หลงครั้งที่ 4
EP.4
ปริ้นซ์เดินถือถุงใส่พิชซ่าเข้ามาในห้อง กลิ่นที่หอมของพิชซ่าลอยมาปะทะที่จมูกของคนที่กำลังสนใจหนังให้หลุดออกจากภวังค์
“มาตอนไหนครับเนี่ย”ยีนลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินมาหาปริ้สอย่างเร็ว ปริ้นซ์วางถุงลงที่โต๊ะอาหาร
“ไม่ดูต่อ..”ปริ้นซ์แกล้งถามยีน ที่พอของกินมาปุ๊ปก็เลิกสนใจปั๊ป
“แหะๆ..ไม่ดูแล้วครับ..อยากกินมากกว่า”ยีนบอกอย่างเขิลๆนิดๆ
“นั่งสิ…”ปริ้นซ์บอก แล้วทั้งยีนแล้วเขาก็นั่งลงที่เก้าอี้ ปริ้นซ์จัดการเอาของในถุงออกมาวางตรงหน้ายีนทีละอย่าง ตั้งแต่พิชซ่า ไก่อบบาบีคิว และก็ขนมปังกระเทียมและน้ำอีกสองแก้ว
“ฮู้ววว….น่ากินจัง..แต่ว่ามันเยอะไปไหมครับเนี่ย”ยีนพูดอย่างตื่นเต้นกับอาหารที่น่ากินตรงหน้า
“กินเถอะ..”ปริ้นซ์บอก เพราะเห็นว่ายีนเอาแต่มองอยู่นั้นแหละแต่ไม่ยอมกินสักที
“ครับๆ……ง่ำๆ.อืออะอ่อยอากเอย....”ศัพท์ที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเจ้าตัวพูดโดยทีอาหารยังเต็มปากอยู่
“กลืนก่อน..ค่อยพูด”ปริ้นซ์ว่าเสียงเรียบ แต่มีหรอที่เด็กที่กำลังสนใจกับของกินตรงหน้าจะสนใจคำพูดของเขาก็เล่นกินเอาๆซะขนาดนั้น ทั้งสองคนนั่งกินไปพักใหญ่ ซึ่งส่วนมากคนที่กินจะเป็นยีนซะมากกว่าปริ้นซ์เองก็อดแปลกใจไม่ได้เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่กินเยอะชะมัด
“อิ่มไหม..”ปริ้นซ์แกล้งถาม
“…อย่าล้อสิครับ”ยีนว่าอย่างเขิลๆ เพราะเขาก็ไม่คิดว่าจะกินหมดเหมือนกันแต่มันก็อร่อยจนลืมตัวรู้อีกทีก็หมดแล้ว ปริ้นซ์ปล่อยให้ยีนนั่งเขิลไปส่วนเขาก็ลุกจากเก้าอี้ และเริ่มเก็บของที่อยู่บนโต๊ะ
“เดี๋ยวผมเก็บเอง..พี่ปริ้นซ์ไม่ต้องเก็บหรอก”ยีนรีบพูดเพราะค่าอาหารปริ้นซ์ก็ออกให้แล้วถ้าจะให้ปริ้สเก็บอีกคงไม่ดีแน่
“จะเก็บเอง…”ปริ้นซ์ว่าเสียงเรียบ
“แต่ว่า..”
