บทที่ 6 หอหมื่นโอสถ
"พี่ใหญ่ๆ มาทางนี้เจ้าค่ะ"
เฉินหยางเมื่อได้ยินน้องสาวเรียกจึงเดินตามนางไป เขาเองแปลกใจที่เห็นนางเดินตามกระต่ายอสูรและกระต่ายตัวนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายนาง เมื่อเดินมาได้ประมาณหนึ่งเค่อก็เจอลำธาร มีโขดหินเล็กใหญ่อยู่มากมาย เจ้ากระต่ายอสูรก็มาหยุดที่โขดหินก้อนหนึ่ง
เมื่อทั้งสองสำรวจดูโดยรอบก็ต้องตะลึงกับสมุนไพรตรงหน้ามันคือ'ดอกบัวสีรุ้ง' จำนวนสามดอก และไม่ห่างกันมากนักก็พบ'หญ้าวารีสีรุ้ง' อีกห้าต้น
"หลันเอ๋อร์เราเจอของดีเข้าแล้วช่างโชคดีเสียจริง" เฉินหยางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ สมุนไพรสีรุ้งเป็นสมุนไพรหายากมีราคาสูงเพราะนอกจากจะนำไปหลอมเป็นยาเพิ่มพลังปราณแล้ว ยังเป็นวัตถุดิบในการปรุงยาพิษและยาแก้พิษได้
"พี่ใหญ่เรารีบเก็บกันเถิดเจ้าค่ะจะได้นำไปขายในเมืองกัน สมุนไพรพวกนี้คงจะมีราคาไม่น้อย" ไป๋หลันเอ่ยบอกพี่ชายแล้วหันไปเอ่ยกับเจ้ากระต่าย "เจ้ากระต่ายข้าขอบใจเจ้ามากนะ" กระต่ายอสูรผงกหัวขึ้นลงรับรู้แล้ววิ่งเข้าป่าไปทันที
"เอ๊ะ!!...นั่นเจ้าพูดกับมันรู้เรื่องด้วยหรือ? เจ้าช่างทำให้พี่ประหลาดใจยิ่งนัก" เฉินหยางเอ่ยอย่างสงสัยและประหลาดใจที่น้องสาวกับกระต่ายอสูรสื่อสารกันได้
"ยังมีเรื่องให้น่าประหลาดอีกเยอะเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ข้าขอดอกบัวสีรุ้งและหญ้าวารีสีรุ้งอย่างละหนึ่งต้นนะเจ้าคะ" เอ่ยจบนางก็หยิบสมุนไพรทั้งสองส่งเข้าไปไว้ในมิติแล้วปรับเวลาให้เป็นหนึ่งเค่อเท่ากับหนึ่งร้อยปีในมิติ
เฉินหยางเมื่อเห็นสมุนไพรหายวับไปต่อหน้าพลันดวงตาพลันเบิกกว้างด้วยความตกใจจรต้องอุทานออกมาเสียงดัง "นี่เจ้า!!..."
"ข้าบอกแล้วว่ายังมีเรื่องให้ประหลาดใจอีกมาก เอาไว้ข้าค่อยเล่าให้ฟังนะพี่ใหญ่ วันนี้เรารีบไปกันเถิดประเดี๋ยวจะเย็นเสียก่อน"
เมื่อทั้งสองเดินออกจากป่าก็ตรงไปยังร้านขายสมุนไพรทันที ร้านขายสมุนไพรนี้เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ซื้อขายในราคายุติธรรมร้านมีชื่อว่า 'หอหมื่นโอสถ'
"เชิญขอรับคุณชายหลิน วันนี้มาขายสมุนไพรหรือมาซื้อขอรับ" คนงานหน้าร้านกล่าว คุณชายหลินเป็นลูกค้าประจำที่ร้าน เขามักมาซื้อและมาขายสมุนไพรอยู่บ่อย ๆ
"วันนี้ข้าและน้องสาวนำสมุนไพรมาขาย" เฉินหยางเอ่ยตอบ
"เช่นนั้นเชิญด้านในเลยขอรับ"
ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านก็พบกับเถ้าแก่จางกำลังคัดสมุนไพรอยู่จึงเอ่ยทำความเคารพ "คาราวะเถ้าแก่จางขอรับ/เจ้าค่ะ"
"วันนี้ข้าและน้องสาวนำสมุนไพรมาขายขอรับ" เฉินหยางเอ่ยพร้อมกับหยิบสมุนไพรออกมา มีดอกบัวสีรุ้งสองดอก หญ้าวารีสวรรค์สีรุ้งสี่ต้น และสมุนไพรเพิ่มลมปราณธรรมดาอีกห้าต้น
"โอ้...นี่มันสมุนไพรระดับสูงหายาก" เถ้าแก่จางกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะไม่ค่อยมีผู้ใดพบสมุนไพรชนิดนี้มากนัก
จากนั้นก็ตกลงซื้อขาย'ดอกบัวสีรุ้งและหญ้าวารีสวรรค์สีรุ้งในราคาต้นละห้าพันเหรียญทอง สมุนไพรธรรมดาต้นละหนึ่งร้อยเหรียญเงินรวมแล้วได้เงินมาสามหมื่นเหรียญทอง กับห้าร้อยเหรียญเงิน
"เถ้าแก่จางรับซื้อโอสถด้วยหรือไม่เจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถามเถ้าแก่จาง
"ใช่แล้วคุณหนูน้อย เจ้าจะขายโอสถอะไรหรือ?" เถ้าแก่จางเอ่ยถามอย่างสงสัย
"โอสถเพิ่มพลังปราณเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมทำทีหยิบโอสถจากจากแขนเสื้อแต่อันที่จริงนางหยิบมาจากมิติส่วนตัวแล้วส่งให้เถ้าแก่จางทันที
เถ้าแก่จางรับโอสถมาตรวจสอบดู พลันเบิกตากว้างทันที! แล้วเอ่ย "โอสถเพิ่มพลังปราณระดับสูง ความบริสุทธิ์ระดับสิบ!!!”
โอ้..สวรรค์ตั้งแต่เกิดมาเขาเองก็เพิ่งเคยพบโอสถที่มีความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วนเช่นนี้ แล้วกลิ่นหอมของดอกไม้ที่โชยออกมานั่นช่างหอมชื่นใจยิ่งนัก!! เถ้าแก่จางคิดในใจแล้วเอ่ยบอกทั้งสองคน
"คุณชาย คุณหนูทั้งสองโปรดรอสักครู่" กล่าวจบเถ้าแก่จางก็เดินขึ้นไปด้านบนของร้านทันที
ชั้นสองของหอหมื่นโอสถ "ขออภัยท่านผู้อาวุโสขอรับ มีลูกค้านำโอสถมาขายเป็นยาเพิ่มพลังปราณระดับสูง ความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วนขอรับ” เถ้าแก่จางเอ่ยบอกผู้อาวุโสด้านหน้า
“เจ้าว่าอย่างไรนะ เต็มสิบส่วนเช่นนั้นหรือ ไหน ๆ ขอข้าดูหน่อยสิ" ผู้อาวุโสเอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างตื่นเต้นตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าจะมีโอสถที่มีความบริสุทธิ์เต็มสิบบนแผ่นดินนี้
"นี่ขอรับ" เถ้าแก่จางรีบส่งขวดยาให้ผู้อาวุโสดูทันที
"โอ้…สวรรค์ตาแก่คนนี้คงนอนตายตาหลับแล้ว" ผู้อาวุโสเอ่ยกับตัวเอง เขาเองก็เป็นผู้ปรุงโอสถยาที่หลอมออกมานั้นความบริสุทธิ์อยู่ที่แปดส่วนเพียงเท่านั้น แล้วกลิ่นหอมของดอกไม้มันช่างน่าสนใจยิ่งนัก
"เป็นผู้ใดที่นำมาขายหรือ?" ผู้อาวุโสเอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้
"คุณชายหลินและน้องสาวขอรับ" เถ้าแก่จางเอ่ยตอบ
"ให้ราคาเม็ดละสองหมื่นเหรียญทอง พร้อมป้ายหยกของหอหมื่นโอสถ" ผู้อาวุโสเอ่ยพร้อมหยิบป้ายหยกขาวที่ตนทำขึ้นเองยื่นให้เถ้าแก่จาง
"ขอรับ" เถ้าแก่จางรับของมาจากท่านผู้อาวุโสแล้วเดินลงไปยังด้านล่างทันที
"ขออภัยที่ให้รอนาน ท่านผู้อาวุโสเจ้าของหอหมื่นโอสถรับซื้อโอสถราคาเม็ดละสองหมื่นเหรียญทอง มีทั้งหมดห้าเม็ดก็เป็นเงินหนึ่งแสนเหรียญทอง ท่านทั้งสองตกลงจะขายหรือไม่" เถ้าแก่จางเอ่ย
"ข้าตกลงเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มแก้มแทบปริ พลางคิดในใจว่าถ้านางไม่รวยชาตินี้แล้วจะไปรวยชาติไหนกัน
"อ้อ!...ข้าเกือบลืม ป้ายหยกชิ้นนี้เป็นของผู้อาวุโสเจ้าของ'หอหมื่นโอสถ'ที่มีกิจการมากมายทั้งสี่แคว้น ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการสมุนไพรก็แสดงป้ายหยกนี่ได้ทุกสาขา" เถ้าแก่จางเอ่ยพร้อมยื่นป้ายหยกส่งให้สตรีตัวน้อย
" ขอบคุณเจ้าค่ะเถ้าแก่จาง" ไป๋หลันรับป้ายหยกมาสำรวจดู มันเป็นป้ายหยกสีเขียวอ่อนจนเกือบขาว สลักตัวอักษรหม่าไว้ทั้งสองด้านมีพู่สีขาวห้อยสวยงาม เมื่อเมื่อเสร็จเรียบร้อยทั้งสองจึงเดินออกมาจากร้านก็พบว่าตอนนี้เวลาล่วงมายามเซินแล้ว
"พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าท่านมีเรื่องสงสัยอยากถาม เอาไว้ข้า… น้องสาวผู้น่ารักผู้นี้จะเล่าให้ฟังพร้อมกันกับท่านพ่อ ท่านแม่ก็แล้วกันนะเจ้าคะ " ไป๋หลันเอ่ยบอกพี่ชายที่ทำหน้าตาประหลาดคงตกใจเพราะได้เงินค่าขายโอสถมาไม่น้อย
"ได้ ๆ เช่นนั้นเราแวะซื้ออาหารที่โรงเตี๊ยมแปดทิศกลับไปกินพร้อมท่านพ่อ ท่านแม่กันเถิด" เอ่ยจบทั้งสองก็มุ่งหน้าไปโรงเตี๊ยมแปดทิศทันที โรงเตี๊ยมแปดทิศเป็นโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งมีห้องพักและมีอาหารรสเลิศน่าลิ้มลองมากมาย เมื่อทั้งสองได้อาหารครบเรียบร้อยก็เดินทางกลับบ้านทันที
# ด้านบนชั้นสองของหอหมื่นโอสถ
"ถ้าบุพเพนำพาให้ได้พบเจอกันอีกข้าจะต้องรับเจ้ามาเป็นศิษย์ของข้าให้ได้…ฮ่า ๆ ๆ" เสียงผู้อาวุโสเอ่ยกับตัวเอง เขาผู้นี้ก็คือท่านหมอเทวดาหม่าหรือเจ้าสำนักเซียนโอสถหม่าชิงหลุน ผู้ไม่เคยรับศิษย์นั่นเอง
เมื่อทั้งสองกลับมาถึงบ้านก็พบกับท่านแม่ที่กำลังจะเข้าครัวทำอาหารเย็นพอดี
"ท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ/เจ้าค่ะ" ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
"อ้าว กลับมาแล้วหรือลูก มานั่งพักกันก่อนเถิดแล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะเชียว" อู๋เหยาเอ่ยถาม แล้วเอ่ยชวนบุตรทั้งสองของนางให้มานั่งที่เก้าอี้
"ข้าแวะซื้ออาหารเย็นมาจากโรงเตี๊ยมแปดทิศขอรับ วันนี้ข้าและหลันเอ๋อร์ได้สมุนไพรหายากมาและนำไปขายได้เงินมาจำนวนไม่น้อยเลยขอรับท่านแม่ " เฉินหยางเอ่ยพลางคิดว่า เงินที่ได้มานั้นใช้จ่ายอย่างประหยัดอยู่ได้สบายตลอดชีวิตเลย
"จริงหรือลูก แม่ดีใจยิ่งนัก เจ้าจะได้ไม่ต้องเข้าป่าหมอกอสูรไปเก็บสมุนไพรบ่อยๆอีก เพราะแม่กลัวว่าเจ้าจะได้รับอันตราย"
"จริงขอรับท่านแม่" เฉินหยางเอ่ยตอบมารดาแล้วหันไปเอ่ยกับน้องสาวของตน "หลันเอ๋อร์เจ้าช่วยท่านแม่จัดโต๊ะอาหารนะ พี่จะไปพาท่านพ่อออกมาทานข้าวด้านนอก"
"เจ้าค่ะพี่ใหญ่" ไป๋หลันเอ่ยรับคำพี่ชายแล้วช่วยมารดาจัดโต๊ะอาหารทันที
ในระหว่างมื้ออาหารทั้งสี่คนก็พูดคุยกันเรื่องได้สมุนไพรล้ำค่าและนำไปขายที่ในตลาด จนกระทั่งทานอาหารเสร็จเรียบร้อยไป๋หลันจึงตัดสินใจบอกความลับของตัวเอง
"ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกให้พวกท่านทราบเจ้าค่ะ" นางตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับท่านปู่เทพให้ทุกคนฟังเพราะทุกคนคือคนในครอบครัวที่นางรักและไว้ใจพวกเขาคงไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผู้อื่นทราบแน่นอน
"เรื่องอะไรหรือหลันเอ๋อร์" เฉินหยวนเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความสงสัย
"เรื่องมีอยู่ว่าตอนที่ลูกป่วยนอนไม่ได้สตินั้น ลูกคล้ายกับฝันแต่ก็ไม่ใช่ฝัน ว่าได้เดินทางไปที่แห่งหนึ่ง" แน่นอนว่านางไม่ได้เล่าเรื่องที่หลินไป๋หลันคนเก่าได้ตายไป แล้วเป็นนางที่เข้ามาอาศัยอยู่ในร่างนี้แทน
"ที่นั่นผู้คนแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยแต่ก็ดูสวยงาม ที่พักอาศัยก็สูงเฉียดฟ้า พาหนะที่ใช้เป็นเหล็กมีล้อสี่ล้อวิ่งได้รวดเร็ว ของกินและของใช้ก็แปลกตายิ่งนักเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยต่อ พลางคิดในใจว่านางพยายามอธิบายเต็มที่แล้วหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจในสิ่งที่นางเอ่ยไป