ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้สักอย่าง (1/2)
บทที่ 3
ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้สักอย่าง
หลังจากเดินออกมาจากห้องนอนมาแล้วลินก็ไม่ได้เดินไปที่ห้องของคุณศิระทันที เธอหยุดกลางทางและรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กเงินในบัญชีธนาคารก่อน
“จะหย่าทั้งทีก็ต้องดูความพร้อมของตัวเองด้วยสิ” เธอไม่ได้เป็นคนทำอะไรไม่เตรียมการล่วงหน้าหรอกนะ
ทันทีที่กดเข้าไปในแอปพลิเคชันของธนาคารแห่งหนึ่ง ลินก็เห็นเลขศูนย์ต่อท้ายกันมากมายจนทำให้ลินเผลออุทานด้วยความตกใจ
“โอ้โห เธอโคตรจะรวยเลยนี่!” ลินคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเจ้าของร่างเดิมคงมีเงินมากมายแต่เธอไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ มากถึงขนาดที่ถ้ามีคนมาถามเธอว่าคุณมีความสามารถอะไรไหม ลินคงตอบไปว่าเธอรวย
“ไม่อยากจะคิดถึงความรวยของสามีในนามของฉันเลย” ลินพึมพำกับตัวเอง ขนาดตัวเธอที่ไม่ได้ทำงานอะไรยังรวยขนาดนี้แล้วสามีที่ทำงานแทบจะตลอดเวลาจะรวยขนาดไหนกันนะ
“โอเค ตรวจความพร้อมเรียบร้อยแล้วไปหย่ากันเลยดีกว่า ตอนนี้บ้านหรือรถฉันก็ไม่ต้องการแล้ว”
เพราะตอนนี้มีเงินมากมายจะใช้ชีวิตในช่วงสองปีนี้ยังไงก็ได้ เธอนึกถึงชีวิตที่อิสระไม่ต้องอยู่แค่ที่บ้านอย่างเดียว ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำแค่นึกก็ทำให้เธอมีความสุขมากแล้ว
ลินเดินไปด้วยความมั่นใจที่จะหย่ากับสามีแต่ใครจะคิดว่าความมั่นใจที่มีในตอนแรกจะทำให้เธอเปลี่ยนความคิดไปตลอดกาล
“ตึง!” เสียงลินเปิดประตูห้องทำงานของคุณศิระด้วยความรวดเร็ว
“เคาะประตูก่อนสิ” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารและเอ่ยเขาเตือนเธอ
ทันทีที่เธอสบตาเขาความกล้าในตอนแรกก็เกือบจะหายไปครึ่งหนึ่งแต่ The show must go on เธอเดินมาถึงขนาดนี้แล้วไม่มีทางให้ถอยแล้วเพราะฉะนั้นต้องกล้าที่พูด
“ฉันต้องการหย่า เด็ก ๆ ทั้งสามคนฉันให้คุณเป็นคนดูแล” เธอพูดไปด้วยความรวดเร็ว
“คุณ…ไม่สบายรึเปล่า?” เขาถามเธอด้วยความสงสัยเพราะทำไมอยู่ ๆ เธอถึงกล้าที่จะพูดคำนี้ออกมา ทั้งที่ปกติไม่กล้าออกความเห็นอะไรด้วยซ้ำ
“ไม่นะ ฉันปกติดีทุกอย่าง ฉันต้องการหย่า ส่วนเด็ก ๆ ฉันยกให้คุณ” เธอพูดชัด ๆ ให้เขาฟังอีกครั้ง
“ผมเสียใจด้วยนะ การหย่าระหว่างเราไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน”
“ทำไมล่ะ คุณก็รู้ว่าเราไม่ได้รักกันและที่เราแต่งงานกันเพราะสถานการณ์มันบังคับ”
“ผมรู้ว่าการแต่งงานของเราเป็นเพราะพ่อแม่ผมอยากให้ผมแต่งงานก่อนท่านจะเสียซึ่งนั่นเป็นการทำร้ายคุณและคุณกับผมก็ไม่ได้รักกัน…”
เอ๊ะ! ที่เจ้าของร่างเดิมต้องแต่งงานเพราะพ่อแม่ของฝ่ายชายอยากเห็นลูกตัวเองแต่งงานเนี่ยนะ พวกเขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของลูกตัวเองเลยงั้นเหรอว่าลูกต้องการอะไร
“แต่ผมไม่ต้องการให้ลูกของผมไม่มีแม่ พวกเขาต้องมีแม่”
“ไม่ต้องการให้ลูกไม่มีแม่? คุณคงมัวแต่ทำงานจนไม่ได้สนใจครอบครัวเลยสินะ”
เมื่อหลายวันก่อนลินได้พยายามนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ของเจ้าของร่างเดิมและนั่นทำให้เธอปวดศีรษะเป็นอย่างมากแต่นั่นทำให้เธอเห็นว่าเด็ก ๆ ไม่ได้รักแม่ของพวกเขาเลยสักนิด ลูกชายคนแรกเฉยชากับเธอ คนชายคนกลางคล้ายจะเกลียดเธอ ส่วนลูกชายคนสุดท้องก็กลัวเธอมาก นั่นเรียกว่าเด็ก ๆ ต้องการแม่ได้งั้นเหรอ
“เด็ก ๆ ไม่ได้ต้องการฉันเลย พวกเราแทบจะเป็นคนแปลกหน้ากันด้วยซ้ำ”
“ผมไม่สน ผมแค่ไม่ต้องการให้ลูกของผมไม่มีแม่”
“คุณไม่เข้าใจอะไรเลย” เธอมองเขาด้วยความโกรธ
“คุณก็ได้ประโยชน์จากการที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ ทั้งเงินทอง ฐานะ ครอบครัวที่ต้องการแค่ผลประโยชน์แล้วก็เพื่อนสนิทของคุณก็ได้ประโยชน์ด้วย”
กับครอบครัวที่ต้องการแค่ผลประโยชน์เธอไม่แปลกใจหรอกเพราะเคยได้ยินจากลูคัสแล้ว แต่เพื่อนสนิทนี่สิ เธอมีเพื่อนสนิทด้วยเหรอ?
ตั้งแต่มาอยู่ที่โลกนี้คนที่เธอคุยด้วยก็มีแค่ลูคัสไม่เห็นมีเพื่อนสักคน ไม่เห็นมีใครโทรหรือส่งข้อความมาหาเธอเลยสักครั้งเดียว บทสนทนาในโทรศัพท์ก็ไม่ได้แสดงออกเลยว่าสนิทกับใครเป็นพิเศษ เพื่อนสนิทที่ว่านี่เป็นเพื่อนสนิทแบบไหนกันละเนี่ย แต่ถึงจะสงสัยยังไงลินก็ยังไม่ลืมเป้าหมายของการมาที่นี่
“แล้วไงล่ะ คุณก็ได้ประโยชน์เหมือนกันนี่ใช่ว่าคุณจะให้ฉันฝ่ายเดียวสักหน่อย” เธอเถียงเขาถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเขาได้ประโยชน์อะไรก็เถอะ
“ในเมื่อเราทั้งสองต่างได้ประโยชน์แล้วจะหย่ากันทำไม จริงไหม”
นั่นมันเป็นประโยชน์ของเจ้าของร่างคนเก่า เธอที่พึ่งได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย
ลินอยากจะบอกเขาแบบนี้แต่พูดไปเขาคงไม่เชื่อและหาว่าเธอบ้าแน่นอน
“ถ้าคุณไม่ยอมหย่ากับฉันดี ๆ ฉันคงต้องฟ้องหย่าคุณนะคุณศิระ” เธอขู่เขา ลินไม่เข้าใจจริง ๆ เลยว่าเขาจะยื้อเธอไว้ทำไม เพื่อเด็ก ๆ งั้นเหรอ? เชื่อเถอะว่าเด็กทั้งสามก็ไม่อยากเข้าใกล้เธอเหมือนกัน
“คุณคิดว่าคุณจะชนะงั้นเหรอ ผมดูแลคุณเป็นอย่างดีไม่ได้ทำร้ายร่างกาย นอกกายนอกใจ หมิ่นประมาทคุณหรือเสื่อมสมรรถทางเพศเลยสักนิด”
“เอ่อ…”
“จากเหตุผลทั้งหมดที่ผมพูดมาคุณคิดว่าคุณยังจะชนะอยู่งั้นเหรอ คุณลิน” พร้อมกับยิ้มที่มุมปากราวกับว่าทำยังไงเธอก็ไม่มีความสามารถพอที่จะชนะเขาแน่นอน
‘ไม่มีทางชนะเลยสักนิด’ ลินคิดในใจ นี่เธอต้องอยู่กับครอบครัวนี้เป็นเวลาสองปีเลยงั้นเหรอ นี่มันบ้าไปแล้วชัด ๆ
“ดูเหมือนว่าช่วงนี้คุณจะว่างมากนะ อีกอย่างช่วงนี้ตินอยากให้ไปรับอยู่โรงเรียนพอดี ถ้างั้นคุณก็ไปรับเด็ก ๆ ที่โรงเรียนเลยละกัน ขอบคุณมากนะครับ” เขาจัดการให้เธอเสร็จสรรพ
พูดเสร็จศิระก็เลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์พร้อมกับโทรหาคนขับรถและบอกคนขับรถว่าเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนของเด็ก ๆ ลินจะไปรับเด็กทั้งสามให้เขาเตรียมที่นั่งให้พร้อมด้วย เมื่อพูดกับคนขับรถเสร็จเขาก็หันมาพูดกับเธอต่อ
“ถ้าไม่มีธุระอะไรอีกก็…” หลังจากคำว่า “ก็” เขาผายมือไปที่ประตูเป็นความหมายนัย ๆ ว่าออกไปได้แล้วตอนนี้ลินพูดไม่ออกด้วยซ้ำเธอไม่รู้ว่าจะเถียงเขาอย่างไรดี ได้แต่อึ้งพร้อมเดินออกจากห้องไป
ศึกครั้งนี้เธอแพ้ราบคาบ