บทที่ 6
หลงเฟยลองพิมพ์ข้อมูลที่เขาได้พบเจอ และเรื่องการได้ไปต่างโลก จากนั้นกดค้นหาอยู่หลายครั้ง แต่ข้อมูลที่แสดงออกมาจากคำค้นที่เขาพิมพ์ กลับมีแต่การ์ตูน หรือไม่ก็อนิเมะเรื่องดัง จนมันทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่า เรื่องที่เขาพบเจอมานั้นมันใช่เรื่องจริงหรือไม่
หลงเฟยหันไปทางถุงย่ามที่เขาสะพายมาด้วย เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยมีย่ามใบนี้ในครอบครองมาก่อน แต่หลังจากเหตุการณ์ข้ามไปต่างโลกเกิดขึ้น ย่ามใบนี้ก็ปรากฏตัวติดกลับมาด้วย หลงเฟยที่กำลังสงสัยจึงหยิบย่ามขึ้นมาสำรวจ
เมื่อพลิกดูไปมา หลงเฟยพบว่าถุงย่ามใบนี้ก็ไม่ได้ต่างจากถุงย่ามปกติทั่วไป สุดท้ายหลงเฟยลองล้วงมือลงไปในกระเป๋า ไม่ได้คิดจะค้นหาอะไร เพียงแค่หมายจะสำรวจเนื้อผ้าทั่วไป แต่มือของเขากลับไปสัมผัสเข้ากับวัตถุเย็นๆ ชิ้นหนึ่ง ส่วนมันคืออะไรนั้น หลงเฟยคิดขึ้นมาได้ทันที และถ้าเรื่องได้ไปต่างโลกเป็นเรื่องจริง สิ่งที่อยู่ในย่ามต้องเป็นสิ่งที่เขาเดาไม่ผิดแน่
หลงเฟยค่อยๆ ดึงของสิ่งนั้นออกมาจากถุงย่าม และจริงอย่างที่เขาเดาไว้ไม่มีผิด! มันคือ ดาบผีสิง มุรามาสะ!!! แสดงว่าเริ่มที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงสินะ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจ หลงเฟยจึงเลื่อนเก้าอี้ออกไปทางโต๊ะทำงานที่อยู่ข้างหลัง
“แอน เรามีอะไรอยากจะอวดเธอสักหน่อย เธอเห็นดาบของเล่นของเรามั้ย” หลงเฟยยื่นดาบในมือไปตรงหน้าแอน
แอน พนักงานสาวที่เป็นเพื่อนร่วมงานของหลงเฟย เคยหน้าจากเอกสารขึ้นมามองสิ่งที่เพื่อนต้องการจะอวด
“เห็นสิ ว่าแต่นายอายุขนาดนี้แล้ว ยังจะมาเล่นของเล่นเป็นเด็กแบบนี้อยู่อีกเหรอ เฮ้อ” แอนตอบพร้อมกับถอยหายใจ รู้สึกเสียดายเวลา 10 วินาทีที่ผ่านไปอย่างไร้ค่าของตัวเองจริงๆ
หลงเฟยได้แต่เกาหัวแก้เขิน ก่อนเลื่อนเก้าอี้กลับไปนั่งที่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง แม้ว่าตอนนี้เขาจะเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงไปแล้วมากกว่าครึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังรู้สึกไม่หายข้องใจอยู่ดี
หลงเฟยจึงตัดสินใจว่าจะหาข้อมูลที่เขาต้องการอีกสักนิด จนในที่สุดเขาก็พบกับกระทู้ๆ หนึ่งบนเว็บ PT ในหัวข้อ ‘ทำยังไงดีอยู่ๆ ฉันก็หายตัวไปยังต่างโลก หรือเกมออนไลน์ คนเราสามารถเข้าไปในเกมออนไลน์ได้ไหม?’
‘คห.1 : ได้จ้า หากว่าเราเป็นคิริโตะกับอาสึนะ’
“มันคงจะเอาฮาละมั้ง” เขาพึมพำคนเดียว
แค่เริ่มอ่านความคิดเห็นแรกก็ทำเอาเขาเริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมาแล้ว หลงเฟยใช้เวลาเวลาต่อไปอีกสักพัก จนอ่านมาถึงความคิดเห็นที่ 44 ที่มันทำให้เขาประหลาดใจ
‘คห.44 : ได้ค่ะ อาจจะเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อไปอีกโลกหนึ่ง อาจจะไม่ใช่โลกในเกมออนไลน์เสมอไปค่ะ’
“เฮ้ย มีคนเข้าไปได้จริงๆ ด้วยหรอเนี่ย” เขาอุทานออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะพยายามอ่านต่อ
“ไอ้เฟยไปกินข้าวเที่ยงกัน” มาร์ค เพื่อนร่วมงานอีกคนของหลงเฟย เข้ามาชวนเขาไปกินข้าว
หลงเฟยที่ตั้งใจจะกดเข้าไปดูว่า ใครเป็นเจ้าของความคิดเห็นนี้ เผื่อว่าจะได้ลองปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นดู ไม่ได้สนใจตอบคำถามเพื่อน จนมาร์คเดินมาถึงตัวหลงเฟย และกอดคอเขาจากด้านหลัง
“เดี๋ยวนี้แกเพ้อฝันใหญ่แล้วนะ จะไปต่างโลกแล้วเหรอช่วงนี้ ถ้าเมื่อก่อนฉันจำได้ว่าแกกำลังจะแปลงร่างอยู่เลยนี่ ฮ่าๆๆ” มาร์คแซวหลังจากที่เห็นว่าหลงเฟยกำลังอ่านอะไรอยู่
“จริงมาร์ค เมื่อกี้ยังมาอวดดาบของเล่นกับเราอยู่เลย ท่าจะอาการหนัก” แอนที่ได้ยินก็ผสมโรงด้วยเช่นกัน
หลงเฟยที่ได้ยินเพื่อนๆ แซวแบบนั้น จึงไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดให้เพื่อนฟัง เพราะเขาเพิ่งเคยไปที่นั่นมาแค่ครั้งเดียว และอีกอย่าง เขายังไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นคนบ้าในสายตาคนอื่นด้วย
“ก็คนมันชอบนี่ว้า แล้วพวกนายจะทำไม” หลงเฟยตอบ และพยายามทำท่าเขินๆ กลบเกลื่อน
เมื่อเห็นว่าวันนี้หลงเฟยมีท่าทางแปลกๆ มาร์คจึงมองมองสำรวจคนตรงหน้าอย่างละเอียด เหมือนพยายามจะจับผิดอะไรสักอย่าง ทำให้เห็นว่า วันนี้หลงเฟยสวมแหวนทองอะไรสักอย่างที่นิ้วชี้ข้างซ้ายด้วย
“นี่แกใส่แหวนทองแบบนี้ด้วยเหรอวะ? ไปซื้อมาตอนไหนเนี่ย เมื่อวานไม่เห็นใส่”
“เอ่อ ของปู่ฉันเอง ฉันเพิ่งได้ข่าวว่าปู่เพิ่งจะเสีย นี่เป็นมรดกชิ้นเดียวที่ปู่เหลือไว้ให้น่ะ” หลงเฟยมองแหวนที่นิ้วของตัวเอง พร้อมกับอธิบายให้มาร์คฟัง
“ทำไม มีแหวนแบบนี้หรือยังไง หรือไปเคยเห็นมาจากไหนรึไง ถึงได้ถามเอาๆ” หลงเฟยถามเพื่อนกลับไปบ้าง เมื่อนึกได้ว่า ปู่ของเพื่อนอาจจะเคยทิ้งของแบบนี้ไว้ให้เพื่อนบ้างก็ได้
“ก็แค่ไม่เคยเห็นนายใส่แหวน เลยถามดู ทำไมปู่ต้องมาให้แหวนแกด้วยวะ มันก็เหมือนแหวนธรรมดาทั่วๆ ไป ทำไม หรือว่าแหวนนี้มันมีอะไรพิเศษ” มาร์คถามงงๆ เมื่อเห็นหลงเฟยมีท่าทีแปลกๆ
“เปล่า ก็แค่ถามไปอย่างงั้นแหละ เผื่อนายจะเคยได้อะไรจากปู่มั่งไง” หลงเฟยตอบอย่างติดตลก
“ฮ่าๆๆ คงยากว่ะ เพราะปู่ฉันหนังเหนียวยังไม่ตายง่ายๆ หรอก” มาร์คหมายจะเล่นมุกตลกคลายบรรยากาศความเศร้าของหลงเฟยที่เพิ่งจะเสียปู่ไป แต่คำพูดที่เขาพูดออกไปกลับเหมือนไปตอกย้ำว่าปู่ของเขายังไม่ตายเหมือนปู่ของหลงเฟย ทำให้มาร์คแทบจะอยากกัดลิ้นตัวเองทิ้งซะ
แต่หลงเฟยไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาทั้งสามคน ประกอบไปด้วยหลงเฟย แอน และมาร์ค จึงลงไปทานอาหารที่ร้านป้าแช่มอาหารตามสั่ง ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าบริษัท และในระหว่างที่รออาหาร หลงเฟยก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดกระทู้ที่เขาเปิดอ่านค้างไว้เมื่อครู่ ตั้งใจว่าจะหาข้อมูลในกระทู้ต่อ แต่ว่ากระทู้นั้นกลับถูกลบไปแล้ว
“อ่าวใครมาลบไปละเนี่ย ว่าจะเข้ามาอ่านสักหน่อย ช่างเถอะ” หลงเฟยบ่นเล็กน้อย มาร์คที่ได้ยินจึงชะโงกหัวมาดูว่าหลงเฟยกำลังดูอะไรอยู่
“เป็นอะไรวะเพื่อน ดูหัวเสียแต่บ่ายเลยนะ”
“เปล่า ไม่มีอะไร” หลงเฟยไม่รู้จะอธิบายอะไรดีก็ได้แต่ตอบปัดๆ ไป พร้อมกับก้มลงทานข้าวกระเพราหมูกรอบที่ถูกนำวางตรงหน้าของเขาต่อไป
“วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” แอนที่คิดว่าหลงเฟยอารมณ์แปรปรวน เพราะยังเสียใจเรื่องการจากไปของปู่อยู่ จึงออกปากชวน เพราะไม่อยากให้หลงเฟยอยู่คนเดียวในเวลาที่ต้องการกำลังใจมากที่สุด
“วันนี้ไม่สะดวกอ่ะแอน เรามีเรื่องที่บ้านที่ต้องเคลียร์ก่อนน่ะ ไว้ไปวันอื่นนะ”
มาร์คและแอนที่เข้าใจไปว่า เรื่องที่บ้าน คือเรื่องปู่ของหลงเฟย จึงไม่ได้ว่าอะไร ก่อนที่ทั้งสองจะให้กำลังใจหลงเฟยอีกเล็กน้อย และบอกว่า ถ้าต้องการให้ช่วยอะไรบอกได้นะ