บทที่ 7
ตลอดช่วงบ่าย หลงเฟยไม่ได้มีสมาธิในการทำงานมากนัก เขารีบทำงานให้มันเสร็จๆ ไป ในตอนนี้เขาอยากรีบกลับบ้านมาก เพราะเขาอยากจะหาคำตอบอะไรหลายๆ อย่างของเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนมากกว่านี้ เมื่อถึงเวลาเลิกงาน หลงเฟยจึงรีบมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างรวดเร็ว
หลงเฟยเช่าบ้านพักหลังเล็กๆ อยู่ไม่ห่างจากที่ทำงานของเขามากนัก ดังนั้นใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็กลับมาถึงบ้าน และทันทีที่หลงเฟยกลับมาถึง เขาก็รีบตรงเข้าไปในห้องนอนทันที โดยที่เขาไม่ได้สนใจเรื่องทานข้าวเย็นเลยสักนิด หลงเฟยลองลูบที่แหวน แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขากระโดด แกล้งล้ม เดินไปเดินมา แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี
“ทำไมมันไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นวะเนี่ย โธ่เว้ย!” เขาปาแหวนทิ้งอย่างหัวเสีย ทำให้แหวนค่อยๆ กลิ้งเข้าหยุดอยู่ที่ใต้เตียง
“ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี ไม่น่าปาเข้าไปเลย เก็บลำบากไปอีก เฮ้อ” หลงเฟยบ่นพลางก้มลง พยายามมุดเข้าไปเก็บแหวนออกมาจากใต้เตียง และนำมันมาสวมไว้ที่นิ้วชี้ข้างซ้ายเหมือนเดิม
เมื่อหลงเฟยทดลองหลายวิธีเท่าที่เขาจะคิดออกไปหมดแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลงเฟยจึงเลือกที่จะไปอาบน้ำ ทานอาหารตามปกติ หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อย หลงเฟยก็เข้าไปในห้องนอน ตั้งใจว่าจะนอนเล่น หาข้อมูลในเรื่องที่เขายังสงสัยไปเรื่อยๆ แต่เพราะความเหนื่อยล้าของร่ายกาย ทำให้หลงเฟยเผลอหลับไปในที่สุด โดยที่ยังสวมแหวนทิ้งไว้บนนิ้ว
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนตรง แสงสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวหลงเฟยที่กำลังนอนอยู่บนเตียง และเช่นเคย เมื่อแสงนั้นดับลง ร่างของหลงเฟยได้ถูกพามาที่ ‘ห้องเตรียมการ’ อีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ คุณหลงเฟย วันนี้คุณสามารถเข้าไปยังโลก MAGIC ได้แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าคุณหลงเฟยต้องการที่จะเดินทางไปยังโลก MAGIC เลยหรือไม่คะ” รีเอลกล่าวทักทาย
หลงเฟยที่หลับอยู่ เมื่อได้ยินเสียงรีเอลก็รู้สึกตัวทัน เหมือนกับว่าเขากำลังรอคอยเจ้าของเสียงนี้อยู่ เมื่อตื่นขึ้นมาเขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนตั่งไม้ ที่ถูกจัดวางไว้บริเวณมุมห้องที่ตกแต่งสไตล์จีนโบราณ ที่เขาเคยเข้ามาเมื่อวาน ห้องที่รีเอลบอกว่า ที่นี่คือ ห้องเตรียมการ
ครั้งก่อน เพราะความตกใจ และความตื่นเต้นที่ได้พบสิ่งแปลกใหม่ ทำให้หลงเฟยไม่ทันได้สังเกตบริเวณรอบๆ ห้องนี้ วันนี้เขาจึงลุกขึ้นนั่ง และมองไปรอบๆ ห้องนี้อีกครั้ง
ที่กลางห้องมีชุดโต๊ะไม้กลม ที่มีเก้าอี้สี่ตัววางไว้รอบๆ ตัวโต๊ะและเก้าอี้ถูกแกะสลักเป็นลวดลายที่ดูประณีตงดงาม บนโต๊ะมาชุดน้ำชา และแจกันหยกที่ใส่ดอกบัวไว้ วางอยู่กลางโต๊ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัวกระจายไปทั่วห้อง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างหน้าประหลาด
อีกด้านหนึ่งของห้อง ฝั่งซ้ายของตั่งไม้ที่หลงเฟยนั่งอยู่ มีรูปปั้นของกิเลน สัตว์เทพที่มีหัวเหมือนมังกร มีตัวเหมือนกวาง ผิวถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ด และมีกีบเท้าเหมือนม้า อยู่สองตัว ตั้งไว้ห่างกันเล็กน้อย โดยถูกจัดวางให้หันหน้าเข้าหากัน ระหว่างรูปปั้นกิเลน มีภาพวาดของฝูงม้ากำลังวิ่งทะยานอยู่ในทุ่งหน้ากว้างใส่กรอบอย่างดี ติดอยู่บนผนังเหนือรูปปั้นกิเลน
ส่วนอีกด้าน ฝั่งขวาของตั่งไม้ มีฉากกันห้องที่ทำจากไม้ฉลุลายประณีต วางกันอยู่ ทำให้หลงเฟยไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่หลังฉากกั้นนั้นได้
สุดท้ายฝั่งตรงข้ามตั่งไม้ เป็นหน้าต่างบานใหญ่ มีม่านที่ทำจากฝ้าบางๆ สีฟ้า ปลิวไหวไปตามแรงลม เนื่องจากม่านถูกเปิดไว้ ทำให้หลงเฟยมองออกไปด้านนอก ภาพที่เห็นมีแต่ท้องฟ้าคราม เต็มไปด้วยเมฆ ดูสดใส สวยงาม และแม่น้ำกว้างไกลสุดสายตา จนเหมือนกับว่าห้องนี้ลอยอยู่กลางน้ำ
แต่ที่แปลกที่สุดคงจะเป็นเรื่องที่หลงเฟยมองจนรอบห้องแล้ว แต่กลับพบว่าห้องนี้ไม่มีประตู
“สวัสดีครับคุณรีเอล” เมื่อสำรวจรอบห้องจนพอใจแล้ว หลงเฟยก็ทักทายรีเอลกลับด้วยเสียงสดใสพลางคิดว่า เขาได้กลับมาที่ห้องนี้อีกครั้ง แสดงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงใช่ไหม
“ผมสามารถเดินทางไปอีกโลกได้วันละ 1 ครั้งอย่างนั้นเหรอครับ” หลงเฟยก็ถามต่อ
“ใช่ค่ะ พลังอำนาจของแหวนจะถูกรีเซ็ตทุกๆ เวลาเที่ยงคืนของวันใหม่ค่ะ ไม่ทราบว่ามีคำถามเพิ่มเติมอีกไหมคะ”
“เอ่อ.. มีครับ คนบนโลก MAGIC สามารถเห็นค่าสถานะของสิ่งต่างๆ ได้เหมือนที่ผมเห็นไหมครับ ผมเห็นมีคนๆ หนึ่งสามารถเช็คสถานะตัวผมได้ว่า ผมเป็นมนุษย์” หลังจากหมดข้อสงสัยเรื่องทำไมเมื่อตอนเย็นเขาถึงหาทางมายังโลกนี้ไม่ได้แล้ว เขาก็นึกถึงสิ่งที่สงสัยเมื่อวานขึ้นมาได้อีก จึงรีบถามรีเอล
“คนบนโลก MAGIC ไม่สามารถมองเห็นสถานะหรือคุณสมบัติของสิ่งต่างๆ ได้แบบคุณหลงเฟยได้ค่ะ สิ่งที่คนที่คุณหลงเฟยพบใช้งานนั้น เป็น ‘เวทมนต์’ ค่ะ บางคนบนโลก MAGIC จะสามารถใช้เวทมนต์ได้ ส่วนเวทมนต์ที่คุณหลงเฟยได้เห็นนั้น เรียกว่า ‘เวทตรวจสอบ’ ใช้ตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตต่างๆ” รีเอลอธิบายข้อสงสัยของหลงเฟยอย่างระเอียดห
“อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วครับ แล้วตอนนี้ผมสามารถเดินทางไปยังโลก MAGIC ได้เลยหรือป่าวครับ” หลงเฟยถามด้วยความตื่นเต้นแล้ว เขาอยากจะเดินทางไปผจญภัยในต่างโลกเต็มที
“ถ้าอย่างนั้น คุณหลงเฟยสามารถที่จะนำของไปยังโลก MAGIC ได้หนึ่งชึ้นค่ะ กรุณาระบุของชิ้นนั้น” จากคำบอกนี้ของรีเอล ทำให้หลงเฟยเข้าใจได้ไม่ยากว่า สามารถนำของไปกลับได้ครั้งละหนึ่งชิ้นสินะ แต่หลงเฟยไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะนำอะไรไป เขาจึงเลือกนำถุงย่ามเหมือนเดิม
“คุณหลงเฟยได้เลือก ถุงย่ามใหม่เอี่ยม ระดับ A นะคะ”
“ครับ”
“เรียบร้อยค่ะ คุณสามารถนำถุงย่ามใหม่เอี่ยม ติดตัวไปได้ ขอให้สนุกกับการผจญภัยค่ะ เริ่มส่งคุณหลงเฟยไปยังโลก MAGIC ในอีก 3....2...1”
เมื่อสิ้นสุดเสียงของรีเอล ร่างของหลงเฟยก็ถูกแสงสว่างนำตัวไปที่วันเวลาเดิม รวมถึงสถานที่เดิมกับที่เขาจากมาเมื่อวานนี้ คือเวลา ตีสี่ ณ กระท่อมน้อยแสนรักของเขา
หลงเฟยตั้งใจว่าจะพักผ่อนให้ถึงเวลา 6 โมงเช้าของโลกใบนี้ แต่เขาก็นอนไม่หลับ และเมื่อเป็นอย่างนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินไปหาพวกพี่ลีมูนที่ป้อมสังเกตการณ์หน้าเมือง