บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 17 แล้วนางเหล่าเป็นเช่นไร

กลิ่นยาขมคละคลุ่มไปทั่วห้องกว้าง อากาศภายในเรือนใหญ่ถ่ายเทได้สะดวก ข้าวของภายในห้องมิได้มีเพียงตกแต่งให้สวยงามและหรูหรา แต่ยังสามารถใช้งานได้ทุกชิ้น ทหารยามพลัดกันเฝ้าเวรอย่างแน่นหนา แม้เพียงหนูสักตัวก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาเข้ามาในเรือนแห่งนี้ ผ้าขาวที่ถูกสับเปลี่ยนซับโลหิตแดงกองโตถูกนำออกจากเรือนทุกวัน ได้รับการรักษาและตรวจอาการจากหมอหลวงที่ถูกเชิญให้มาพำนักที่จวนประจำหลายวัน เว่ยตงหยางนอนป่วยมาหลายแล้ว อาการของชายหนุ่มดีขึ้นตามอาการ เปลือกตาหนาที่หนักอี้งค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบาก เขาพบว่าร่างกายเขาตอนนี้ชาไปทั้งตัว ความเจ็บปะทุขึ้นทวีคูณเมื่อเขารู้สึกตัว

“เว่ยอ๋องฟื้นแล้ว”

เสียงแม่นมเหม่ยที่เฝ้าดูข้างกายตลอดหลายวันไม่ไปไหนรีบเข้ามาหาชายหนุ่มทันที และสั่งให้บ่าวอีกคนไปตามหมอหลวงมาตรวจอาการ

“น้ำ”

เสียงแหบแห้งบอกสิ่งที่ตนต้องการ แม่นมเหม่ยจึงรีบนำน้ำมาให้ทันที ความเจ็บแปล๊บที่แผลทำให้ชายหนุ่มดื่มน้ำอย่างยากลำบาก เพียงไม่นานหมอหลวงก็เข้าตรวจอาการด้วยใบหน้าเร่งรีบ มือหนาวางหงายตรงราบไปกับพื้นเตียงนุ่ม เพียงชั่วครู่หลังจากจับชีพจรก็เป็นอันเสร็จ

“เว่ยอ๋องไม่เป็นอันใดมากแล้วขอรับ เพียงกินเทียบยาตามที่กระหม่อมจัดไว้ให้และคอยล้างแผลทุกวันมิให้โดนน้ำก็หายดีไม่เกิน 7 วัน”

“อื้ม แม่นมเหม่ยส่งท่านหมอหลวงด้วย”

“เจ้าค่ะ”

เว่ยตงหยางเอ่ยบอกก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากเรือนไป

“แล้วนางเหล่าเป็นเช่นไร”

หลังผู้คนออกไปหมดแล้วเหลือเพียงผู้ช่วยเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ

“แม่นางหลี่เองก็ป่วยหนักขอรับ”

หมิงเพ่ยเอ่ยอย่างรายงาน หากนางที่ผู้เป็นนายหมายถึงคือแม่นางหลี่ก็คงไม่มีผู้ใดแล้ว ตอนที่เขาเห็นสภาพตอนหญิงสาวเดินเลื่อนลอยเพื่อตามหาคนมาช่วยท่านอ๋องก็อดนึกสงสารนางมิได้เช่นกัน

“มีหมอไปดูหรือยัง”

“เอ่อ…นางถูกส่งตัวกลับเรือนที่หมู่บ้านเซิ่งฮุนแล้วขอรับ”

“ไล่ออกหรือ ผู้ใดบังอาจตัดสินใจแทนข้า”

เสียงเข้มที่ก่อนหน้านี้ยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบดูจะมีน้ำโหขึ้นมาอย่างมิรู้ตัว

“มิได้ไล่ขอรับ แม่นมเหม่ยเห็นว่านางไม่สบายเลยให้ลากลับเรือนได้ 3 วันขอรับ”

หมิงเพ่ยรีบอธิบายให้ผู้เป็นนายได้เข้าใจ

“แล้วนี่ข้าสลบไปนานกี่วัน”

“3 วันขอรับ”

“สืบเรื่องได้เช่นไรบ้าง”

“เรียนท่านอ๋อง คนร้ายที่แฝงเข้ามาเป็นคนเลี้ยงม้าเมื่อหลายวันก่อน ตอนนี้ถูกขังที่คุกได้ดินขอรับ สอบสวนแล้ว แต่ทำเช่นไรก็มิเอ่ยปากขอรับ ยังรอท่านไปสอบสวนอีกครา แต่เพราะท่านเกิดเหตุตกแม่น้ำลิ่งชวนเสียก่อน ทำให้ตอนนี้ยังคงถูกขังอยู่เช่นเดิม ส่วนม้าที่พยศเกรงว่าจะมีสาเหตุมาจากคนผู้นี้ด้วยขอรับ หญ้าที่มันกินเข้าไปมีผงคล้ายแป้งที่ทำจากดอกกันชวี่ มีฤทธิ์ทำให้มอมเมาแต่อาการจะคล้ายปกติ เมื่อมีสิ่งทำให้ตกใจจะออกฤทธิ์กระตุ้นทันทีขอรับ”

ปัง!

เสียงทุบโต๊ะดังลั่นจนลืมความเจ็บ มันเป็นใครถึงกล้าแหย่เสือเช่นเขากัน คงคิดว่าอ๋องอย่างข้าผู้ใดจะจัดการได้ง่ายๆเช่นนั้นหรือ มิประเมินตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจะตอบแทนมันคืนอย่างสาสม

……

ภายในห้องนอนเล็กๆของเรือนเก่าแต่กลับดูอบอุ่นยิ่งกว่าหาสิ่งใดเทียบ เสียงของเม็ดฝนตกกระทบหลังคาที่ทำจากหญ้าคา ยามโดนน้ำแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นแต่มันกลับใช้งานได้ดีไม่มีรอยรั่วของน้ำฝนหยดลงกลางเรือนเลยแม้แต่น้อย หน้าต่างไม้เพียงบานเดียวในห้องถูกเปิดกว้างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก อีกทั้งเสียงน้ำฝนที่กระทบพื้นดินด้านนอก ยังชวนให้บรรยากาศดูสดชื่นขึ้นอีกด้วย กระถางดอกไม้ป่าที่บิดาเก็บติดไม้ติดมือมาฝากบุตรสาวถูกปลูกไว้ข้างหน้าต่าง ช่วงเวลาที่พืชทุกชนิดต่างแข่งกันเติบโตและเบ่งบานล่วงเลยจนเข้าฤดูวสันต์อย่างเต็มตัว

“เจ้าพึ่งหายป่วย เหตุใดถึงเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เช่นนั้น”

เสียงของหญิงวัยกลางคนบ่นให้บุตรสาวขณะที่เดินเข้ามาในห้อง

“ท่านแม่มาพอดีเลยเจ้าคะ ท่านช่วยดูผ้าผืนนี้สิเจ้าคะ ใช้ผ้าแบบใด เนื้อผ้าเช่นไรกันข้าหาซื้อมาแล้วยังไม่เจอเนื้อผ้าดีเช่นผืนนี้เลย “

หลี่ซิวอิงพยายามเปลี่ยนเรื่อง เมื่อหลายวันก่อนหลังจากกลับมาที่จวนเว่ยอ๋องก็นอนซมที่ห้องสาวใช้ถึง 2 วัน เมื่ออาการดีขึ้นแม่นมเหม่ยจึงได้ให้นางลาหยุดกลับมาพักผ่อนที่เรือนได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะนางได้ช่วยเว่ยอ๋องไว้จึงได้ถูกอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ และพอทราบมาว่าวันแรกที่ตนมาถึงหมู่บ้านเซิ่นฮุ่น ท่านอ๋องก็ฟื้นวันนั้นพอดี

”เจ้าทำอันใดกัน“

หลี่ซูหลินเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความสงสัย ผ้าเนื้อดีหลายผืนกองอยู่ตรงหน้าหญิงสาว

“ข้าทำเสื้อคลุมสหายเสียหายเลยจะตัดให้เขาใหม่เจ้าค่ะ แต่เนื้อผ้าและการตัดเย็บดีเสียยิ่งกว่าร้านขายผ้าจะทำได้ เลยอยากทำให้เขาเองเจ้าค่ะ“

“เจ้าเย็บผ้าเป็นหรือ”

แฮร่~~

หลี่ซิ่วอิงยิ้มแห้งออกมาให้ผู้เป็นมารดา อันที่จริงนางแค่จะเลือกเนื้อผ้าที่ดีใกล้เคียงผ้าผืนเก่าและขอร้องให้มารดาตัดเป็นเสื้อคลุมให้เท่านั้น เพราะฝีมือมารดาตนนับว่าดีกว่าร้านเย็บปักใหญ่ๆในตลาดเสียอีก หลี่ซูหลินช่วยบุตรสาวเลือกผ้าก่อนที่จะเย็บเสื้อคลุมให้ไหม่ ส่วนตัวเดิมที่มีรอบขาด ก็เย็บซ่อมและปักลวดลายใหม่จนดูไม่ออกว่าเสื้อคลุมนั้นเลยเสียหายมาก่อน ด้วยความสามารถและฝีมือก็สามารถทำเสร็จได้ภายในคืนนี้เป็นแน่

เสียงไก่ขันในช่วงเช้าตรู่ปลุกให้หญิงสาวที่นอนหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่มหนาให้ตื่นขึ้น สองมือบิดขี้เกียจทั้งที่ยังหลับตาอยู่ แต่เพราะวันนี้นางต้องเดินทางกลับไปที่จวนสกุลเว่ยแล้ว ถึงแม้จะอยากหยุดต่อมากเพียงใดก็ทำไม่ได้ ความรู้สึกเหมือนโลกใบเก่าที่ได้หยุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับพริบตาเดียวเท่านั้นก็ถึงวันจันทร์ทำงานอีกแล้ว มือบางเอื้อมไปเปิดหน้าต่างไม้ แสงแดดสีทองอบอุ่นในช่วงเช้ากระทบใบหน้างาม หลายวันแล้วที่ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์อุ่นในช่วงเช้าแบบนี้เพราะฝนพายุ เท้าบางที่ตอนนี้ยังคงพันด้วยผ้าพันแผลก้าวลงที่พื้นเย็นอย่างเคยตัว ความเจ็บที่ปลายเท้าเตือนให้หญิงสาวระวังตนเองมากขึ้น ใบหน้างานยับยู่ยี่ก่อนที่จะเดินกระเพกไปอาบน้ำเตรียมตัวออกเดินทาง

“เดินทางปลอดภัยนะลูก แม่เตรียมขนมเอาไว้ให้เจ้ากินระหว่างทางด้วย”

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่”

มือเรียวกุมมือผู้เป็นมารดาเอาไว้ก่อนที่จะกอดกันอย่างมิอยากจากลา

“ท่านพ่อ~”

ใบหน้างามหันมาทางผู้เป็นบิดาน้ำตาลื่น ก่อนที่จะเข้าสวมกอดเช่นกัน มือหยาบกร้านที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงบุตรสาวตนมาอย่างดีลูบที่หลังบางด้วยความรัก

“ท่านสองคนดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าคะ หากมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นต้องรีบไปส่งจดหมายบอกข้าที่ร้านเหมยกุ้ยเลยนะเจ้าคะ”

หลี่ซิ่วอิงเอ่ยอย่างกำชับก่อนที่นะขึ้นรถม้าที่จ้างมาก่อนแล้ว นางแบ่งเงินที่ขายตนเองเข้าจวนให้ทั้งสองครึ่งหนึ่งเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน ส่วนอีกครึ่งนางเก็บไว้กับตน การเป็นบ่าวที่จวนสกุลเว่ยนอกจากกินฟรีอยู่ฟรีแล้วยังได้เงินทุกเดือนอีกด้วย นางแทบไม่มีค่าใช้จ่ายอันใดเพียงแค่เก็บเงินไถ่ตัวเองออกมาให้เป็นอิสระในบ้านปลายชีวิต ตามกฎแคว้นฉินการขายตัวเองเข้าเป็นบ่าวได้เงินไม่มากมายนัก แต่หากจะไถ่ตนออกมานั้นกลับต้องจ่ายมากกว่าเดิมสิบเท่า ถึงกฎจะดูไม่ยุติธรรมไปบ้างแต่การเป็นบ่าวรับใช้ก็มีข้อดีมิน้อยหากเจอจวนสกุลไหนที่ดูแลบ่าวไพร่ดีอย่างเช่นจวนอ๋องเว่ย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel