บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 หวงโดยไม่รู้ตัว

ณ มหาวิทยาลัย

ภีมขับรถสปอร์ตคันใหม่เข้ามาในมหาวิทยาลัยและนำเข้าจอดที่หน้าคณะบริหารธุรกิจที่เขากำลังเรียนอยู่ปี 4 ไม่ต้องแปลกใจที่แม้ว่าเขาจะชื่นชอบการแข่งรถมาก แต่ทำไมไม่เรียนวิศวะ นั่นก็เพราะเขาจะต้องสืบทอดธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้ารถหรูต่อจากพ่อของเขายังไงล่ะ ต่างจากภูพิงค์ที่ได้เรียนคณะนิเทศศาสตร์ ตามที่อยากเรียน เพราะภูพิงค์จะรับผิดชอบด้านงานประชาสัมพันธ์ของบริษัท ภีมจอดรถแล้วเดินไปที่โรงอาหารที่อยู่ระหว่างตึกคณะบริหารกับคณะนิเทศ เพื่อหาอะไรกินก่อนไปเรียน

"อ้าว ภีมมาแล้วเหรอวะ" หมอกเพื่อนของภีมที่เดินมากับมะนาวน้องสาวของเขาทักทายภีมขึ้น เมื่อเจอกันที่หน้าโรงอาหาร

"อืม..." ภีมตอบกลับในลำคอเบา ๆ ตามสไตล์ของเขา

"ยินดีด้วยนะโว้ย สำหรับชัยชนะเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่เสาร์นี้กูจะไปลงแข่งที่สนามมึงด้วยนะ มึงคงไม่ชนะง่าย ๆ แน่" หมอกที่ชื่นชอบการแข่งรถเช่นกันพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้

"ขอบใจนะ ถ้ามึงคิดว่าเอาชนะกูได้ก็ไปสิ" ภีมตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"แล้วของเดิมพันวันเสาร์นี้มึงคิดว่าน่าจะเป็นอะไรดีวะ" หมอกถามกลับพร้อมกับทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ เพราะในแต่ละครั้งที่ลงแข่งของเดิมพันจะไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น แต่อาจจะเป็นของมีค่าทางจิตใจ รถของคนแพ้หรือศักดิ์ศรีของผู้แพ้ก็ได้ เพราะเงินนั้นพวกเขามีเยอะจนมันแทบจะไม่มีค่า... ถ้ามันไม่มากพอ

"แล้วแต่มึงก็แล้วกัน มีเงื่อนไขอะไรก็ว่ามา กูพร้อมเสมอ" ภีมตอบแล้วยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเขามั่นใจว่าเอาชนะได้อยู่แล้ว

"แสดงว่าวันเสาร์นี้ พี่ภีมจะลงแข่งด้วยตัวเองเหรอคะ ดีใจจัง เอาให้ชนะพี่หมอกเลยนะคะ มะนาวเชียร์พี่ภีมเต็มที่เลย" มะนาวที่ยืนฟังสองหนุ่มคุยกันอยู่ก็พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

"นี่ยัยมะนาว ให้มันน้อย ๆ หน่อย ฉันเป็นพี่แกนะ แกต้องเชียร์ฉันสิถึงจะถูก เดี๋ยวจะโดน" หมอกผลักน้องสาวออกห่างและชี้หน้าคาดโทษ

"พี่หมอกอะ" มะนาวทำหน้าขัดใจใส่พี่ชาย

"มะนาวเชียร์ไอ้หมอกได้เลย พี่มีคนไปเชียร์แล้ว ไปนะ" พูดจบภีมก็เดินจากไปทันที โดยไม่บอกว่าใครกันนะที่จะไปเชียร์เขา ที่ภีมรีบเดินออกมาก็เพราะสายตาของเขามองไปเห็นพีชเดินมากับเพื่อนชายคนหนึ่ง

ตอนนี้พีชเรียนคณะนิเทศ ปี 2 คณะเดียวกันกับภูพิงค์และไอ้คนนั้นที่พีชกำลังยิ้มให้ เขารู้ว่ามันชื่อไอ้คิว แต่ที่เขาไม่รู้คือทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดจัง ที่เห็นพีชยิ้มให้มัน ภีมเดินเข้าไปหาพีชที่ยืนอยู่กับคิวแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม ๆ

"มายืนอะไรตรงนี้ ทำไมถึงยังไม่ขึ้นไปเรียน"

"เอ่อ... กำลังจะขึ้นไปเรียนแล้วค่ะ พอดีพีชมายืนรอพี่พิ้งค์ก่อน พี่พิ้งค์กำลังเอาหนังสือมาให้ค่ะ" พีชตอบกลับไปอย่างตกใจที่เห็นภีมเดินมาหาด้วยสีหน้าเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง แถมเสียงที่ถามออกมาก็ดูเหมือนกำลังอารมณ์ไม่ดี ว่าแต่พี่ภีมไปอารมณ์เสียมาจากไหนเนี่ย

"หนังสืออะไร เรียนคนละปีไม่ใช่เหรอ" ภีมยังถามต่อด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ปกครองกำลังดุเด็กในปกครองยังไงยังงั้น

"เอ่อ... หนังสือเรียนคณะนิเทศนี่แหละค่ะ พี่พิ้งค์บอกว่าของพี่พิ้งค์มีจดโน้ตไว้ พีชเลยมารอพี่พิ้งค์" พีชตอบกลับไปตามจริงและชะโงกหน้ามองหาภูพิงค์ไปด้วย

"แล้วนั่นอะไร ทำไมไม่ถือหนังสือเอง มันหนักมากหรือไง" ภีมที่เหลือบไปเห็นหนังสือในมือของคิวก็ยิ่งหงุดหงิด เพราะเขาจำได้ว่ามันเป็นของพีช

"ผมอาสาถือให้พีชเองครับ" คิวตอบกลับอย่างนอบน้อม เพราะเขาเห็นภีมมารับมาส่งภูพิงค์กับพีชอยู่บ่อย ๆ คนนี้น่าจะเป็นพี่ชายของพีช

"....." ภีมไม่ตอบอะไรอีก แต่ใช้สายตามองพีช จนเธอต้องหันไปหาคิวแล้วขอหนังสือมาถือเอง

"คิว เอาหนังสือเรามาดีกว่า เดี๋ยวเราถือเอง"

"ทำไมล่ะ เดี๋ยวเราสองคนก็จะต้องไปเรียนด้วยกันแล้ว คิวถือให้เองก็ได้นะ ไม่เป็นไรเลย" คิวไม่ยอมคืนให้แถมยังพูดกับพีชอย่างสนิทสนมอีก

"แต่กูไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับหนังสือของพีช คืนให้พีชซะ ถ้าไม่อยากมีเรื่อง" ตอนนี้ภีมไม่ทนรักษามารยาทอีกแล้ว เขามองไปที่คิวด้วยสายตาที่แผ่รังสีอำมหิตเต็มที่ในเมื่อขอคืนดี ๆ ไม่ให้ก็ต้องจัดการเองซะแล้ว

"แล้วพี่เกี่ยว..."

"เอามา เดี๋ยวเราถือเอง" คิวยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ พีชก็พูดแทรกขึ้นและดึงหนังสือกลับมาถือไว้เองเพราะสายตาของภีมคือไม่น่าไว้วางใจมาก เหมือนระเบิดจะลง

ตึก ตึก ตึก

เสียงคนวิ่งมาทำให้พีชมองและยิ้มออกมาอย่างโล่งอก นางฟ้าของพีชมาแล้ว

"พี่พิ้งค์ ทางนี้ ๆ ค่ะ พีชอยู่นี่ค่าาา" พีชยกมือโบกเรียกคนที่วิ่งมาหาด้วยความดีใจ เพราะไม่ใช่แค่ภูพิงค์เอาหนังสือมาให้เท่านั้น แต่ยังมาถูกเวลาอีกด้วย แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่านางฟ้าของพีชได้ยังไงล่ะ

"แฮ่ก ๆ เอานี่หนังสือ นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว" ภูพิงค์นั่นเองที่วิ่งมาหาพีชที่ยิ้มแฉ่งรออยู่

"ขอบคุณนะคะพี่พิ้งค์" พีชรับหนังสือมาด้วยรอยยิ้ม

"อ้าว แล้วนี่แกมายืนทำอะไรตรงนี้ภีม ไม่ไปเรียนล่ะ" ภูพิงค์ที่เห็นคู่แฝดยืนหน้าเป็นยักษ์อยู่ก็ถามขึ้น ไอ้หมาขี้หวง คงหวงก้างอีกล่ะสิท่า

"ก็จะไปเรียนแหละ แต่เห็นพีชก่อนเลยเดินมาหา มีอะไรมั้ย" ภีมถามคู่แฝดกลับอย่างยียวนเหมือนกำลังหาที่ลงเพราะความหงุดหงิด

"เปล๊า ไม่มีอะไร" ภูพิงค์ยักไหล่ตอบ

"เอ่อ... งั้นพีชขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ นี่อาจารย์ก็น่าจะมาสอนแล้ว ป่ะ คิว เราไปเรียนกันเถอะ" พีชยกข้อมือที่มีนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมามองเวลาแล้วพูดขึ้น ก่อนจะพยักหน้าให้คิวแล้วเดินพากันขึ้นไปเรียน ภูพิงค์หันมามองคนที่มองตามหลังพีชไปจนลับสายตาและก่อนที่ภีมจะเดินไปที่คณะตัวเอง ภูพิงค์ก็พูดขึ้น...

"ชอบก็บอกน้องมันไป เปิดตัวกันไปเลย ฉันเชื่อว่าน้องไม่ติดนะ มาทำเป็นหมาหวงก้างอยู่ได้ น่ารำคาญ"

"เปิดตงเปิดตัวอะไร เพ้อเจ้อ ฉันก็แค่มายืนรอแกเป็นเพื่อนน้องก็เท่านั้น" ภีมไม่ยอมโดนต้อนให้จนมุมง่าย ๆ เขารีบปฏิเสธทันที

"จ้า ๆ เพ้อเจ้อ แล้วถ้าหมาตัวอื่นคาบไปกินก่อน อย่ามาร้องให้ช่วยก็แล้วกัน พ่อหมาหวงก้าง ไปล่ะ มีเรียนเหมือนกัน" พูดจบภูพิงค์ก็เดินขึ้นตึกไปเรียน ทิ้งให้ภีมยืนมองตึกคณะนิเทศด้วยสายตาที่คาดเดาได้ยาก

"หมาตัวไหนมันมายุ่ง กูจะถลกหนังหมาให้ดู" ภีมพูดกับตัวเองเมื่อคิดถึงหมาที่จะมายุ่งกับพีช

หลังจากนั้นภีมก็เดินกลับมาเรียนที่คณะของตัวเอง แต่ระหว่างเรียนก็ยังหงุดหงิดไม่หาย โดยที่เขาไม่รู้ว่าหงุดหงิดเพราะอะไร หงุดหงิดเพราะไม่ชอบหน้าไอ้คิวหรือเพราะเห็นพีชยิ้มให้มันหรือเพราะคำพูดของภูพิงค์ สุดท้ายภีมก็อดรนทนไม่ไหว เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาส่งข้อความหาพีชทันที

ภีม : เที่ยงนี้มากินข้าวที่คณะบริหารนะ

พีช : ไม่เอาค่ะ พีชไม่อยากเดินไกล และบ่ายก็มีเรียนด้วย

ภีม : อย่ามาดื้อกับพี่ / รูปสติ๊กเกอร์คนกอดอกยืนโมโห

พีช : งั้นพี่ภีมมารับที่คณะนิเทศสิ ได้มั้ยคะ

ภีม : อืม รอหน้าคณะได้เลย

พีช : เรียนก่อนนะคะ / รูปสติ๊กเกอร์บ๊ายบาย

ภีมยิ้มให้กับสติ๊กเกอร์ที่พีชส่งมา ก่อนจะตั้งใจกับการเรียนอีกครั้ง

--------

คิวหยุดเถอะ

ดูหน้าหลัวเค้าด้วย

พร้อมบวกมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel