บทที่ 2 อย่างหนูนี่พอจะเป็นเด็กเอ็นฯได้มั้ย
“ แล้วถ้าถูกใจนายแก พี่จะได้อะไรด้วยล่ะ ”
วดีกล่าวยิ้ม ๆ อย่างมีชั้นเชิง
“ แหม เดี๋ยวมีค่าหมากค่าพลูให้น่าพี่ฮ่า ๆ ๆ ” เข้มพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ
“ ไอ้บ้าฉันยังไม่เคี้ยวหมากโว้ยเขาเรียกค่าน้ำชากาแฟต่างหาก ปากเสียนะนี่ ” วดีด่าพร้อมกับค้อนให้น้องชายอย่างหมั่นไส้
“ อ้าวรึ โอเค ๆ ค่าน้ำชาก็ค่าน้ำชา ”
ลูกจันทร์ฟังสองพี่น้องคุยกันอย่างตั้งใจ เธอไม่ได้สนใจค่าน้ำร้อนน้ำชาอะไรนั่นหรอก แต่เธอสนใจจำนวนเงินที่เด็กเอ็นเตอร์เทนจะได้มากกว่า สองแสนกับการเสียสาวสิบห้าวัน ก็ยังดีกว่ายอมไปเป็นเมียน้อยเสี่ยอุดมทั้งชาติ เธอนั่งเงียบอย่างครุ่นคิด
“ น้าเข้มคะ อย่างหนูนี่พอจะเป็นเด็กเอ็นได้รึเปล่า ” เธอถามน้าชายเสียงเบา เมื่อคล้อยหลังแม่เลี้ยงที่ขอตัวไปทำกับข้าวในครัว
“ หือ ว่าไงนะ? ” เข้มเลิกคิ้วขึ้นถามหลานสาวด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่ตนได้ยิน
“ หนูถามว่ารูปร่างหน้าตาอย่างหนูเนี่ยพอจะถูกใจนายใหญ่ของน้าเข้มรึเปล่าคะ ? ” ลูกจันทร์ถามย้ำอีกครั้งทำเอาคนฟังมองหน้าเธอนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ ลูกจันทร์ หนูเข้าใจคำว่าเด็กเอ็นไหมหือ ”
“ เข้าใจค่ะน้า แต่ว่าหนูมีความจำเป็นจริง ๆ ” ลูกจันทร์ตอบน้ำเสียงจริงจังจนน้าชายขมวดคิ้วเข้มจ้องหน้าเธอด้วยสายตาคมดุ
“ ไหนบอกมาซิ ว่ามันจำเป็นขนาดไหนกัน ”
“ บ้านจะโดนยึดภายในสิ้นเดือนนี้ถ้าไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ยให้เสี่ยดมสองแสน น้าว่ามันจำเป็นมั้ยล่ะคะ ” คำตอบของเธอทำเอาน้าเข้มอึ้งไปเป็นครู่ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
“ พี่วดีเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่รึ เงินตั้งสองแสนน้าก็มีไม่ถึงซะด้วยสิ ” เข้มถามสีหน้ามีความหนักใจ ใครจะอยากให้ลูกหลานตัวเองไปทำงานอย่างว่า
“ น้าวดีบอกว่าทบต้นทบดอกก็ร่วมล้านค่ะ ถ้าหนูได้งานที่น้าบอก ก็จะหาเงินสองแสนมาใช้ดอกเบี้ยได้ทันพอดี หรือไม่งั้นก็มีอีกทางคือหนูต้องไปเป็นเมียน้อยมัน หนูคิดว่ายอมนอนกับผู้ชายสิบห้าวันยังดีกว่ายอมไปเป็นเมียน้อยมันทั้งชาติ หรือน้าว่าไม่จริง ” เธอตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำและตัดสินใจอย่างแน่วแน่
“ แต่ว่า…นายเขาชอบพวกรู้งาน…” เข้มอึกอัก กระอักกระอ่วนใจชอบกล
“ หนูสามารถเรียนรู้ได้นี่ เอ่อ…เรื่องอย่างว่าน่ะ นะคะน้าเข้มช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ ไม่งั้นบ้านต้องโดนยึดแน่เลย ” เธออ้อนวอนด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
“ ลูกจันทร์ หนูคิดดีแล้วรึ ” เข้มยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้วยความหนักใจ นี่มันคงเป็นเวรกรรมตามทันเขาแน่ ๆ ที่ส่งผู้หญิงไปเป็นนางบำเรอจนมาเจอเข้ากับหลานตัวเอง
“ คิดดีแล้วค่ะ แต่ว่าน้าห้ามบอกน้าวดีกับตาเล็กนะว่าหนูไปทำงานอะไร บอกแค่ว่าน้าจะพาไปฝากงานก็พอ ได้มั้ยคะ ” เธอขยับเข้าไปเขย่าแขนของน้าชายเพื่ออ้อนวอน เข้มถอนหายใจยาว แล้วกวาดตามองไปที่ร่างบางของหลานสาวอย่าง พิจารณา ลูกจันทร์ในวัยเพียงยี่สิบสอง ร่างเล็กบอบบางเข้าทางนายใหญ่ ผิวก็ขาวผ่องนวลเนียน ตาโตปากอิ่มจมูกโด่งเรียวถือว่าสวยน่ารักทีเดียว แต่นายเขาชอบผู้หญิงอกใหญ่ แถมเน้นมาด้วยว่าต้องใหญ่เท่านั้น ไข่ดาวไม่เอา แต่ลูกจันทร์สวมเสื้อยืดตัวโคร่งเขาจึงดูไม่ออกว่าหลานตัวเองมีขนาดหน้าอกหน้าใจสักเท่าไหร่กัน ไอ้ครั้นจะขอดูก็ใช่ที่ ลำบากใจจริงโว้ย
“ แต่ว่า…นายเขาชอบผู้หญิง เอ่อคือ…อึ๋ม ๆ น่ะ ” เข้มตัดสินใจพูดออกไปอย่างกระอักกระอ่วน ลูกจันทร์หน้าแดงขึ้นด้วยความกระดากอาย ก่อนจะมองซ้ายมองขวาว่าปลอดจากสายตาแม่เลี้ยงจึงตัดสินใจยืนขึ้น รั้งเสื้อยึดให้รัดแนบกับลำตัว โชว์สัดส่วนทรวงอกที่มีขนาดใหญ่เกินตัวและช่วงเอวที่คอดกิ่วของตนให้กับน้าชายดู
“ ขนาดนี้พอได้มั้ยคะน้า ” เธอถามพร้อมกับรีบปล่อยเสื้อยึดลงคลุมร่างตามเดิม แก้มยังคงแดงระเรื่อไม่หายแต่ก็ต้องอดกลั้นความอายเอาไว้เวลานี้ความอยู่รอดสำคัญกว่าสิ่งใด
“ อ่า เอ่อ ก็พอได้ ” เข้มมองหน้าอกหลานสาวอย่างตกตะลึง กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น แม่เจ้าโว้ยซ่อนรูปซะจริงแม่คุณ
“ ตกลงน้าจะช่วยหนูใช่มั้ยจ๊ะ แล้วนายน้าเขาจะมาวันไหนล่ะ ” เธอเข้าไปจับท่อนแขนน้าชายเขย่าด้วยความดีใจ
“ เฮ้อ เอาก็เอาวะ อีกสามวันนายจะมาน้าต้องไปจองรีสอร์ตไว้ให้ นายเขาชอบที่เงียบ ๆ เป็นธรรมชาติ แล้วผู้หญิงก็ต้องเอาใจเก่งรู้งานด้วย ลูกจันทร์จะทำได้รึหรือว่าเคยมีแฟนมาแล้ว ” เข้มถามหลานสาวอย่างไม่แน่ใจ วัยยี่สิบสองของเธออาจจะเคยมีแฟนมีประสบการณ์มาแล้วก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็เบาใจ
“ อืม…ใช่ค่ะหนูเคยมีแฟนมาแล้วน้าไม่ต้องห่วง หนูจะเอาใจนายของน้าไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยล่ะ ” เธอจำเป็นต้องโกหกน้าเพื่อให้ได้งานนี้มาให้ได้ มันจะยากสักแค่ไหนกันเดี๋ยวไปศึกษาดูในคลิปโป้เอาก็ได้นี่นา
“ เออ ถ้าอย่างนั้นน้าก็เบาใจหน่อย ห่วงเรานั่นแหละถ้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่เรื่องอย่างว่านายเขาจะตะเพิดเอาได้ เฮ้อ เวรกรรมจริง ๆ ไอ้เข้มเอ้ย ” เข้มบอกพร้อมกับปรายตาไปมองพี่สาวที่กำลังเดินออกมาจากในครัวพอดี
“ อะไรกันรึ คุยอะไรกันสองน้าหลาน กับข้าวเสร็จแล้วไปกินข้าวกัน ยัยจันทร์ก็ไม่มาช่วยน้าในครัวเลยนะ มัวนั่งฝอยอะไรอยู่ ” วดีดุลูกเลี้ยงอย่างไม่จริงจังนัก ถึงจะเป็นลูกเลี้ยงแต่เธอก็ดูแลมาตั้งแต่ลูกจันทร์ยังเด็ก รักเหมือนลูกถึงความรักที่มีให้จะไม่เท่าลูกแท้ ๆ ก็เถอะ
“ น้าเข้มบอกว่าจะพาหนูไปทำงานจ๊ะน้าวดี แกจะฝากงานให้ ” ลูกจันทร์บอกกับแม่เลี้ยงขณะนั่งกินข้าวกันอยู่บนโต๊ะในห้องครัว
“ อ้าว ก็ดีสิจะไปทำอะไรล่ะ แล้วจะไปวันไหน ” วดีหันไปถามน้องชายด้วยความสนใจ สรัลก็ชะงักช้อนที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากรอฟังอย่างตั้งใจ
“ ไปเป็นเสมียนบัญชีน่ะ วันมะรืนก็ต้องเดินทางแล้ว ” เข้มบอกพี่สาวแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวโดยไม่มองสบตา
“ น้าเข้มบอกจะช่วยคุยกับนายเรื่องเบิกเงินเดือนล่วงหน้าด้วย น้าวดีไม่ต้องห่วงนะหนูจะหาเงินมาใช้ดอกเสี่ยให้ได้ ” เธอปั้นน้ำเป็นตัวบอกกับแม่เลี้ยงไปให้นางสบายใจ วดีมองหน้าลูกเลี้ยงสาวกับน้องชายแล้วถอนหายใจ
“ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ น้าก็เบาใจหน่อย ไปทำงานก็ขยัน ๆ เรียนรู้งานดี ๆ ล่ะอย่าให้เสียชื่อคนฝากรู้มั้ยลูกจันทร์ ”
“ ค่ะน้าวดี ” ขยันเรียนรู้งานอย่างนั้นรึ ลูกจันทร์รับคำแล้วก้มหน้าลงหลบตาแม่เลี้ยง แต่สองแก้มนวลที่แดงระเรื่อขึ้นนั้นไม่อาจจะปิดบังสายตาช่างสังเกตของสรัลผู้เป็นน้องชายได้เลย
