บท
ตั้งค่า

หลงครั้งที่ 5

EP. 5

พาร์ท ยีน

นี่ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วละครับหลังจากทีาผมออกจากโรงพยาบาล ผมเองก็ยังคงคิดถึงพี่ปริ้นซ์​อยู่ตลอด แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้แต่ผมก็ได้แต่หวังว่าพี่ปริ้นซ์​เขายังคงสบายดี ส่วนผมคงทำอะไรไม่ได้นอก จากทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมแรกของผมแล้ว

ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมก็นอนอยู่ที่คอนโดของกายตลอด ผมไม่อยากกลับบ้าน สถานที่ตรงนั้นไม่ใช่บ้านอีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อไรกันน่าที่บ้านหลังนั้นดูไม่เหมือนบ้านอีกต่อ คงจะเป็นตั้งแต่ที่พ่อของผมเสียละมั้ง

แต่ก่อนที่พ่อผมจะเสียพ่อผมก็ได้มีเมียใหม่คนนึงซึ่งผู้หญิงคนนั้นเขาอายุมากกว่าผมแค่5ปีเท่านั้น ตอนที่พ่อยังอยู่เธอก็ยังดูเป็นคนที่พอใช้ได้แต่หลังจากที่พ่อผมเสียเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เงินที่ได้จากมรดกของพ่อซึ่งเป็นส่วนของเธอๆก็เอาไปเล่นการพนันจนหมด ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะนั้นก็เป็นเงินของเธอ

แต่หลังจากที่เงินเธอหมดเธอก็จะมาเอากับผม ซึ่งเอาจริงๆเงินประกันของพ่อผมจะได้รับเต็มๆก็ต่อเมื่อผมอายุครบ20ปี แต่ก่อนที่ผมจะอายุครบตามกำหนดผมก็จะได้รับเงินใช้รายเดือนๆละหนึ่งหมื่นบาท เท่าๆกับเธอคนนั้น แต่เขาก็ชอบมาขอผมเพิ่มอยู่เรื่อยๆผมก็ให้ไปบ้างแต่ก็แค่นิดหน่อย

แต่เรื่องมันเริ่มหนักขึ้นเพราะเธอดันไปเล่นการพนันจนเป็นหนี้มากมาย นี้ถ้าชื่อบ้านไม่ใช่ชื่อผม ป่านี้บ้านผมคงต้องโดนขายทิ้งแน่ๆ แต่ถึงเป็นแบบนั้นเขาก็ยังบังคับให้ผมเซ็นมอบอำนาจให้เธอแต่ผมก็ไม่ยอม จากวันนั้นเธอก็เงียบไปอีกหลายวันแต่ไม่นานก็มีคนมาจับตัวผมไว้แต่ผมก็หนีออกมาได้และก็ได้มาพบกับพี่ปริ้นซ์​

ช่วงเวลาสองวันที่ผมได้อยู่กับพี่ปริ้นซ์​เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดในรอบหลายปี แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่มันก็มีค่ามาก

พรึบ

“เฮ้ย...มานั่งเหมออะไรตรงนี้วะ”ไอ้กายเดินมาจากไหนไม่รู้มันนั่งลงข้างผมแล้วพูดถาม ซึ่งตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่ม้านั่งแถวสวนในโรงเรียน เมื่อคืนไอ้กายมันไปนอนที่ห้องเพื่อนคนอื่นมา วันนี้ผมเลยมาโรงเรียนคนเดียว

“มาช้านะมึงอะ”ผมไม่ได้ตอบมันแต่ว่ามันแทน เพราะนี้มันก็เกือบจะได้เวลาเข้าแถวอยู่แล้ว มาสายเป็นงานหลักจริงๆ

“บ่นตลอด..รีบมาก็ไปเลยปะละครับ”ไอ้กายพูด

“ก็ไปดิ..”ผมบอก แล้วผมกับไอ้กายก็เดินขึ้นห้อง อ่อมีเรื่องที่ผมอยากจะบอกด้วยนะโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่เป็นโรงเรียนกึ่งนานาชาติเพราะงั้นชุดนักเรียนที่พวกผมใส่ก็จะเป็นเสื้อเชิ๊ตสีขาวเนทไทสีแดงตัดดำและมีเสื้อคลุมอีกตัวเป็นสีดำขอบแดง ตรงกระเป๋าเสื้อนอกมีตราของโรงเรียน กางเกงก็เป็นสแลคสีดำธรรมดา รองเท้าก็ฟรีสไตล์ ถ้าถามว่าทำไมผมมาเข้าโรงเรียนนี้ได้ทั้งๆที่ค่าเทอมมันแสนแพง

เอาจริงๆคือบ้านผมก็ไม่ได้รวยอะไรมากมายเพียงแต่พ่อผมเป็นคนขยันทำงานและเก็บเงินเก่ง เขายอมเหนื่อยเพื่อให้ผมได้เรียนที่โรงเรียนนี้ ผมเองถึงจะเข้าเรียนบ้างไม่เข้าบ้างแต่เพราะเกรดผมไม่เคยตกเลยไม่มีใครว่าอะไร ที่สำคัญพ่อผมเขาจ่ายค่าเทอมไว้ล่วงหน้า มันมากพอที่จะทำให้ผมได้เรียนที่นี้จนจบเลยละ เล่าเยอะเลย ตอนนี้ผมกับไอ้กายก็เดินมาถึงห้องละ

ผมกับมันนั่งติดหน้าต่างแต่อยู่ด้านหลังสุดของห้อง พอเดินเข้ามาในห้องบรรดาเพื่อนๆที่เป็นเด็กหลังห้องแบบผมก็พูดทักเราสองคนตามปกติ และทันทีที่ก้นของผมและไอ้กายแตะลงที่เก้าอี้ทั้งผมและมันก็ฝุบหลับไปทันที

“มึงๆ..ตื่นกันก่อนดิวะ.มาถึงก็หลับเลยนะ”เสียงไอ้กันต์ที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าผมมันหันมาทางผมและพูดพลางเขย่าตัวผมไปด้วย ผมเลยต้องเงยหน้ามามองมัน

“มีอะไรของมึงวะ”ผมถามมัน รู้สึกหงุดหงิดนิดๆเพราะช่วงนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับด้วยสิ แต่จริงๆอาการมันก็เริ่มตั้งแต่ตอนที่ผมต้องห่างจากพี่ปริ้นซ์​ละนะ

“กูมีข่าวอัพเดทมาบอกโว้ย”ผมกรอกตาอย่างเซ็งๆกับอาการที่ตื่นเต้นจนเว่อร์ของมัน ขนาดไอ้กายมันยังต้องตื่นขึ้นมาฟังตามผมเลย

“ข่าวเชี้ยไรของมึง..”ไอ้กายถาม

“ก็เมื่อกี่กูเดินผ่านห้องพักครูมาเว้ยแล้วได้ยินว่าวันนี้จะมีครูพละคนใหม่มา..เห็นพวกครูผู้หญิงพูดกันว่าหล่อโครตอะมึง..ที่สำคัญเขาเป็นครูประจำชั้นห้องเราด้วย”ยัง ยังไม่เลิกตื่นเต้นอีก

“แล้วไงวะ...”ผมว่าไปอย่างไม่สนใจ ผมไม่สนหรอกว่าจะหล่อแค่ไหนเพราะผมว่าไม่มีใครหล่อเท่าพี่ปริ้นซ์​แล้วละ

“มึงอะ..ช่วยตื่นเต้นกับกูหน่อยก็ไม่ได้”ไอ้กันต์พูดอย่าง งอลๆ เรื่องของมึงครับ งอลไปเหอะกูไม่ง้อหรอก

“เลิกไร้สาระได้ละ...กูสองคนจะนอน”ไอ้กายว่าจบมันก็ฝุบลงไปอีก ผมเองก็เหมือนกัน ปล่อยให้ไอ้กันต์มันนั่งงอลต่อไป แต่ว่าหลับตาไปได้แป๊ปเดียวก็มีครูเดินเขามา ที่ผมรู้เพราะไอ้กันต์มันสะกิดผมอีกแล้วแต่ผมก็แค่เงยหน้าขึ้นมานิดหน่อยแล้วก็ฝุบหลับต่อ จริงๆจะเรียกว่าหลับคงไม่ได้เพราะผมแค่หลับตาเฉยๆ

“เพิ่งเปิดเทอมวันแรกก็ง่วงกันแล้วหรือไง...ช่วยตื่นมาฟังครูสักนิดเถอะครับคุณลูกศิษย์ที่หน้ารัก”ครูที่เข้ามาพูดว่าพวกผมที่เกินครี่งห้องพากันนอนหลับไปกับโต๊ะ เขาพูดแบบไม่จริงจังนักเพราะเอาจริงๆพวกผมกับครูคนนี้ก็ค่อนข้างสนิทกันเพราะเขาเป็นครูที่ค่อนข้างจะเข้าใจพวกเรา

“โห่จารย์..ปล่อยให้พวกผมนอนเหอะ.เดี๋ยวนอนน้อยแล้วหน้าแก่ตามอาจารย์จะทำไงละครับ”ไอ้กันต์พูดแซว ได้ข่าวเมื่อกี่มึงยังบ่นเรื่องที่กูนอนอยู่เลย

“แหม่..พูดแบบนี้อยากโดนคนแก่กินหรือเปล่าละครับ”ครูแกแซวกับมา ทำเอาไอ้กันต์ทำหน้าไม่ถูกเลย ส่วนพวกผมและคนอื่นๆในห้องก็ชินละเพราะใครๆก็รู้ว่าไอ้กันต์กับครูเขาเป็นญาติกัน

“พอๆ..ครูว่าเรามาเข้าเรื่องกันได้ละ..วันนี้โรงเรียนของเรามีครูคนใหม่สอนแทนครูสมชายที่เกษียณออกไป..ต้อนรับครูเขาดีๆละ....ครูเข้ามาได้เลยครับ”พอสิ้นเสียงครูพัฒท์ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบ้างคนเดินเข้ามาแต่ไม่รู้เพราะอะไรในห้องผมถึงเงียบกันหมด

“เอ่อ..เชิญครูแนะนำตัวได้เลยครับ”ครูพัฒท์พูดอีก

“ครับ..ครูชื่อปริ้นซ์​..ยินดีที่ได้รู้จัก”น้ำเสียงที่ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างเร็ว และก็ต้องรู้สึกว่าหัวใจผมที่เคยบอบช้ำแต่ตอนนี้เหมือนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ชายที่อยู่ตรงด้านหน้าของผมคือคนที่ผมคิดถึงมาตลอดหลายวันเขาได้มาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว

แต่ถึงแม้ผมจะดีใจยังไงแต่ผมก็ทำได้เพียงมองเขาเท่านั้น เพราะเขาคงจำผมไม่ได้แต่แค่นี้ก็พอแล้ว อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าเขาหายดีแล้ว แค่นี้ก็พอ

กรี๊ดดดดดด

“นี่ๆจะเสียงดังอะไรกัน.เงียบๆหน่อย”ครูพัฒท์พูดห้ามพวกสาวๆที่กำลังพากันกรี๊ดให้กับครูคนใหม่ ซึ่งผมเองไม่รู้หรอกว่าเขากรี๊ดกันดังแค่ไหนเพราะผมเหมือนเข้าไปอยู่ในภวังค์ของตัวเอง ผมรู้ตัวว่าผมกำลังจองหน้าของพี่ปริ้นซ์​อยู่

“ยีน..ยีน..ไอ้เชี้ยยีน!!”