“ไปนั่ง…”ปริ้นซ์แกล้งว่าเสียงดุ เขารู้สึกว่าอยากให้ยีนได้นั่งเฉยๆได้พักบ้าง ยีนพอโดนดุก็เลยต้องเดินหน้าหงอยไปนั่งที่โซฟาอย่างเงียบๆปริ้นซ์เองพอเก็บของเสร็จเขาก็เดินไปนั่งข้างยีน
พรึบ
“……..”ปริ้นซ์จับไปที่หัวของยีนเบาๆและดันให้ยีนมาซบที่ไหล่เขา ก่อนที่เขาจะลดมือลงแล้วไปโอบไว้ที่เอวก็ยีนหลวมๆยีนหันไปมองหน้าปริ้สอย่างตกใจนิดๆแต่ก็เห็นว่าปริ้นซ์ก็ยังคงทำหน้านิ่งๆและจ้องไปที่ทีวีเท่านั้น ไม่รู้ทำไมพอปริ้นซ์ทำแบบนี้ความน้อยใจที่เคยมีก็หายไปหมด ยีนอมยิ้มนิดๆและขยับตัวพิงปริ้นซ์มากขึ้น เขานั่งดูทีวีอยู่สักพักไปนานก็หลับไป
“หลับซะแล้ว…”พอเห็นว่ายีนเงียบไปปริ้นซ์เลยก้มหน้ามาดูก็เห็นว่าคนตัวเล็กหลับไปซะแล้ว ปริ้นซ์ขยับตัวยื่นขึ้นโดยที่มือของเขาก็ยังประคองตัวของยีนไว้อยู่ แล้วเขาก็อุ้มยีนขึ้นมาเพื่อพาไปนอนในห้อง
“จุ๊บ..ฝันดีนะ..เด็กน้อย”
……
วันต่อมา
เช้าวันนี้ปริ้นซ์พายีนออกมาเที่ยวข้างนอก เขากะว่าจะพายีนไปเดินเล่นตลาดน้ำดอนหวาย ยีนเองพอได้ยินเขาก็อดตื่นเต้นได้ แล้วตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนก็อยู่บนรถเพื่อที่จะเดินทางไปที่ตลาด
“จะถึงหรือยังครับ…”ยีนถาม ปริ้นซ์ส่ายหัวนิดๆเพราะนี้ยีนถามเขามาเป็นรอบที่สี่ได้แล้วมั้ง
“อีกแป๊ปนึง..”ปริ้นซ์ตอบ
“เมื่อกี่พี่ก็พูดแบบนี้อะแต่ทำไมมันยังไม่ถึงซักทีละครับ”ยีนพูดอีก ปริ้นซ์เอื้อมมือมาลูบผมยีนเบาๆ
“อย่างอแง…เดี๋ยวก็ถึง”ปริ้นซ์บอกเสียงนิ่ม
“ครับ…พี่ปริ้นซ์!!..ระวัง!!”
เอี้ยดดดดดดดด!!!!!
โครมมมมมมมมม!!!!!
รถสองคันที่พุ่งชนกันหมุนควงอยู่กลางถนน ก่อนที่รถที่ถูกชนจะไถลไปหยุดที่เกาะกลางถนน ซึ่งในรถนั้นก็มีชายสองคนที่มีนัดหมายที่จะไปเที่ยวตลาดน้ำกันในวันนี้ ผู้คนที่เห็นเหตุการ์ณรอบข้างก็พากันโทรขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลและมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้เคาะร้ายทั้งสองคัน
ณ โรงพยาบาล
ร่างของผู้บาดเจ็บทั้งสี่คนถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อรับการรักษา ทั้งสี่คนอาการสาหัสพอดูแต่ที่หนักสุดคงจะเป็น ปริ้นซ์ เพราะตอนที่รถเกิดอุบัติเหตุไม่รู้ว่าเพราะอะไรปริ้สโน้มตัวไปกอดยีนไว้แน่นทำให้ปริ้นซ์กลายเป็นคนที่รับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นซะเป็นส่วนใหญ่
การรักษาของทั้งสี่คนเป็นไปได้ด้วยดีเพราะหักหลบด้วยกันทั้งคู่เลยบาดเจ็บกันไม่หนักมากนัก และหลังจากที่รู้เรื่องของลูกชายเขา คาลอสพ่อของปริ้สซ์รวมถึงแม่ของเขาก็มาเยี่ยมด้วย ทั้งสองคนมองปริ้นซ์ที่นอนหลับอยู่ที่เตียงโดยที่หัวก็ยังคงมีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ ตามร่างกายก็มีรอยฟกช้ำเล็กน้อย และปริ้นซ์เองก็หลับไปได้สองวันแล้ว ส่วนคู่กริณีพ่อของเขาก็เคลียเรียบร้อยแล้ว
ก๊อกๆ
“ขออนุญาติครับคุณท่าน…….คุณยีนเขามาขอเยี่ยมคุณชายนะครับ”เสียงบอดิการ์ดของคาลอสพูดขึ้น เขาหันไปมองบอดิการ์ดของเขานิดๆ
“อืม..ให้เข้ามาสิ”เขาบอก บอดิ้การ์ดของเขาที่ได้ยินคำอนุญาตของผู้เป็นนาย ก็เดินออกจากประตูไปอีกครั้งเพื่อพาร่างบางเข้ามาในห้อง
“สวัสดีครับ..คุณลุงคุณป้า”ยีนยกมือไหว้พ่อแม่ของปริ้นซ์ เขาเองก็ยังคงอยู่ในชุดคนไข้ แต่เขาแค่มีรอยฟกช้ำตามตัวเท่านั้นไม่ได้มีบาทแผลที่ใหญ่
“สวัสดีจ๊ะ…มานั่งข้างปริ้นซ์ก่อนสิลูก”แม่ของปริ้นซ์บอกโดยที่เธอก็เดินมาเจ็บแขนยีนเบาๆและพายีนไปนั่งที่เก้าอีกข้างเตียงปริ้นซ์ ส่วนพ่อของปริ้นซ์เพียงแต่พยักหน้ารับไหว้เท่านั้นแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ขอบคุณนะครับ…”ยีนพูดกับแม่ของปริ้นซ์พร้อมยิ้มบางๆก่อนที่เขาจะหันหน้าไปมองคนที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ยีนเอื้อมือไปจับมือของปริ้นซ์กุมไว้
“เมื่อไรจะฟื้นสักทีละครับ..ผมรอพี่อยู่นะ”ยีนพูดถึงแม้เขาจะรู้ว่าคำพูดของเขาคนที่นอนอยู่คงจะไม่ได้ยินก็ตาม
“อึกก..ถ้าพี่ไม่ยอมตื่นตอนนี้.ฮึกก..ผมจะไม่คุยกับพี่แล้วนะ”ยีนพูดอีกเขาพยายามที่จะระงับอารมณ์ของเขาไว้แต่มันก็ยากเกินกว่าเขาจะทำได้
“…………….พี่ปริ้นซ์”ยีนเรียกปริ้นซ์เสียงเบาเพราะจู่ๆมือที่เขากุมไว้ก็ขยับขึ้นมา
“อืออออ..”คนบนเตียงครางออกมานิดๆก่อนที่ดวงตาคมจะค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆพอๆกับที่ยีนลุกจากเก้าอี้อย่างตื่นเต้น
“คุณลุงคุณป้าครับ.พี่ปริ้นซ์ฟื้นแล้ว!!”ยีนหันไปพูดบอกพ่อแม่ยีนอย่างตื่นเต้น ทั้งสองคนรีบลุกขึ้นมาดูลูกชายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว แต่คาลอสก็ไม่ลืมที่จะกดปุ่มเรียกหมอให้มาตรวจลูกชายของเขา ไม่นานหมอและพยาบาลก็เข้ามาทั้งสามคนเลยขยับไปอยู่ด้านปลายเตียงแทนเพื่อให้หมอตรวจได้ถนัด
“ขอหมอตรวจหน่อยนะครับ…..เดี๋ยวคนไข้มองตามนิ้วหมอนะครับ………..ตอนนี้รู้สึกปวดตรงไหนมากเป็นพิเศษไหมครับ”หมอใช้ไฟฉายเล็กส่องไปที่ตาของปริ้นซ์โดยที่ให้ปริ้สมองที่นิ้วของเขาเพื่อเช็ดความปกติของดวงตาก่อนที่หมอจะพูดถามอีก
“แค่หัว…”ปริ้นซ์ตอบไปสั้นๆเหมือนเดิม
“ถ้างั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาแก้ปวดให้นะครับ…แล้วอีกสักพักเดี๋ยวจะให้คนมาพาคุณไปสแกนร่างกายเพื่อความแน่ใจอีกครั้งนะครับ”หมอพูดจบทั้งเขาและพยาบาลก็เดินออกไป ปริ้นซ์เองก็ค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งและแม่ของเขาก็เขาไปช่วยประคอง ส่วนยีนได้แต่ยืนนิ่ง ความรู้สึกเขาก็ดีใจมากที่ปริ้นซ์ฟื้นขึ้นมาแต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงขยับตัวไม่ได้
“ผมขอน้ำ..”ปริ้นซ์พูดกับแม่ของเขา แม่ของเขาก็รีบหยิบน้ำมาให้ ปริ้นซ์รับมาดื่มเกือบครึ่งแก้วแล้วส่งคืนให้แม่เขาไป
“เป็นยังไงบ้าง..”พ่อของเขาพูดถาม
“ก็ดีครับ….แล้วนั้น.ใคร”ยีนรู้สึกเหมือนว่าเขาหยุดหายใจไปช่วงขณะ หัวใจเหมือนถูกบีบจนรู้สึกเจ็บไปหมด ดวงตาของเขาสั่นระริก
“พี่ปริ้นซ์..”เสียงทีเปล่งออกมาเบาราวกระซิบ
“ปริ้นซ์นี่ลูกจำ..”
“คุณ!!..ไม่มีอะไรหรอกเจ้าปริ้นซ์เด็กคนนี้แค่เข้าห้องผิด”พ่อของปริ้นซ์พูดออกเสียงดัง แม่ของปริ้นซ์ได้แต่มองสามีตนเองอย่างไม่เข้าใจ
“งั้นหรอ..”คำพูดที่เหมือนคำถามถูกพูดของมาจากร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงโดยที่สายตาเขาก็ยังมองอยู่ที่ร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่
“คะคือ..ผมขอโทษนะครับ.ผะผมขอตัวก่อน”ยีนเงยหน้ามาพูดแบบรัวๆแล้วเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที
“อย่าพูดอะไรนะคุณ…..เดี๋ยวมา”ประโยคแรกพ่อปริ้นซ์หันไปพูดกับแม่ของปริ้นซ์เบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดากับอีก
ประโยค คาลอสเดินออกจากห้องมาก็เห็นว่ายีนยังยืนอยู่แถวหน้าห้อง
“นี่เธอ..”คาลอสเรียกยีนที่กำลังยืนหันหลังให้เขา ถึงยีนจะหันหลังให้เขาแต่คาลอสก็ดูออกว่ายีนเช็ดน้ำตาก่อนที่จะหันมาหาเขา
“ครับ..”
“เธอรู้ใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงพูดกับเจ้าปริ้นซ์แบบนั้น”
“ครับ.”
“ถ้างั้นฉันก็หวังว่าเธอจะเข้าใจนะ..ไหนๆเจ้าปริ้นซ์มันก็จำเธอไม่ได้แล้ว..ฉันก็คิดว่าถ้าควรจะออกห่างจากลูกชายของฉันคงจะดีกว่า”ยีนเม้มปากแน่น เขาควรจะทำยังไงดี
“ผมเข้าใจความหมายของคุณลุง
ครับ..เพราะงั้นผมจะทำตามที่คุณลุงต้องการ…”ยีนเขารู้ดีว่าเขาไม่ได้มีอะไรคู่ควร
กับยีนได้เลย เป็นแบบนี้กก็อาจจะดีกว่าก็ได้
“ก็ดี..แต่ไม่ต้องห่วงนะ.เดี๋ยวฉันจะให้เงินเธอสักก้อนละกัน.ถือซะว่าเป็นของปลอบใจ”ยีนเผลอกำหมัดแน่นอยากลืมตัว
“ไม่จำเป็นครับ..ผมไม่ได้ต้องการเงินของคุณ..เก็บไว้เถอะครับ...ผมขอตัว”ยีนพูดอย่างเรียบๆเขาต้องยอมรับว่าเขาโกรธพ่อของปริ้นซ์เพราะคำพูดที่ออกมามันเหมือนดูถูกเขาชัดๆซึ่งเขาไม่โอเค พูดจบยีนก็เดินกลับเขาไปในห้องของเขาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปจากที่นี้
“แปลกดี”
…..
ยีนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ลงมาจากห้องที่เขาพัก ยีนเครียดนิดหน่อยเพราะตอนนี้ที่ตัวเขาไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาทแล้วเขาจะกลับบ้านได้ยังไง แต่สุดท้ายเขาก็พอคิดได้ว่าต้องทำยังไง ยีนเดินไปที่เคาเตอร์ประชาสัมผัสของโรงพยาบาล
“เอ่อ..ขอโทษนะครับ”ยีนพูดเรียกพยาบาลสาวคนนึงที่กำลังก้มเขียนเอกสารอะไรสักอย่าง
“คะ..มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ”พยาบาลเงยหน้าขึ้นมาถาม
“คือผมขอยืมโทรศัพท์ได้ไหมครับ”ยีนถามพร้อมกับชี้ไปที่โทรศัพท์ที่เป็นแบบโทรศัพท์บ้าน
“ได้คะ..ตามสบายเลยคะ”พยาบาลพูดตอบยิ้มๆ
“ขอบคุณนะครับ….”ยีนบอก แล้วเขาก็กดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทของเขาคนนึง
“(ครับ..ใครครับ)”เจ้าของสายพูด
“กาย…นี่กูเอง.ยีน”
“(ไอ้ยีน!!..เชี้ย.นี้มึงหายไปไหนมาวะ!.รู้ปะเนี้ยว่ากูหามึงแทบตาย..)”กายตะโกนออกมาอย่างตกใจเมื่อเพื่อนที่หายไปเกือบสี่วันแต่ตอนนี้เพิ่งติดต่อมา
“เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง..แต่ตอนนี้มึงมารับกูที่โรงพยาบาลxxได้ไหมวะ”
“(เออๆ..เดี๋ยวกูรีบไป)”ยีนหันไปขอบคุณพยาบาลอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะพาตัวเองไปนั่งๆแถวๆเก้าอี้ที่ว่างๆอยู่
สักพักใหญ่
“ไอ้ยีน!...”เสียงเรียกชื่อของเขาดังขึ้นทำให้ยีนที่กำลังก้มหน้ามองพื้นอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็เห็นว่าเพื่อนของเขากำลังเดินมาทางเขา ยีนลุกขึ้นยืน
หมับ!
“แม่งหายไปไหนมาวะ…กูเป็นห่วงแทบแย่”กายดึงยีนไปกอดแป๊ปนึงก็ผละออก
“ขอโทษนะ.”ยีนพูดเสียงเบาเขาเองก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ทำให้เพื่อนเป็นห่วง
“มึง..เป็นไรหรือเปล่าวะ”กายพูดถามเพราะสังเกตว่าเพื่อนของเขาดูแปลกๆไป
“เปล่า..เอ่อไอ้กายกูขอไปอยู่ที่ห้องมึงก่อนได้ป่าววะ..กูไม่อยากกลับบ้านเลยวะ”ยีนบอกอีก ใจจริงเขาก็เกรงใจกายแต่เขาก็ไม่รู้จะไปไหนดี
“ได้ดิวะ..มึงจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ตามสบายเลย”
“อืม..ขอบใจนะ”
“งั้นก็ไปกันเถอะ..”ยีนพยักหน้า กายพายีนกลับไปที่รถเพื่อไปยังคอนโดเขา
……
คอนโดกาย
“อะน้ำ..”กายเอาน้ำมาวางที่โต๊ะตรงหน้ายีน
“ขอบใจ..”ยีนบอก กายนั่งลงข้างยีน
“อะ..แล้วทีนี้มึงจะบอกกูได้ยังว่ามึงหายไปไหนมา”กายถาม
“พอดีมันมีเรื่องนิดหน่อยวะ..ไม่มีอะไรมากหรอก”ยีนตอบปัดๆ
“ไอ้ยีน..มึงตอบกูมาดิว่ามึงกับกูเป็นเพื่อนกันมากี่ปี”
“5ปี..”
“เออ!.5ปีแล้ว..กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมา5ปี.มันไม่พอให้มึงเชื่อใจกูเลยหรอวะ”น้ำเสียงของกายดูตัดพ้อนิดๆ
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเว้ย…กูแค่..คือ”ยีนอึกอักนิดหน่อยที่จะบอก
“คืออ..”
“เออๆ..กูเล่าก็ได้…คืองี้…”ยีนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเกือบทั้งหมดให้กายฟัง กายเองก็นั่งฟังนิ่งๆแต่ไม่ได้พูดอะไร
“สรุปคือ.แม่เลี้ยงมึงเอามึงไปขัดดอกแต่มึงหนีออกมาได้แล้วคนที่ชื่อปริ้นซ์เขาก็ช่วยมึงไว้แต่เมื่อสองวันก่อนเกิดอุบัติเหตุเขาเลยจำมึงไม่ได้และพ่อของเขาก็ไล่มึงไม่ให้เขาใกล้ลูกชายเขาว่างั้น”กายสรุปแบบย่อๆตามที่เขาเข้าใจ
“อืม..ใช่”
“งั้นกูขอพูดอะไรหน่อยนะ.ข้อแรกนะ.ทำไหมแม่เลี้ยงมึงแม่งทำกับมึงแบบนั้นวะ..ข้อสองมึงหน้าจะบอกกู..กูจะได้ไปช่วยมึงก่อน..ข้อสาม..มึงรักคนที่ชื่อปริ้นซ์อะไรนั้นแล้วใช่ไหมวะ”ข้อสุดท้ายทำเอายีนสะอึกไปเหมือนกัน
“กู..กู.ไม่รู้วะ”ยีนบอกเสียงแผ่ว
“เออ..ไม่เป็นไร.มึงไม่ต้องตอบก็ได้…แต่คราวหน้าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีกมึงต้องรีบบอกกู”
“อืม….”ยีนรับคำสั้นๆกายเองก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วพวกเขาก็ทำกิจวัตประจำวันทั่วไปด้วยกันตามประสาเพื่อนเพราะตอนนี้ยังไม่เปิดเทอม แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วันยีนก็ไม่เคยลืมปริ้นซ์เลย และหลายคืนที่ผ่านมันก็ทำให้ยีนรู้เลยว่าตอนนี้เขาคงกลายเป็นโรคนอนไม่หลับไปซะแล้ว
…..
ห้าวันต่อมา
ณ บ้านของปริ้นซ์ หลังจากที่ปริ้นซ์อาการดีขึ้นพ่อของเขาก็ทำเรื่องให้เขาออกจากโรงพยาบาลและพาพักที่บ้าน อีกอย่างแผลของปริ้นซ์เองก็ดูเหมือนจะสมานตัวค่อนข้างเร็ว เขาเลยแค่แปะเพียงผ้าก๊อตแผ่นเล็กๆเท่านั้น
และตอนนี้ปริ้นซ์ก็กะว่าเขาจะเดินออกไปนั่งเล่นที่สวนสักหน่อยแต่ตอนที่เขากำลังจะเดินผ่านของทำงานของพ่อเขา เขาก็ต้องหยุดเดินซะก่อน
“ทำไมคุณพี่ทำแบบนี้คะ..”เสียงแม่ของเขาพูดออกมา ปริ้นซ์เดินไปยืนข้างประตูอย่างเงียบๆ
“ผมทำอะไร..”พ่อปริ้นซ์พูดถามอย่างไม่สนใจนัก
“ยังจะมาถามอีก.คุณก็รู้ว่าปริ้นซ์เขารู้สึกยังไงกับหนูยีน..แล้วทำไมคุณถึงไปกีดกันพวกเขาแบบนั้นคะ”
“แล้วยังไง..คุณคิดว่ามันดีแล้วหรือไงที่จะให้เจ้าปริ้นซ์มันมาคบกับผู้ชายด้วยกันเอง..คุณไม่คิดว่าเรื่องนี้มันน่ารังเกียจเลยหรือไง”
“แล้วทำไมคะ..การที่ลูกเรามีความรักมันผิดตรงไหน..ฉันไม่เห็นว่ามันจะน่ารังเกียจตรงไหน..คุณก็รู้ว่าปริ้นซ์เขาให้ความสำคัญกับหนูยีนมากขนาดไหนทั้งที่เขาก็ไม่เคยสนใจใครแบบนี้เลย..ฉันรู้สึกว่าปริ้นซ์เขาอ่อนโยนขึ้นมากเวลาอยู่กับหนูยีน..คุณก็รู้ไม่ใช่หรอ”แม่ของปริ้นซ์ว่าอีก เพราะเธอรู้ว่าคาลอสเขาให้คนติดตามดูพฤติกรรมของปริ้นซ์และยีนและก็เห็นว่าปริ้นซ์อ่อนโยนแค่ไหน ปริ้นซ์ที่ยืนฟังอยู่ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาจนเขาต้องยกมือขึ้นมาจับหัวของตัวเองไว้ ภาพหลายๆอย่างที่หายไปก็ค่อยๆฉายออกมาในหัวเขา ช่วงเวลาสั้นๆที่เขากับยีนเคยอยู่ด้วยกันมันก็กลับมาจนหมด นี่สินะคือสิ่งที่เขารู้สึกเหมือนอะไรหายไป
“แล้วอีกอย่างนะคะ…ฉันรู้นะว่าที่หนูยีนหายไปเป็นเพราะฝีมือคุณ”ปริ้นซ์ไม่รอให้ใครพูดอะไรต่อเขาเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง จนสองคนในห้องอดตกใจไม่ได้
“เจ้าปริ้นซ์..ทำไมไม่เคาะก่อน”คาลอสว่าเสียงเรียบ เขาคิดว่าลูกชายอาจไม่ได้ยิน
“พ่อทำอะไร…”คาลอสขมวดคิ้วนิดๆกับคำถามของลูกชายเขา
“ฉันก็ทำงานอยู่นะสิ..”
“ผมหมายถึงยีน..”พ่อแม่ของปริ้นซ์ชะงักทันทีที่ได้ยินปริ้นซ์พูดชื่อของยีนออกมา
“แกพูดอะไร.ฉันไม่รู้เรื่อง.”พ่อเขาปฏิเสธอีก
“จะไม่พูดใช่ไหม….ได้”ปริ้นซ์ว่าเสียงเย็นจนแม่แต่พ่อแม่เขาก็อดรู้สึกกลัวนิดๆ
“ผมจะบอกให้นะผมจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว..และตอนนี้ผมขอเตือนไว้เลยนะ..ถ้าพ่อแตะต้องหรือทำอะไรยีนอีกแม้แต่นิดเดียว…อย่าหาว่าผมเลวก็แล้วกัน”ปริ้นซ์พูดอีกก่อนที่เขาจะเดนออกจาห้องไปโดยไม่สนใจเสียงของพ่อเขาที่โวยออกมาเสียงดัง ปริ้นซ์ออกจากบ้านของพ่อเขาแล้วกลับไปที่คอนโด
....................................................................
9/11/63