การเปลี่ยนแปลง (1/2)
บทที่ 7 การเปลี่ยนแปลง
ก่อนจะถึงห้องนอนของเธอ ลินเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของใครสักคนหนึ่ง เธอเคาะประตูเพื่อจะเข้าไปข้างใน ไม่นานนักในห้องนั้นก็มีเสียงตอบกลับมา
“เข้ามาได้” เสียงผู้ชายคนนี้คือเสียงสามีของเธอนั่นเอง
เธอเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ว่ามาสิ” สายตายังคงมองที่เอกสาร
“คุณบอกว่าอยากให้ฉันทำหน้าที่แม่ให้เต็มที่”
“ใช่ ทำไมงั้นเหรอ”
ลินใจกล้าหน่อย พูดออกไปเลย! “ถ้าอย่างนั้นจากนี้ไปฉันจะดูแลเด็ก ๆ เอง”
ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกมาศิระก็เงยหน้ามองลินอย่างรวดเร็ว “คุณพูดว่าไงนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสับสน “คุณไม่สบายจริง ๆ ใช่ไหม”
เห็นเขามองเธอด้วยสายตามึนงงลินจึงเดินเข้าไปใกล้เขา “ฉันบอกว่าจากนี้ไปฉันจะดูแลเด็ก ๆ เอง อีกอย่างนะฉันสบายดีไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง”
“หึ ผมไม่ได้ห่วงคุณซะหน่อย” เขาพูดอย่างจริงจัง
“ไม่ห่วงก็ไม่ห่วงสิ” เฮ้อ ผู้ชายบ้านนี้ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย
“แล้วคุณคิดอะไร ทำไมอยู่ ๆ ถึงอยากดูแลลูกขึ้นมาล่ะ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ เธอและได้ยื่นมือมาจับใบหน้าของเธอไว้ไม่ให้หลบหนีพร้อมกับสายตาของเขาจ้องมองคล้ายกำลังตรวจสอบความผิดปกติของลิน
ซวยแล้วเธอลืมคิดไปว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากผู้หญิงที่ไม่สนใจลูกมาเป็นผู้หญิงที่รักลูก “ฉัน…เอ่อ” เธอสัญญากับเด็ก ๆ ว่าจะไม่บอกพ่อของพวกเขาว่าพวกเขาแอบนอนดึกด้วยสิ
“ฉันคิดว่าฉันควรดูแลพวกเขาในเวลาที่พวกเขายังต้องการฉันอยู่ จากนี้อีกไม่กี่ปีเด็ก ๆ ก็คงออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง ถึงตอนนั้นพวกเขาคงไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันแค่ไม่อยากเสียใจภายหลัง” เธออยู่ที่นี่เพียงแค่สองปีเท่านั้นจึงอยากใช้เวลาที่มีอยู่สร้างความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับแม่ให้พวกเขา
“อีกอย่างนะฉันเป็นแม่ของเด็ก ๆ ด้วยแค่อยากดูแลลูกขึ้นมามันผิดตรงไหน”
ลินหาเหตุผลมาสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของเธอไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สามีไม่เกิดความสงสัยในตัวเธอแต่สามียังคงเงียบ เธอจึงไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่
“คุณศิระ ฉันน่ะอยากดูแลลูกอย่างที่คนเป็นแม่ควรทำ แล้วก็อยาก…”
“…”
“อยาก…อยากให้พวกเราเป็นครอบครัวจริง ๆ ด้วย” ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงเด็ก ๆ งั้นก็คงต้องเริ่มที่พ่อแม่ก่อน
“ฉันไม่ได้หมายถึงให้คุณมารักฉันนะ! แค่อยากให้พวกเราทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดี ละ แล้วก็สามีภรรยาให้ดีด้วย” ได้พูดออกไปซะที!