“อะ.อะไร”ไม่รู้ว่ามันเรียกผมกี่ครั้งเพราะผมมารู้ตัวตอนไอ้กายมันตะโกนใส่หูผมนี้แหละ

“เหม่ออะไรอีกวะ..กูเรียกมึงตั้งหลายรอบละ”ไอ้กายว่าผมเสียงดังแต่บางทีผมกับมันคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เราสองคนกลายเป็นเป้าสายตาของคนในห้องเรียบ ร้อยแล้ว

“นี่ๆ..เธอสองคนคุยอะไรกันหะ”ครูพัฒท์ว่า ผมสองคนเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าพี่ปริ้นซ์​กำลังมองมาที่ผมอยู่

“เออ..ครูปริ้นซ์​ครับเดี๋ยวผมคงต้องไปสอนห้องอื่นต่อ.ถ้าครูอยากจะให้นักเรียนแนะนำตัวหรืออะไรก็ตามสบายเลยนะครับ.ผมคงต้องขอตัวก่อน”ครูพัฒท์หันปุดกับพี่ปริ้นซ์​ทำให้พี่ปริ้สต้องละสายตาจากผมไป ผมเลยรู้สึกโล่งใจนิดๆ

“ครับ..ขอบคุณมาก”พี่ปริ้นซ์​ตอบครูพัฒท์เลยเดินออกจากห้องไป ในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง พี่ปริ้นซ์​กวาดสายตาไปรอบห้องอีกครั้งแล้วก็มาหยุดที่ผม

“ครูอยากให้ช่วยแนะนำตัวหน่อย..เริ่มจากแถวหนึ่ง”พี่ปริ้นซ์​ละสายตาจากผมอีกครั้งและชี้ไปที่หัวแถวด้านซ้ายมือของผม ผมสังเกตสีหน้าของพี่ปริ้นซ์​ดูเหมือนว่าเขาจะหงุดหงิดน่าดูที่ต้องพูดยาวๆแบบนี้เพราะปกติแล้วเขาพูดน้อยจะตายไป คนที่นั่งตรงนั้นและทุกคนก็เริ่มแนะนำตัวจนมาถึงไอ้กายที่นั่งข้างผม

“ผมชื่อ.กริชตภพ.ชื่อเล่นกายครับ”ไอ้กายลุกขึ้นและแนะนำตัวพอเสร็จมันก็นั่งลง ผมเลยลุกขึ้นต่อ พี่ปริ้นซ์​จ้องมาที่ผมอีกครั้ง

“ผม....ผมชื่อ.ยติกาล.ชื่อเล่น ยีนครับ”ผมรีบๆพูดให้จบและกำลังจะนั่งลงแต่ว่า

“เดี๋ยว..”ผมชะงักทันทีเพราะผมที่กำลังนั่งลงแต่เสียงของพี่ปริ้สก็หยุดผมไว้

“ครับ..”

“ช่วยตามผมมาด้วย..คนอื่นอ่านนั่งสือรอ”พี่ปริ้นซ์​พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ผมไม่รู้ว่าทำไมพี่เขาต้องเรียกผมออกไปพบ แต่ผมก็ต้องเดินตามไปแม้ไอ้กายจะรั้งผมไว้เพื่อจะถาม แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะผมต้องรีบตามพี่ปริ้นซ์​ไป ผมเดินตามพี่ปริ้นซ์​มาจนถึงห้องพยาบาล ไม่รู้ว่าพี่แกมาถูกได้ยังไง พี่ปริ้นซ์​นำผมมาหยุดอยู่ที่เตียงด้านในสุดและดูเหมือนว่าอาจาร์ยห้องพยาบาลยังไม่มาซะด้วยสิ

“เอ่อ..ครูมีอะไรหรือเปล่าครับ”ผมพูดถามแต่ไม่ได้เงยหน้าสบตาพี่ปริ้นซ์​ ยิ่งอยู่ใกล้แบบนี้ผมก็ยิ่งคิดถึงอยากจะกอดเหมือนที่ผมเคยกอดแต่ก็ทำไม่ได้ยิ่งคิดแบบนี้ตาผมมันก็เริ่มรู้สึกร้อนๆแล้วสิ

“ไม่เรียก..พี่ปริ้นซ์​..แล้ว”ผมเงยหน้าขึ้นมามองพี่ปริ้นซ์​อย่างแปลใจเขาพูดแบบนี้มันเหมือนกับว่าเขาจำผมได้แล้วอย่างนั้นแหละ หรือว่าเขาจำผมได้แล้วจริงๆ

“นะนี่พี่..พี่จำได้แล้วอย่างนั้นหรอ”ผมถามเสียงสั่น พี่ปริ้นซ์​ยังไม่ได้ตอบอะไรแต่เขาเอื้อมมือมาเกลี่ยที่แก้มเบาๆและนั้นก็ทำให้ผมรู้แล้วว่าผมเผลอร้องไห้ออกไป

“ขอโทษที่ลืม....”พี่ปริ้นซ์​บอกผม ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำอะไรนอกจากร้องไห้ เมื่อความกังวลทั้งหมดที่มีมันหายไปเกือบหมด

พรึบ

“อย่าร้อง..”พี่ปริ้นซ์​ดึงผมเข้าไปกอด ผมเองก็ยกมือสั่นๆของตัวเองกอดพี่ปริ้นซ์​กับไป แต่ยิ่งพี่ปริ้นซ์​กอด ผมก็ยิ่งร้องกอดของพี่ปริ้นซ์​มันอบอุ่นจนผมห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไม่ได้ พี่ปริ้นซ์​ดันตัวผมออกเบาๆ

“กอดให้หยุดร้อง..ไม่ได้ให้ร้องต่อ”ผมทุบอกพี่ปริ้นซ์​ไปเบาๆข้อหาล้อผม น้ำเสียงอะธรรมดานะแต่สายตานี่ล้อผมสุดๆอะ

“ไม่ต้องมาล้อเลย...ว่าแต่พี่เหอะทำไมมาเป็นครูที่นี้ได้อะ”ผมเช็ดน้ำตาออกลวกแล้วพูดถาม รู้โล่งเหมือนกันที่ได้ร้องออกมา

“ก็อยากมา..”จ๊ะ แล้วแต่เลย

“ดูโทรมนะ..”พี่ปริ้นซ์​บอกอีก คงเพราะหลายวันที่ผ่านมาผมนอนไม่ค่อยหลับหน้าเลยดูโทรมแบบเนี้ย

“ไม่มีอะไรหรอกครับ..แค่ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับเท่าไร”ผมบอกยิ้มๆ พี่ปริ้นซ์​ยื่นมือมาเกลี่ยใต้ตาผมเบาอีก ผมเองก็หลับตาลงเพื่อรับสัมผัสอุ่นที่มือของพี่ปริ้นซ์​

“จุ๊บ...ขอโทษนะ”สัมผัสที่แผ่วเบาที่ดวงตาทั้งสองข้างของผมและเสียงพูดที่ราวกระซิบของพี่ปริ้สทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาช้าๆ

“ขอโทษเรื่องอะไรครับ”ผมถามเพราะผมไม่รู้ว่าพี่ปริ้นซ์​มีเรื่องอะไรที่ต้องขอโทษ

“ขอโทษที่จำไม่ได้..”

“พี่ปริ้นซ์​ไม่ผิดหรอก..เราแค่โชคร้ายเท่านั้น..และอีกอย่างตอนนี้พี่ก็จำผมได้แล้ว.แค่นี้ก็พอแล้วละครับ”ผมบอก พี่ปริ้นซ์​ยกมือลูบผมของผมเบาๆ

“กลับไปอยู่ด้วยกัน...”ผมยิ้มออกมาเมื่อผมกำลังจะได้กลับไปอยู่กับพี่ปริ้นซ์​แต่ว่ารอยยิ้มของผมก็ต้องหายไปเมื่อนึกถึงพ่อของพี่ปริ้นซ์​ ผมว่าเขาคงไม่ยอมแน่ถ้ารู้ว่าผมกลับไปอยู่กับพี่ปริ้นซ์​

“เป็นอะไร..”คงเพราะงงที่ว่าตอนแรกผมยังยิ้มอยู่เลยแต่จู่ๆก็หุบยิ้มเท่านั้น

“คงไม่ดีมั้งครับ..ผมไม่อยากทำให้พี่ปริ้นซ์​เดือดร้อน”ผมไม่อยากให้พี่ปริ้นซ์​มีปัญหากับพ่อของเขา เพราะผมเสียพ่อไปแล้ว ผมก็ไม่อยากให้พี่ปริ้นซ์​ผิดใจกับพ่อของเขา ยังไงซะพ่อก็ต้องสำคัญมากที่สุด

“อย่าคิดมาก...พี่จัดการได้”ดูเหมือนพี่ปริ้นซ์​จะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ เขาเลยพูดออกมาแบบนี้

“แต่ว่า...”

กรี๊งงงงงงงงงงงงง

“ไปเรียนก่อน..”ผมไม่ทันได้พูดอะไรเสียงกรี๊งที่บอกว่าหมดช่วงเวลาโฮมรูมในตอนเช้าแล้ว  และพอผมพยักหน้าพี่ปริ้นซ์​ก็พาผมมาล้างหน้าที่ห้องน้ำก่อนที่จะพากลับมาที่ห้อง และผมกับพี่ปริ้นซ์​ก็กลายเป็นเป้าสายตาอีก ผมร้นนิดๆส่วนพี่ปริ้นซ์​นะหรอก็ทำหน้านิ่งสไตล์เขาแหละ ผมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะส่วนพี่ปริ้นซ์​ก็เดินไปยืนที่โต๊ะครูที่อยู่ตรงกลางของกระดาน

“ไอ้ยีน..ครูเรียกมึงไปทำไมวะ..แล้วไมตามึงแดงแบบเนี้ยอะ”พอผมนั่งลงปุ๊ปไอ้กายก็ซักผมปั๊ป

“นั้นดิๆ..ครูปริ้นซ์​เขาเรียกมึงไปทำไมวะ”ไอ้กันต์ก็หันมาถามผมด้วย เรื่องเผือกนี้ขอให้บอก

ปังๆ!!

“อยู่เงียบๆ...รอครูเข้ามา”พี่ปริ้นซ์​ตบโต๊ะเสียงดังจนคนอื่นสะดุ้งแล้วเขาก็เดินออกไป และไม่นานก็มีครูปะจำวิชาเข้ามา พวกผมเลยหยุดบทสนทนาไว้แค่นั้น แต่ไม่ได้เรียนหรอกนะครับเพราะพอครูคนใหม่เข้ามาผมกับไอ้กายก็ฝุบหลับเหมือนเดิม เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเลิกเรียน ช่วงพักผมก็ยังไม่เห็นพี่ปริ้นซ์​นะคิดว่าเขาคงยุ่งๆอยู่ ตอนนี้ผมก็มาที่ชมรมบาสที่ผมชอบ ถึงผมจะตัวเล็กกว่าคนอื่นนิดหน่อยแต่ผมก็ที่ผมเข้าทีมมาได้ก็เป็นเพราะความสามารถของผมล้วนๆและผมก็อยู่ชมรมนี่มาตั้งแต่ม.5 แล้วละครับ

“ไม่รู้โค้ชคิดอะไร..ถึงรับไอ้เตี้ยนี้มาเข้าทีม”ผมที่กำลังนั่งอยู่กับไอ้กายก็ได้ยินเสียงหมาเห่าข้างหู และก็ไม่ใช่ใคร ไอ้ลพ คู่กัดตลอดกาลของผมเอง มันไม่พอใจมาตั้งแต่ที่ผมเข้ามาคัดตัวแล้วละเพราะผมเอาชนะมันได้จากตอนนั้นมา มันก็ชอบเข้ามาหาเรื่องผมเป็นประจำ

“ไอ้ยีนเมื่อกี่มึงได้ยินเสียงหมาหอนป่าววะ”ไอ้กายแกล้งพูดออกมาดัง ผมได้แต่เอื้อมมือไปจับขามันเพื่อเป็นการปราบเพื่อให้มันใจเย็นๆ ไม่ใช่กลัวผมแค่ไม่อยากมีเรื่อง

“มึงว่าใครวะ!!!”ไอ้ลพลุกขึ้นมาทางผมพร้อมเพื่อนๆพวกมันอีกสามสี่คน ไอ้กายก็ลุกขึ้นผมเลยต้องลุกบ้าง

“กูพูดลอยๆใครอยากรับก็รับไปดิ”

“ไอ้!!..”ไอ้ลพทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาผมแต่เพื่อนๆมันก็รั้งไว้

“หยุด!!..พอเถอะวะทั้งสองคนเลยไอ้ลพกูว่ามึงเลิกมาหาเรื่องกูได้แล้ว..กูอยากอยู่เงียบๆบ้าง.”ผมว่าออกมาอย่างเหนื่อยๆ

“ก็กูจะหาเรื่องแล้วจะทำไมวะ”ไอ้ลพมันพูดอีก แล้วจู่ๆมันก็ยิ้มออกมาอย่างกับคนที่เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วมันก็เดินมาใกล้ๆผม

“กูได้ข่าวว่ามึงโดนเจ้าของบ่อนจับตัวไป..เป็นไงบ้างวะรับแขกเพื่อใช้หนี้.มันส์ปะวะ”มันกระซิบถามผมยิ้มๆทำเอาผมต้องกัดฟันกรอด สติของผมขาดผมกระชากคอเสื้อมันไว้แน่น แม้มันจะสูงกว่าผมก็ตาม

“มึงพูดเหี้ยไรของมึงหะ!!”ผมตะโกนว่ามันเสียงดัง ไอ้กายมันก็แค่จับไหล่ผมไว้เบาๆเท่านั้น

“หรือไม่จริงละ...เอางี้ปะ.มานอนกับกูอีกสักคนเดี๋ยวกูจะให้เงินมึงไปใช้หนี้”

ผัวะ!!!

“กูไม่ได้เป็นอย่างที่มึงคิด..เก็บเงินของมึงไว้เถอะสัด!!!”ผมชกมันอย่างแรงจนมันเซแต่ไม่ได้ล้มแต่ผมก็รู้ว่าปากมันแตก

“ไอ้เชี้ยยีน..นี่มึงกล้าต่อยกูหรอ!!!.....ผัวะ!!!” มันว่าอย่างโกรธๆและต่อยผมกับมาบ้างเล่นเอาผมปากแตกเหมือนกันเพราะผมรู้สึกถึงความเค็มปร่าในปาก

“ทำอะไรกัน...”น้ำเสียงที่ราบเรียบแต่กลับฟังดูน่ากลัวดังขึ้นทำให้พวกผมที่กำลังจะพุ่งเข้าหากันต้องหยุดความคิดลงและหันไปมองผู้ที่เดินเข้ามาใหม่ แค่ฟังเสียงผมก็รู้ว่าใคร ผมเลยต้องลดหมัดลงและเบี่ยงหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาของพี่ปริ้นซ์​

“ถามว่า...ทำอะไร”พี่ปริ้นซ์​เดินมายืนระหว่างผมกับไอ้ลพและก็พูดถามอีก

“จะทำอะไรก็เรื่องของผม..ครูไม่ต้องมายุ่ง”ไอ้ลพพูดอย่างไม่เกรงกลัว ผมรู้ที่มันไม่กลัวเนี่ยเพราะว่ามันเป็นญาติกับ ผอ.

“ใครสอน...”ไอ้ลพมันขมวดคิ้วงงๆกับคำพูดอันสั้นของพี่ปริ้นซ์​

“อะไร..ครูพูดอะไรวะ”ไอ้ลพถาม พี่ปริ้นซ์​ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ

“ใครสอนให้พูดกับคนที่เป็นครูแบบนี้”พี่ปริ้นซ์​จ้องหน้าไอ้ลพนิ่ง

“จะพูดยังก็เรื่องของผม..”

“วิ่งรอบสนาม20รอบ..เดี๋ยวนี้”พี่ปริ้นซ์​สั่ง

“ทำไมต้องทำด้วยวะ”มันโวยอีก พี่ปริ้นซ์​ไม่ตอบ เขาเดินเข้าไปใกล้ไอ้ลพเรื่อยๆจนมันต้องถอยหลังหนี ผมไม่รู้ว่าพี่ปริ้นซ์​ทำหน้าแบบไหน แต่ผมแอบมองไอ้ลพก็เห็นว่ามันหน้าซีดๆยังไงไม่รู้

“มึงจะไม่ทำ..”น้ำเสียงที่พี่ปริ้นซ์​ไม่เคยใช้กับผมถูกเอามาใช้กับคนตรงหน้าของพี่ปริ้นซ์​ ผมไม่เคยคิดเลยว่าแค่เสียงของเขาก็น่ากลัวได้ขนาดนี้

“ปะไปก็ได้วะ...ไปดิพวกมึง”ไอ้ลพพูดแบบร้น แล้วมันก็หันไผสั่งเพื่อนๆมันให้วิ่งตามที่พี่ปริ้นซ์​สั่ง พอพวกนั้นออกไปวิ่ง พี่ปริ้นซ์​ก็หันมาหาผมที่ยังก้มหน้าอยู่

“เรา..ฃออกไปก่อน”พี่ปริ้นซ์​พูดบอกไอ้กายที่ยืนอยู่ข้างหลังผม มันขานรับและเดินออกไปด้วยใบหน้าที่มีแต่เครื่องหมายคำถาม

“ยีน…เงยหน้า”พี่ปริ้นซ์​สั่งแต่ผมก็ยังยืนนิ่ง ใครมันจะไปกล้าเงยละครับ กำลังกลัวอยู่นะเนี่ย

“เงยหน้า..”ทำไมชอบกดดันกันด้วยเสียงเนี้ย และเพราะน้ำเสียงที่กดดันของพี่ปริ้นซ์​ผมเลยต้องยอมเงยหน้าขึ้นมา  

พอผมเงยหน้าขึ้นมาพี่ปริ้นซ์​ก็เลยเห็นรอยเลือดที่ปากผม ผมรู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังโกรธ พี่ปริ้นซ์​หันไปมองที่สนามที่ไอ้ลพกำลังวิ่งอยู่ และดูเหมือนว่าเขากำลังจะเดินไปหาไอ้ลพ ผมเลยต้องรีบขว้าแขนของเขาไว้ก่อน

“พี่ปริ้นซ์​...อย่า! ..ผมไม่อยากมีปัญหามากกว่านี้”ผมบอกเพราะกลัวพี่ปริ้นซ์​จะโดนไล่ออก ยังไงซะไอ้ลพมันก็เป็นถึงญาติของ ผอ. ถึงแม้เมื่อกี่ผมจะมีเรื่องกับมันไปแล้วก็เถอะ

“มันทำเราเลือดออก..”พี่ปริ้นซ์​พูดอีกผมรู้สึกเลยว่าเขากำลังพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองมากแค่ไหน

“ผมรู้..แต่ผมก็ทำมันเลือดออกเหมือนกัน..เพราะงั้นก็พอแค่นี้เถอะนะครับ..นะ”พี่ปริ้นซ์​มองผมนิ่งก่อนจะพยักหน้า

“แค่ครั้งนี้......”

“ครับ...”

.............................................................................

9/11/63

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel