บท
ตั้งค่า

กลับถึงบ้านสักที (1/2)

บทที่ 5 กลับถึงบ้านสักที

ก่อนจะเดินออกจากห้องลินก็เริ่มสังเกตได้ว่าชินไม่อยู่ที่นี่เธอจึงรีบเดินไปหาคุณครู “คุณครูคะ ตอนนี้ชินอยู่ที่ไหนเหรอคะ” ลินถามด้วยความร้อนใจ ให้ตายเถอะ เธอกล้าลืมลูกตัวเองได้อย่างไร

ขอร้องนะ อย่าได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเขาเลย

“อ๋อ ชินเขาไปอ่านหนังสืออยู่ห้องข้าง ๆ นี่เองค่ะ ห้องนั้นมีหนังสือสำหรับเด็กอยู่เยอะชินเลยชอบไปที่ห้องนั้น เดี๋ยวครูไปเรียกเขาให้นะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวลินไปตามเขาเอง ขอบคุณมากนะคะ” พูดจบเธอก็เดินไปห้องข้าง ๆ ทันทีด้วยความโล่งอก

ลินเปิดประตูเข้าไปในห้องก็เห็นหนังสือมากมายแตกต่างจากห้องก่อนที่ส่วนมากจะเป็นของเล่นเด็ก ที่นี่มีคุณครูและเด็กคนอื่นด้วยเช่นกัน เด็กส่วนมากก็จะจับกลุ่มกันเล่นหรือพูดคุยกันแต่เธอก็ไม่เห็นชินในกลุ่มไหนเลย

เธอจึงมองไปรอบ ๆ ก็เจอชินนั่งอ่านหนังสือคนเดียวที่มุมหนึ่งของห้องจึงเดินเข้าไปหา

“ชินอ่านหนังสืออะไรอยู่เหรอ”

เงยหน้ามาเห็นลินเขาก็ถามด้วยความงุนงง “คุณแม่เหรอครับ”

“ใช่แม่เอง ชินอ่านอะไรอยู่เหรอครับ”

“ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับไดโนเสาร์ครับ” ถึงส่วนมากในนั้นจะเป็นรูปภาพแต่ลินรู้สึกน่าทึ่งจริง ๆ ที่เขาชอบหนังสือขนาดนั้น สมแล้วที่ในอนาคตเขาได้เป็นถึงรองประธานบริษัท

“ฟังดูน่าสนุกจังเลย”

“ก็สนุกดีครับ” พูดเสร็จเขาก็เงียบไป เฮ้อ ถามคำตอบคำสินะ

“แล้วทำไมชินอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่ไปเล่นกับจินเหรอ” เธอพยายามชวนคุยสุด ๆ

“ผมอยากอ่านหนังสือครับ”

“อ๋อ…” เอาไงต่อดีล่ะเนี่ย เธอเป็นพวกต่อบทสนทนาไม่เก่งด้วยสิ

“แล้วเพื่อนชินล่ะ พวกเขากลับบ้านหมดเหรอ”

“ผมไม่มีเพื่อนหรอก พวกเขาเด็กเกินไป” พร้อมกับส่ายหัวและถอนหายใจไปด้วย เขาทำท่าทางเหมือนคนแก่เลยทั้งที่จริงแล้วพึ่งจะสี่ขวบเท่านั้น

“วันนี้แม่มารับพวกผมใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมไปเก็บของก่อนนะครับ” พูดเสร็จเขาก็เดินออกไปทิ้งให้ลินงุนงงอยู่คนเดียว เธอสับสนไปหมดถึงในนิยายเขาจะเป็นคุณชายเย็นชาแต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะเย็นชาจนไม่มีเพื่อนคบนะ นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ

ลินเดินออกมาจากห้องก็เจอเด็กทั้งสามคนยืนรออยู่ก่อนแล้ว ดูท่าทางพวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรบางอย่างอยู่

“บน บนรถมีของหวานด้วย รอดูนะ” ตินบอกใบ้พี่ ๆ ด้วยความตื่นเต้น

“มีอะไรเหรอ!” จินถามด้วยความสงสัย

“ไม่บอก จินต้องรอดู” ตินยิ้มกรุ้มกริ่ม ยิ่งจินสงสัยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ตินมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

“ได้!” จินตอบน้องชายด้วยความคาดหวังแต่เห็นแม่เดินช้าเขาจึงเร่งเธอ

“แม่เร็ว ๆ หน่อยสิ พวกผมรีบนะ!”

“ถ้าลูกไม่ไปมีเรื่องพวกเราคงไปกลับตั้งนานแล้ว” เธอตอกกลับเขา

“หึ! ก็ขอโทษไปแล้วไม่ใช่รึไง” เขาบ่นอุบอิบก่อนจะจับมือพี่น้องของเขาเดินไปโดยไม่สนใจเธอ

เมื่อมาถึงรถทั้งสามเดินเข้าไปนั่งที่ประจำของตัวเองด้วยความเคยชินและในที่สุดเธอก็ได้เดินทางกลับบ้านสักที

จู่ ๆ เสียงเด็กคนหนึ่งก็ดังขึ้น “แม่ครับ ไอศกรีม” เสียงของตินนั่นเองเขาแทบจะรอกินไอศกรีมพร้อมกับพี่ ๆ เขาไม่ไหวแล้ว

จริง ๆ แล้วลินบอกให้ตินกินไอศกรีมก่อนแล้วแต่เพราะเขาอยากรอกินพร้อมกับพี่ ๆ จึงอดใจไว้ก่อนถึงแม้ไอศกรีมจะละลายไปนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร “นี่ค่ะ ของชินรสคุกกี้แอนด์ครีม ของจินรสเชอร์เบต ส่วนของตินรสส้มสตรอว์เบอร์รี” เธอยื่นให้พวกเขาทีละคน

“ขอบคุณครับ” เสียงชิน

“ไอศกรีมงั้นเหรอเนี่ย” จินถามด้วยความตื่นเต้น

“ว้าว น่ากินมาก” ถึงแม้ว่าตินจะเคยเห็นมาแล้วแต่เมื่อเห็นไอศกรีมนี้อีกครั้งเขาก็ตื่นเต้นอยู่ดี

“ตินซื้อมาจากร้านที่เราขับผ่านบ่อย ๆ ใช่ไหม”

“ใช่! ชินเก่งมากเลย” พี่ชายของเขาจำได้ด้วย เก่งที่สุด!

“อยู่ตรงไหน ไม่เห็นจำได้เลย” จินถามเพราะเขาไม่รู้สึกคุ้นเลยสักนิด สองคนนี้พูดเรื่องอะไรกันเนี่ย

“ก็เวลามาโรงเรียน ร้านอยู่ทางซ้ายไง”

“ชินพูดอะไรเนี่ย ไม่เห็นคุ้นเลย”

“ร้านที่เป็นสีชมพูน่ารัก ๆ จินจำได้ไหม”

“อ๋อ…” จินมองไปที่ชินแล้วทำท่าพยักหน้าไปมาคล้ายกับว่าเขาจำร้านนั้นได้ แต่อันที่จริงเขาตอบแบบส่ง ๆ ไปเท่านั้นเพราะจำไม่ได้เลยสักนิด

พูดจบจินและตินได้รีบเปิดฝาไอศกรีมของตัวเองทั้งสองชิมอย่างรวดเร็ว ส่วนชินค่อย ๆ เปิดฝาอย่างเบามือแตกต่างจากสองคนนั้นเป็นอย่างมาก

“อร่อยมากเลย” เสียงตินพูดอย่างมีความสุข

“อืม อร่อยดีนะ” ชินพูดไปแบบนั้นแต่คิ้วของเขาขมวดนิดหน่อย

เมื่อตินได้ยินแบบนั้นก็ดีใจที่ตัวเองเลือกรสชาติไอศกรีมได้ถูกต้องโดยไม่ได้สังเกตหน้าพี่ชายเลยด้วยซ้ำแต่ยิ้มได้ไม่นานก็ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำพูดจากจิน

“แม่ซื้อไอศกรีมอะไรเนี่ย! เปรี้ยวมากผมไม่ชอบเลย” จินบ่นเสียงดัง

ลินไม่ได้พูดอะไรเธอได้แต่กินไอศกรีมของตัวเองส่วนตินนะเหรอ “จิน จินไม่ชอบเหรอ” เขาถามด้วยความเสียใจเพราะรู้ว่าตัวเองเลือกรสชาติมาให้พี่ชายผิด

“ตินร้องไห้ทำไมเนี่ย” จินถามอย่างมึนงง

“ติน ตินเลือกเอง” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เอ่อ…” โอ้ จินไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้ารู้ว่าน้องเขาเป็นคนเลือกเขาคงไม่พูดแบบนี้

“ไม่ร้องนะ ไอศกรีมอร่อยมากเลยใช่ไหมจิน” ชินช่วยพูดปลอบใจติน

“ห้ะ ใช่! อร่อยมาก! ที่พูดเมื่อกี้จินแกล้งเฉย ๆ” เฮ้อ เขาโกหกได้ไม่เนียนเลย

“อร่อยจริง ๆ นะ” เสียงชิน

“ใช่เลย อร่อยที่ซู้ดดดด” จินพูดประโยคนี้ด้วยท่าทางเกินจริงไปมาก เขาทำปากจู๋และตาหยีจนทำให้ตินหัวเราะออกมา เมื่อเห็นว่าน้องชายอารมณ์ดีแล้วจากนั้นก็หันไปกระซิบเบา ๆ กับชินว่า “เราเปลี่ยนไอศกรีมกันไหม” เขาชอบรสชาติหวาน ๆ มากกว่าไม่ชอบรสเปรี้ยวเลยสักนิด

"ได้สิ" ชินตอบรับข้อเสนอทันทีเพราะเขาก็ไม่ชอบอะไรหวาน ๆ

ตินได้ยินว่าพี่ ๆ ยังชอบไอศกรีมที่ตัวเองเลือกมาก็ดีใจ หยุดร้องไห้ไปโดยปริยายโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าพี่ ๆ ทั้งสองได้ทำข้อตกลงเปลี่ยนไอศกรีมกันแล้ว

ส่วนลินที่สังเกตเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ก็ยิ้มออกมาด้วยความขบขันเพราะรู้ว่าชินและจินอยากรักษาน้ำใจของตินไว้ไม่ให้เขาเสียใจจึงเลือกที่จะไม่ปฏิเสธ

“พวกเขาก็ดูแลกันดีนี่” เธอพูดด้วยความเอ็นดูในบทสนทนาของเด็ก ๆ ภาพตรงหน้าทำให้เธอนึกถึงเนื้อเรื่องในนิยายถึงแม้ว่าในอนาคตแฝดทั้งสามคนจะไม่ผูกพันกันเหมือนช่วงวัยเด็กแต่สิ่งที่เห็นในตอนนี้กลับมีแต่ความรักใคร่ ปรองดองกัน และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เธอได้รู้คือ “ชินไม่ชอบรสหวานส่วนจินคงชอบรสหวานสินะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel