ตอนที่ 7
ป้าบัวหัวเราะอีก ครั้นแล้วก็รีบอธิบายว่า
“เอ่อ…ไม่เชิงว่าพ่อเลี้ยงจะเป็นผู้มีอิทธิพลหรอกนะคะ ป้าว่าน่าจะเรียกว่ามี ‘บารมี’ มากว่า พ่อเลี้ยงเป็นคนใจนักเลงก็จริง แต่ก็ใจคอกว้างขวาง และความมีน้ำใจของพ่อเลี้ยงนั่นเองที่ทำให้ผู้คนยำเกรง ไม่มีใครกล้ามากระตุกหนวดเสือ ส่วนเรื่องที่ว่าพ่อเลี้ยงมีคนเป็นจำนวนมากที่ต้องรับผิดชอบดูแลนั่นก็จริงค่ะ เพราะคนงานในสวนส้มที่เห็นอยู่นี้รวมๆแล้วก็เกือบร้อย” ป้าบัวอธิบาย
“จำเป็นหรือเปล่าคะ…ว่าคนที่ถูกเรียกว่าพ่อเลี้ยงจะต้องมีอายุเยอะ” ดาหลายังไม่หายสงสัย
“ไม่เกี่ยวกับอายุค่ะ หนุ่มๆก็เป็นพ่อเลี้ยงได้ ถ้ามีบารมี มีฐานะเป็นเจ้านาย ส่วนผู้หญิงก็จะเรียกว่า ‘แม่เลี้ยง’ ค่ะ”
“นั่นกำลังจะมีงานกันใช่มั้ยคะ”
อัญชันถาม ขณะทอดสายตาไปยังคนงานที่กำลังช่วยกันจัดโต๊ะ เก้าอี้ ประดับไฟดวงเล็กๆหลากสีสันพันรอบโคนต้นไม้ สูงขึ้นไปถึงกิ่งก้าน บ้างก็ช่วยกันสูบลูกโป่งเอามาประดับประดาไว้ตามซุ้มที่โค้งขึ้นจากเวทีเล็กๆ ยกสูงขึ้นมาจากพื้นราวๆครึ่งเมตรเห็นจะได้ ข้างๆเวทีประดับประดาด้วยก้อนฟาง สลับกับถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่หลายใบที่ใช้ในการหมักบ่มไวน์
“ใช่ค่ะ…คนงานกำลังเตรียมสถานที่ สงสัยคุณอัญลืมไปกระมังคะ หรือว่าพ่อเลี้ยงยังไม่ได้บอกว่าคืนนี้เป็นวันสิ้นปีพอดี พ่อเลี้ยงเลยถือโอกาสเคาท์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปพร้อมๆกับจัดงานเลี้ยงต้อนรับการมาเยือนของคุณอัญชันกับลูกสาวด้วยค่ะ”
“ถึงขนาดนั้นเชียวหรือคะป้าบัว?” อัญชันทำตาโต
“แน่สิคะ…เมื่อสองวันก่อน พอรู้ว่าคุณกับลูกสาวจะมาแน่ๆ พ่อเลี้ยงก็รีบสั่งการให้คนเตรียมงานต้อนรับคุณยกใหญ่”
“อันที่จริงไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ พลอยจะให้คนงานวุ่นวายกันเสียเปล่าๆ”
“อุ๊ย...ดีซะอีกค่ะ พวกคนงานก็ชอบนะสิคะ นานๆจะมีงานเลี้ยงรื่นเริงกันสักครั้ง สนุกสนานกันสิไม่ว่า ต้องขอบคุณการมาเยือนของคุณและลูกสาวถึงจะถูก”
“ดูนั่นสิคะแม่”
ดาหลาร้องบอก เมื่อแลไปเห็นม้าตัวใหญ่หลายตัวที่แระเล็มหญ้า เฉียดเข้ามาในมุมสายตา ใกล้ๆกับเวที ยิ่งทำให้ภาพที่เห็นราวกับว่าพลัดหลงเข้ามาในเมืองคาวบอยยังไงยังงั้น
“ยังกะหลุดเข้ามาในไวโอมิ่งแน่ะแม่” ดาหลารำพึงเบาๆ
“แม่ว่าคล้ายมอนตาน่ามากกว่าจ้ะ”
ที่สองแม่ลูกกล่าวถึงคือรัฐไวโอมิ่ง (Wyoming) และ มอนตาน่า (Montana) ซึ่งเป็นถิ่นคาวบอยในประวัติศาสตร์ อยู่ทางภาคตะวันตกของอเมริกา เรื่องราวของมันมักจะไปปรากฏอยู่ในหนังคาวบอยคลาสสิกหลายๆเรื่อง
“ชรัมภ์…เอ่อ พ่อเลี้ยงจะกลับมาทันงานเลี้ยงมั้ยคะ”
อัญชันถาม เรียกชื่อชรัมภ์ด้วยความสนิทสนม ก่อนจะฉุกคิดได้ว่าเธอควรจะเรียกชื่อของเขา เหมือนๆกับที่คนอื่นเรียก
“แน่นอนค่ะ ลุงสไวกำลังออกไปรับแล้วค่ะ เสร็จธุระแล้วพ่อเลี้ยงจะนั่งเครื่องมาจากกรุงเทพฯ ไม่นานก็ถึงค่ะ ว่าแต่ตอนนี้ป้าจะพาไปดูที่พักก่อนนะคะ”
กล่าวจบป้าบัวก็กวักมือเรียกคนงานที่เตรียมรถโฟล์คกอล์ฟเอาไว้รอท่า เพื่อจะพาสองแม่ลูกไปยังเรือนรับรองที่พ่อเลี้ยงสั่งให้เตรียมเอาไว้
และเมื่อมาถึงห้องพัก ทั้งอัญชันและดาหลาพอใจมากกับความใหญ่โตโออ่า แม้จะเป็นเรือนไม้ ทว่าทุกอย่างก็แลดูสะอาดสะอ้าน ด้วยสถานที่ตั้งของมันอยู่บนเนินสูง เมื่อทอดสายตาผ่านหน้าต่างออกไปจึงแลเห็นทิวเขา ทุ่งหญ้า และไร่ส้มทอดแนวยาวสุดลูกหูลูกตา ทัศนียภาพที่เห็นล้วนสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนเป็นยิ่งนัก
“แม่ขอตัวไปสำรวจห้องพักก่อนนะจ๊ะ”
อัญชันหันมาบอกลูกสาว ก่อนจะเดินแยกออกมา เพราะห้องของดาหลาแยกออกไปทางซ้าย แต่ก็อยู่ไม่ไกลกัน สาวใช้สองคนเดินตามหลังมาห่างๆ รอให้เธอเรียกใช้
เมื่อมาถึงเรือนพัก
“ดูห้องน้ำนั่นสิ เก๋ชะมัด…”
อัญชันเอ่ยขึ้นลอยๆ ชะโงกใบหน้ามองห้องน้ำซึ่งล้อมเอาไว้ด้วยปีกไม้ พุ่มใบหนาทึบของต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์ที่ปลูกเอาไว้รอบๆยิ่งทำให้ภายในห้องน้ำนั้นดูร่มรื่น รอยห่างระหว่างรอยต่อของแผ่นไม้ที่ตีล้อมเป็นผนังยิ่งดูมีเสน่ห์เมื่อมีแสงแดดอ่อนๆสาดลอดมาจากภายนอก อีกทั้งหลังคาก็โล่งจนแลเห็นก้อยเมฆ พื้นห้องน้ำที่โรยเอาไว้ด้วยกรวดละเอียดสลับไปกับกระเบื้องแผ่นหยาบ เลียนแบบผิวของหินในธรรมชาติ ยิ่งช่วยให้ทุกๆอย่างดูกลมกลืน ไม่ขัดแย้ง แต่ที่ถูกใจอัญชันเอามากๆเห็นจะเป็นโอ่งดินเผาสีน้ำตาลใบใหญ่ที่ใส่น้ำเต็มเปี่ยม เอาไว้ให้ตักอาบ
“มีห้องน้ำด้านในด้วยนะคะ ถ้าคุณอัญชันเห็นว่าหลังคาชมดาวออกจะโล่งโจ้ง วาบหวิวไปหน่อย ที่ห้องน้ำด้านในจะมีฝักบัวค่ะ แต่ถ้าอยากอยากอาบตรงนี้ต้องตักอาบจากโอ่งนะคะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ อัญชอบค่ะ นานๆครั้งถ้าได้อาบน้ำแบบตักจากโอ่งบ้างก็ดีเหมือนกัน เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ”
“ดีที่คุณอัญชอบ” ป้าบัวยิ้มหน้าบาน
“แล้วปกติพ่อเลี้ยงนอนที่ไหนคะ”
คิ้วโค้งราวคันศรของอัญชันขมวดเล็กน้อยขณะถาม
“อยู่ด้านนี้ค่ะ…แต่บางคืนที่พ่อเลี้ยงไม่ได้เข้ามานอนที่ห้องนี้ แกก็มักจะไปนอนที่บ้านอีกหลัง เป็นเรือนเล็กที่อยู่ท้ายไร่ส้มค่ะ รายนั้นกินง่ายอยู่ง่าย บางครั้งก็กินข้าวกับคนงาน”
ป้าบัวผายมือไปทางขวา ห้องนอนของชรัมภ์ขนาบเอาไว้ด้วยห้องของเธอและลูกสาว อีกทั้งป้าบัวยังสาธยายถึงความเป็นคนเรียบง่ายและติดดินของพ่อเลี้ยงชรัมภ์ที่ชอบไปนอนในเรือนหลังเล็กอยู่บ่อยๆ
การประพฤติปฏิบัติตัวหลายๆอย่างของชรัมภ์ที่ลงไปดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนงานอย่างใกล้ชิด ทำให้เขาเป็นที่รักของทุกๆคนในฟาร์มแห่งนี้
“ว่าแต่ชอบห้องพักมั้ยคะ”