“ถ้าจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นก็คงต้องเริ่มที่พ่อกับแม่ก่อน บ้านจะแข็งแรงได้โครงสร้างของบ้านก็ต้องแข็งแรงก่อนจริงไหม พวกเราไม่จำเป็นต้องรักกันปานจะกลืนกินเพียงแค่ไม่ต้องเย็นชาใส่กันแบบนี้ มาร่วมมือกันเถอะคุณศิระ ฉันแค่อยากทำให้บ้านมันเป็นบ้าน” เธอจ้องมองเข้าไปในดวงสีฟ้าคู่นั้น ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองรึเปล่าแต่ลินรู้สึกว่าสามีของเธออึ้งกลับสิ่งที่เธอได้พูดออกมา
เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปถ้าทำไปแล้วจะเป็นไปตามเป้าหมายไหม เพราะตัวเธอเองก็ไม่เคยสัมผัสกับคำว่าครอบครัวมาก่อน แต่ก็อยากที่จะสองดูสักครั้งเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ในครอบครัวนี้ให้อบอุ่นขึ้น
“คุณคิดว่าไง” เธอรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ศิระปล่อยมือจากใบหน้าของภรรยา “ฮ่า ๆ ๆ ๆ” เขาหัวเราะอย่างสุดเสียงไม่กลั้นเลยสักนิดจนตัวสั่นไปหมด
นี่เขาไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ
“คุณหัวเราะอะไรคะ มีอะไรให้ขำ” เธอพูดอะไรผิดไปรึเปล่า ไม่เข้าใจเขาจริง ๆ
“คุณเปลี่ยนไปมากเลยนะลิน” เขาพูดไปขำไป
“คนเราต้องเปลี่ยนอยู่แล้วไม่มีใครเป็นแบบเดิมตลอดหรอกน่า” เธอบอกเขา “แต่เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าลินเหรอ ปกติไม่เรียกแบบนี้นี่”
เธอกอดอกและทำท่าทางเหมือนบ่นกับตัวเองแต่พูดให้เขาได้ยินด้วย “นี่คุณตกหลุมรักฉันแล้วเหรอเนี่ยสามี ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เฮ้อ” เธอแกล้งทำหน้าตาเอือมระอาพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย
“ขอโทษสำหรับความสวยของฉันที่ทำให้คุณรับไม่ไหวด้วยนะ” เธอมองหน้าเขาด้วยความสงสาร
เขามองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมกับแววตาขบขัน “หยุดเล่นได้แล้ว คุณก็รู้ว่าผมหัวเราะอะไร”
“ความสวยของฉันไง” เธอมั่นใจสุด ๆ
“ใครเจอคนสวยแล้วจะหัวเราะกันละ”
“โอ้ จริงด้วย” เธอพยักหน้าให้เขา “งั้นที่คุณหัวเราะก็…”
“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ผมแค่แปลกใจที่คุณเปลี่ยนไปขนาดนี้” เขาอธิบายให้เธอฟัง “คุณก็รู้ว่าปกติพวกเราคงไม่มานั่งหัวเราะด้วยกันแบบนี้หรอก”
“แล้วดีไหมล่ะที่ฉันเปลี่ยนไป” ถ้าให้บอกว่าเธอไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมแค่ทะลุเข้ามาในนิยาย เขาจะเชื่อเหรอ
“อืม ดี ดีมากด้วย” แต่ประโยคสุดท้ายเขาพูดเบาเกินไปลินจึงไม่ได้ยิน
“ถ้างั้นการที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงครอบครัวคุณต้องร่วมมือกับฉันด้วยนะ ฉันจะสนใจลูกมากยิ่งขึ้นส่วนคุณก็ทำงานน้อยลงและมีเวลาให้พวกเรามากยิ่งขึ้นตกลงไหม”
“ได้ ต่อไปนี้ผมจะทำงานน้อยลงและสนใจเด็ก ๆ มากขึ้น” เขาพูดและมองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แฝงด้วยรอยยิ้ม “อ้อ แล้วก็จะดูแลภรรยาให้ดีกว่าเดิมด้วย”
ขอโทษด้วยนะเธอไม่หลงกลเขาหรอก “ฉันก็จะดูแลสามีให้ดีกว่าเดิมเหมือนกัน จะบริการทุกระดับประทับใจเลย” พูดเสร็จเธอก็ขยิบดวงตาข้างขวาให้เขาเป็นการหยอกล้อ
“ผมตั้งตารอเลย”
“ค่ะ รับรองถึงใจแน่นอน” เธอตอบกลับเขาด้วยความมั่นใจ
“ฉันมีเรื่องจะปรึกษาอีกอย่างค่ะ เด็กทั้งสามจะนอนด้วยกันทุก ๆ วันศุกร์ ดังนั้นทุก ๆ วันเสาร์เราให้พวกเขามานอนกับเราดีไหมคะ จะได้พัฒนาความสัมพันธ์ของเรากับเด็ก ๆ ด้วย”
“อืม ที่คุณพูดมาก็ดีนะ พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์พอดี งั้นเราเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เลยไหม”
“ค่ะ ตกลงตามนั้น” ลินยิ้มตอบเขาไปเบา ๆ
ถึงตอนนี้เธอจะอยากคุยต่อแต่ก็คิดได้ว่าเวลาดึกเกินไปแล้วเธอควรไปนอนดีกว่า “งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปนอนก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน” เขายังไม่อยากให้เธอไป
“คะ”
“ผมจะให้ตินย้ายไปเรียนที่เซนต์วินเซนต์ ที่นี่อยู่ในเครือของเซนต์ลูเซียร์แต่เป็นโรงเรียนอนุบาลที่เปิดใหม่สำหรับเด็กพัฒนาการช้าโดยเฉพาะ”
เขาถามความคิดเห็นเธอ “ผมจะให้เขาไปเรียนที่นั่นคุณคิดว่าไง”
“น่าสนใจดีนะคะ แล้วคุณถามตินรึยังคะ” อยู่ในเครือเดียวกันด้วยคงไม่ไกลจากโรงเรียนของชินกับจินมาก
“เขาโอเคเลยละ”
“งั้นก็ไปเรียนที่นั่นเถอะค่ะ อยู่ใกล้กับพี่ ๆ ด้วย เขาคงดีใจ”
“แล้วช่วงเวลาเลิกเรียนต่อจากนี้ฉันจะเป็นคนไปรับพวกเขาเองนะคะ”
ศิระดูอึ้งเล็กน้อยกับสิ่งที่เธอพูดมา “ครับ”
ศิระคิดว่าแต่ก่อนลินแทบจะหลีกเลี่ยงไม่พูดคุยกับลูก ๆ ของเธอ เธอไม่คิดจะไปส่งหรือไปรับพวกเขาที่โรงเรียนด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้เธอกลับเสนอตัวเองที่จะไปรับเด็ก ๆ กลับจากโรงเรียนเอง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เธอคงจะตั้งใจจริง ๆ สินะ
อยู่ ๆ บทสนทนาก็จบลงและความเงียบระหว่างพวกเขาก็ได้เกิดขึ้น บรรยากาศน่าอึดอัดกลับมาอีกแล้ว
“เอ่อ งั้นฉันไปก่อนนะคะ” เธออยากรีบออกจากสถานการณ์นี้โดยเร็ว
ลินรีบลุกออกไปจากเก้าอี้ทันทีแต่ก่อนที่จะถึงประตูก็มีเสียงคนข้างหลังดังขึ้นซะก่อน
“ลิน”
“คะ” เธอหันกลับไปมองเขา
“คืนพรุ่งนี้เด็ก ๆ จะมานอนด้วย งั้นคนที่เป็นพ่อแม่แบบพวกเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจริงไหม”
“คุณ…หมายความว่ายังไง” ขอร้องละ อย่าเป็นแบบที่เธอคิดเลยนะ
“เราควรจะปรับตัวให้เข้ากันให้ได้ก่อนที่เด็ก ๆ จะมานอน เพราะงั้นคืนนี้ผมจะไปนอนกับคุณไง” ศิระเดินไปจับมือภรรยาของเขาเพื่อที่จะเดินไปห้องนอน
ลินอึ้ง เธอพยายามสะบัดมือออกแต่ก็ไม่เป็นผล “เดี๋ยวสิ! นั่นห้องนอนฉันนะ! ฉันไม่อนุญาตให้คุณไปนอนด้วยเข้าใจไหม”
“หืม? ใครบอกว่าห้องนอนคุณ ห้องนั้นคือห้องของพวกเราต่างหากละครับ” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เธอพร้อมกับยิ้มอย่างจริงใจแต่ลินรู้ดีว่ารอยยิ้มนี้มันจอมปลอมสิ้นดี!
ที่ศิระพูดมาก็ไม่ผิดแม้แต่น้อย ที่จริงแล้วห้องนั้นคือห้องของพวกเขาเองแต่เพราะหลังจากคลอดลูก เจ้าของร่างเดิมก็พยายามออกห่างสามีของตัวเองมาโดยตลอด จนทำให้ในที่สุดศิระก็ได้ย้ายมานอนที่ห้องอื่นแต่จากนี้ไปเขาคงได้กลับไปนอนที่ห้องเดิมของตัวเองแล้ว
“ไปกันเถอะ วันนี้ผมง่วงแล้ว” เขาพูดพร้อมกับทำท่าง่วงนอน ก่อนจะจับมือของเธอเดินไปที่ห้องนอน
“อย่ามาเสแสร้ง ฉันรู้ว่าคุณไม่ง่วงหรอก!” เธอพยายามจะดิ้นให้หลุดแต่จะสู้เขาได้ที่ไหนเล่า
“ที่ข้าง ๆ โรงเรียนของตินมีโรงเรียนสอนทำขนมอยู่ ถ้าคุณสนใจก็ไปเรียนได้นะ ผมสมัครไว้ให้แล้ว” ศิระไม่สนใจสิ่งที่ลินพูดเลยสักนิด
อ้อ อีกอย่าง เขาไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเธอจะอยากทำขนมไหมแค่บังเอิญขับผ่านก็เท่านั้นเอง
“ไม่ ฉันไม่เรียนอะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยฉันนะ”
ลินพยายามสุดความสามารถแต่ก็ไม่สำเร็จ ในความคิดของศิระ ลินในตอนนี้เหมือนแมวน้อยที่กำลังเล่นสนุกกับของเล่นก็เท่านั้น
เขามองเธอด้วยความเวทนา “ถ้าคุณยังดิ้นแบบนี้อยู่ผมจะอุ้มคุณนะ อีกอย่างผมก็ไม่ทำอะไรคุณหรอก”
ลินตกใจจนไม่กล้าขยับ “คุณพูดจริงนะ” เธอมองเขาอย่างระแวง
“อืม”
“งั้นก็ไปนอนกันเถอะ”
ที่ลินยอมตกลงอย่างง่ายดายเพราะเธอรู้ดีว่าสักวันหนึ่งเธอและเขาจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่านี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะร่างกายที่เธอเข้ามาอยู่คือภรรยาของเขาและเธอก็ไม่ใช่เด็กประสีประสาที่จะไม่รู้อะไรเลย แต่วันนี้มันเร็วเกินไปเธอไม่พร้อมจริง ๆ
“เด็กดี” เขายิ้มและยื่นมือไปบีบจมูกเธอเบา ๆ ส่วนลินได้แต่มองค้อนเขา จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปที่ห้องนอนของพวกเขา
ในที่สุดวันที่แสนจะวุ่นวายก็ผ่านไปได้อีกวัน