8
บทที่ 8 เริ่มวางแผนหาเงิน
หลายวันต่อมา บ้านเล็กๆ ของครอบครัวหลินก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียงหัวเราะเบาๆ ของเด็กน้อยทั้งสองดังขึ้นบ่อยครั้ง เสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่แม้จะยังมีรอยปะชุน แต่ก็สะอาดสะอ้านและมีกลิ่นหอมจางๆ ของสบู่ติดอยู่
หวานซื่อกับเหนียงซื่อลูบมือของตัวเองเบาๆ รอยแตกที่เคยมีเริ่มตื้นขึ้น ความหยาบกร้านลดลงอย่างเห็นได้ชัด พวกนางมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมาบางๆ เป็นรอยยิ้มที่มาจากใจจริงครั้งแรกในรอบหลายปี
ทุกอย่างกำลังดีขึ้น...ดีขึ้นจนน่าใจหาย
ในขณะเดียวกัน หลินจือเหนียงกำลัง "เดินเล่น" อยู่ในมิติซูเปอร์มาร์เก็ตของตัวเอง
นางมองชั้นวางสินค้าที่อัดแน่นไปด้วยของกินของใช้นานาชนิดแล้วก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
จริงอยู่ที่ของในนี้มีมากมายมหาศาลราวกับใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่นางรู้ดีว่าทุกอย่างมีขีดจำกัด ของทุกชิ้นที่นางหยิบออกไป คือของที่หมดไปจากชั้นวาง มันไม่ได้ถูกเติมขึ้นมาใหม่
การพึ่งพามิติซูเปอร์มาร์เก็ตเพียงอย่างเดียวไม่ใช่หนทางที่ยั่งยืน มันเป็นเหมือนการขุดสมบัติในบ้านตัวเองมากินไปวันๆ สักวันหนึ่งมันก็ต้องหมดลง และที่สำคัญกว่านั้น การที่ครอบครัวมีของดีๆ กินใช้ขึ้นมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป เริ่มกลายเป็นจุดสนใจของคนในหมู่บ้านมากขึ้นทุกที หากวันหนึ่งมีคนสงสัยและสืบสาวราวเรื่องขึ้นมาอย่างจริงจัง นางจะเอาอะไรไปอธิบาย?
ไม่ได้การนางต้องหาแหล่งรายได้ที่จับต้องได้และอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้
ครอบครัวของนางต้องมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินจือเหนียงก็เริ่มวางแผนในหัวอย่างจริงจัง จะทำอะไรดีล่ะ? ทำการเกษตร? ในมิติมีเมล็ดพันธุ์พืชชั้นดีมากมายที่ให้ผลผลิตสูงกว่าปกติ แต่มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายเดือนกว่าจะเก็บเกี่ยวได้ไม่ทันการณ์
หรือจะเอาของสำเร็จรูปจากในมิติไปขายเลย? เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือขนมปังไม่ได้เด็ดขาด ของพวกนั้นมันแปลกใหม่เกินไปสำหรับยุคนี้ มันจะสร้างปัญหามากกว่าสร้างเงิน
สุดท้ายความคิดของนางก็มาหยุดอยู่ที่ "อาหาร"
ใช่แล้วต้องเป็นอาหาร คนเราต้องกินทุกวัน และอาหารอร่อยๆ ย่อมเป็นที่ต้องการเสมอ ที่ผ่านมานางทำอาหารให้คนในบ้านกิน กลิ่นของมันก็ลอยไปไกลจนเพื่อนบ้านยังต้องเหลียวมอง นี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว นางก็เรียกสะใภ้ทั้งสองมาประชุมที่โต๊ะกลางบ้าน
"แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับพวกเธอ"
หวานซื่อกับเหนียงซื่อนั่งลงอย่างเรียบร้อย ในใจก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่รู้ว่าแม่สามีมีเรื่องสำคัญอะไร
"แม่คิดว่าเราจะรอเงินที่ลูกชายส่งกลับมาอย่างเดียวต่อไปไม่ได้แล้ว" หลินจือเหนียงเปิดประเด็น "เงินเดือนทหารมันน้อยนิด แถมยังส่งมาไม่แน่นอน เราจะปล่อยให้ชีวิตของพวกเรากับหลานๆ แขวนอยู่บนความไม่แน่นอนแบบนี้ไม่ได้ เราต้องหาเงินด้วยตัวเอง"
สองสะใภ้เบิกตากว้าง ผู้หญิงในยุคนี้ส่วนใหญ่ก็มีหน้าที่ทำงานบ้านดูแลลูกสามี การคิดจะออกไปหาเงินด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยมีใครคิด
"แต่ว่าพวกเราจะไปทำอะไรได้ล่ะคะคุณแม่" หวานซื่อถามเสียงอ่อย "พวกเราเป็นแค่ผู้หญิง..."
"แล้วผู้หญิงมันทำไม" หลินจือเหนียงสวนกลับทันที "ผู้หญิงก็มีสองมือสองเท้าเหมือนกัน ทำไมจะหาเงินเองไม่ได้"
นางมองลึกลงไปในดวงตาของสะใภ้ทั้งสอง "แม่เห็นแล้วว่าเหนียงซื่อมีฝีมือในการทำอาหาร ส่วนหวานซื่อก็รู้จักพูดจาต่อรอง แม่เลยคิดว่าเราจะลองทำของกินไปขายที่ตลาดในอำเภอกันดู"
"ทำของขายหรือคะ" ทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ
"ใช่" หลินจือเหนียงพยักหน้าอย่างหนักแน่น "เราจะเริ่มจากของง่ายๆ ก่อนเราจะทำหมั่นโถวหมูสับเห็ดหอมสูตรพิเศษไปขายกัน วัตถุดิบดีๆ แม่พอจะหาทางจัดหามาได้ ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่ฝีมือของพวกเราแล้ว"
นางมองหน้าสะใภ้ทั้งสองที่ยังคงอึ้งอยู่ "ว่ายังไงล่ะพวกเธอกล้าที่จะลองไปกับแม่ไหม"
หวานซื่อกับเหนียงซื่อมองหน้ากัน ในแววตาของพวกนางมีทั้งความกลัว ความไม่มั่นใจ แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความตื่นเต้นและประกายแห่งความหวังฉายชัดขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
