเละข้าก็ได้ปะติดปะต่อเรื่องพวกนี้อีกทีนึง
"ท่านพ่อท่านเเม่ไม่ต้องห่วง…ถ้าหากพูดเเล้วในตอนนี้อายุจริงๆของข้าอาจจะมากกว่าห้าสิบ'' เมื่อข้ากล่าวออกไปท่านพ่อถึงกับตากระตุก ท่านเเม่อ้าปากด้วยความตกใจจนต้องรีบเอามือมาปิด
“ข้าคิดว่าข้ามีวุฒิภาวะพอที่จะเผชิญหน้ากับหลายๆอย่าง"
“อะไรที่ข้าคิดว่าข้าไม่สามารถทำได้…ข้าจะไม่เสี่ยง”
"เเละข้าอยากให้พวกท่านเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ'' ข้ากล่าวโดยที่รวมถึงท่านอาเเละท่านน้าด้วย ในเมื่อท่านพ่อท่านเเม่เชื่อใจพวกเขาเเละพวกเขาก็ไม่ทำให้ความเชื่อใจนั้นสูญเปล่าในเรื่องที่ผ่านมา ทำให้ข้าอยากจะลองเชื่อใจพวกเขาดูเช่นกัน
"ข้ารู้ว่าในตอนนี้พวกท่านอาจจะยังไม่เชื่อใจข้า'' ข้ากล่าวออกไปตามที่ข้าเห็น เพราะท่าทางของพวกเขามันเหมือนกำลังสื่อสารกันทางจิตอยู่
“ข้าขอเพียงให้พวกท่านคอยดูข้าเท่านั้น” ข้ากล่าวออกไปอีกครั้งก่อนที่จะขอตัวไปหาเบาะเเสเกี่ยวกับการคืนร่างของข้า
ณ ต้นไม้เล่อปิง
ข้าตั้งชื่อว่าต้นไม้เล่อปิงเพราะมันก็เหมือนบ้านของพี่สาวฝาเเฝดของข้าอีกหลังนึง ข้างในนั้นก็เป็นห้องดีๆนี่เอง เฟอร์นิเจอร์ครบ สิ่งอำนวยความสะดวกสบายก็เช่นกัน เเถมยังมีไอติมที่ข้าชอบอีกด้วย พูดถึงมันเเล้วก็อยากกินมันอีกจัง…
วึบ!
เเละเมื่อข้านำมือไปสัมผัสกับต้นไม้เล่อปิง มือของข้าก็หายเข้าไปในต้นไม้ทันที ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นข้าก็ได้เดินเข้าไปในต้นไม้เหมือนกับตอนที่เล่อปิงพาข้าเข้าไป เเละเมื่อข้าเข้ามาในห้องลับของนาง ร่างของข้าก็ได้เปลี่ยนกลับไปเป็นร่างของข้าเอง
"เหมือนข้าโดนจ้างเลยนะ…'' ข้ากล่าวออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบไอติมนมสดในตู้เย็นของนางมากิน ซึ่งที่ข้าพูดเช่นนั้นเพราะว่าไอติมนี่เเละที่นี่คือค่าจ้างที่ให้ข้ากลายเป็นนางเเละไปทำหลายๆอย่างเเทนนาง ซึ่งหลายๆอย่างนางได้บอกใบ้ไว้เป็นนัยๆ เเละนางก็รู้อีกว่าข้าสามารถเข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อ
นางชอบวางแผนอยู่เบื้องหลัง แผนของนางเเต่ละอย่างซับซ้อนมากๆ ข้าถึงกับต้องใช้เวลาในการคิดเกี่ยวกับแผนของนางพอสมควรเลยทีเดียว เเละข้าก็คิดว่าความสามารถของนางก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ถ้าหากนางรอดไปกับข้าในชีวิตที่เเล้ว ข้ากับนางพี่น้องฝาแฝดคงจะช่วยเหลือกันจนประสบความสำเร็จเหนือใครอย่างเเน่นอน
"นางไปเกิดที่โลกไหนกันนะ…'' ข้าคิดเกี่ยวกับชีวิตหลังจากที่นางตายจากการปกป้องข้า นางมีมานา มีความสามารถที่ลึกลับ นางมีความสามารถในการสร้างสิ่งของพวกนี้ พลังของนางคืออะไรกันเเน่? เเละนางไปใช้ชีวิตที่โลกไหนมา?
"เเละในตอนนี้…นางไปอยู่ที่ไหน?'' ข้ากล่าวกับตนเองมากมายหลายคำถาม เป็นคำถามที่ทำได้เพียงเดาคำตอบเพราะเจ้าตัวไม่อยู่ให้ข้าถาม
“ในตอนนี้…ข้าคงทำได้เพียงใช้ชีวิตเป็นเล่อปิง”
“เเต่ไม่ต้องห่วง…ในเมื่อเจ้าไม่สามารถเเสดงพลังของเจ้าออกมาได้”
"ข้าจะให้ยืมพลังของข้าในการเเสดงพลังของตัวเองออกมา'' ข้ายังคงกล่าวกับตนเองก่อนที่จะเดินไปนอนบนเตียงนุ่มๆ ไม่ว่าจะอะไรในนี้ก็เป็นสิ่งของทันสมัยไปซะหมดเลยเเฮะ ซึ่งในตอนนี้ตามที่ข้าคิด ท่านพ่อท่านเเม่คงกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่เกี่ยวกับตัวข้า เเละเหมือนจะปล่อยข้าให้ไปทำอย่างอื่นได้ในเมื่อข้าพิสูจน์ตนเองเเล้ว
“รอก่อน…ศิษย์น้องของข้า”
“ข้าหาวิธีกลับร่างเดิมเมื่อออกไปจากต้นไม้เล่อปิงได้เมื่อใด”
"ข้าจะทำตามสัญญา'' ข้ากล่าวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลงด้วยความง่วง นานเเล้วที่ข้าไม่ได้หลับบนเตียงสบายๆแบบนี้
วัดถัดไป
ณ ห้องทำงานของท่านพ่อ
"เจ้าว่าเช่นไรนะ!?'' ท่านปู่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ หลังจากที่ท่านปู่ทราบว่าเล่อป๋อได้กลับมาเเล้ว ท่านปู่ก็ได้รีบกลับมาในทันทีเพื่อมาหาหลานชายที่ลึกลับของเขา เเต่เมื่อเขากลับมา ในข่าวดีก็มีข่าวร้ายอยู่เช่นกัน เล่อปิงเเฝดเล่อป๋อได้หายตัวไปเเละในตอนนี้เล่อป๋อก็กลายเป็นเล่อปิง…
"ข้าอยากฝึกเงียบๆ…สถานที่เล่าเรียนพวกนั้นมันไร้ประโยชน์สำหรับข้า'' ข้ากล่าวออกไปทำให้ท่านปู่โกรธพอสมควร นี่มันโอกาสดีเเล้วไม่ใช่หรือ? เล่อป๋อได้เปลี่ยนตัวเป็นเล่อปิง เล่อป๋อสามารถใช้ร่างกายนี้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆได้โดยไม่มีใครลอบทำร้าย เเต่เล่อป๋อกลับบอกว่าจะฝึกด้วยตนเองที่บ้าน?
"ท่านพ่อ…ข้าอยากให้ท่านเชื่อเล่อป๋อ'' ท่านพ่อกล่าวออกไป ทำให้ข้ามั่นใจว่าท่านพ่อเเละท่านเเม่ได้ข้อสรุปเเล้วว่าพวกท่านทั้งสองเชื่อสิ่งที่ข้าพูด เเละพยายามจะสนับสนุนข้า
"จะ…เจ้า!…เช่นนั้นข้าจะฝึกเล่อป๋อด้วยตัวเอง!'' ท่านปู่กล่าวออกมาเมื่อท่านเเม่เเละท่านพ่อเข้าข้างข้า
"ท่านปู่……เช่นนั้นเเล้วข้าจะทำให้ท่านรู้ว่าข้าไม่ใช่เล่อป๋อที่อายุหกปี'' ข้าปล่าวออกไปเพราะท่านปู่ยังคงไม่ได้ฟังเรื่องราวที่ข้ามาเกิดใหม่เเละเรื่องที่ข้าต่อสู้กับท่านพ่อ ซึ่งเมื่อท่านพ่อเเละท่านเเม่ได้ยินเช่นนี้พวกเขาทั้งคู่ถึงกับสะดุ้ง
"น่าขำ…เเล้วเจ้าจะอายุเท่าไหร่กันเชียว?'' ท่านปู่กล่าวก่อนจะเดินนำไปที่ประลองใต้ดิน
"บางทีข้าอาจจะเรียกท่านว่าพี่ได้นะ'' ข้ากล่าวออกไปทำให้ท่านปู่ถึงกับหันมาหาข้าเเละส่งเเรงกดดันใส่ข้า ดูเหมือนท่านปู่จะโกรธที่ข้าไม่มีมารยาทกับท่าน เเต่ข้าต้องการเวลา ข้าต้องการเวลามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ข้าไม่อยากเสียเวลาเช่นนี้ ข้าจึงต้องยั่วให้ท่านปู่โกรธเเละสู้กับข้าหวังจะชนะข้าให้ได้ เเละข้าจะเอาจริงเพื่อชนะท่านปู่เพื่อให้ข้าได้ฝึกอย่างสงบ
หลังจากนั้นทั้งครอบครัวข้าก็ได้มายังสถานที่ฝึกของตระกูลหลี่ใต้ดิน โดยที่ระหว่างทางท่านพ่อเเละท่านเเม่พยายามทำให้ท่านปู่ใจเย็นเเละไม่ทำร้ายข้า เพราะท่านปู่นอกจากจะมีระดับขั้นกำลังภายในที่สูงเเล้ว ทักษะการต่อสู้ของเขาก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ท่านปู่ฝึกเพื่อที่จะไปเเข่งขันขึ้นไปเป็นเซียนบนสวรรค์
โดยการขึ้นเป็นเซียนบนสวรรค์จะนอกจากจะต้องมีขั้นบำเพ็ญในระดับหลุดพ้น เมื่อรับทัณฑ์สายฟ้าตามกำหนด จะได้ทะลวงระดับเป็นเซียนพเนจร หลังจากนั้นก็จะต้องเเข่งขันวรยุทธกับเซียนพเนจรด้วยกันเพื่อขึ้นไปบนสวรรค์ หรือมีอีกทางก็คือการที่มีขั้นมหาเทพลงมารับด้วยตัวเอง เเต่ก็จะเสียตบะไปพอสมควรสำหรับมหาเทพ เเละจะต้องแบกรับทัณฑ์สวรรค์อีกพอสมควร โดยที่ทางสุดท้ายคือการขึ้นสวรรค์ไปด้วยตนเองด้วยร่างระดับร่างทรงเทพเจ้า เเละพุ่งขึ้นไปสวรรค์ด้วยตนเอง ทัณฑ์สวรรค์ไม่สามารถทำอะไรได้ เเข็งเเกร่งทรงพลังกว่าผู้บำเพ็ญหลายขุม เเต่ในตอนนี้วิธีการฝึกกายมันได้หายสาบสูญไปนานเเสนนาน เเละมันก็ได้กลับมาตกอยู่ในมือของหลี่เล่อป๋อ
ในตอนนี้หลี่เล่อป๋ออาจจะยังไม่ทราบว่าตนนั้นเป็นภัยกับฝ่ายฮ่องเต้สวรรค์ขนาดไหน พวกเขาถือว่าตนนั้นเป็นผู้มีสิทธิ์ในการเเย่งชิงตำเเหน่งฮ่องเต้สวรรค์เลยก็ว่าได้ ด้วยพรสวรรค์ที่ตนมีถ้าหากมีทรัพยากรณ์ในการบ่มเพาะพอๆกับฮ่องเต้สวรรค์ หลี่เล่อป๋อจะเหนือกว่าฮ่องเต้สวรรค์ด้วยซ้ำ เเละใช่ในตอนนี้เล่อป๋อมีเจ้าลูกเเก้วของอาจารย์ไป่ ลูกเเก้วที่สามารถทำให้ท่านอาจารย์สามารถยืนทัดเทียมกับฮ่องเต้สวรรค์ได้ ฮ่องเต้สวรรค์เองก็หวาดกลัวอาจารย์ไป่เช่นกันในบางครั้ง กลัวว่าเขาจะมาเเย่งชิงตำเเหน่งของตน ตำเเหน่งที่สืบทอดกันมานาน เเต่อาจารย์ไป่กลับไม่คิดเช่นนั้น..