บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 The Sun Pub

หลังจากที่วางสาย ตะวันก็รีบเดินไปหา นที หรือ ที ลูกน้องคนสนิทที่กำลังวุ่นอยู่ที่ชั้นล่างของผับทันที มีแขกหน้าหวานมาทั้งทีเขาก็ต้องต้อนรับให้สมฐานะหน่อย

"ไอ้ที เดี๋ยวน้องพั้นซ์จะมาที่ผับ มึงไปเตรียมโต๊ะที่อยู่ห่างจากโต๊ะพวกวัยรุ่นหน่อยนะ เห็นว่าจะมาฉลองเรื่องธุรกิจ" ทันทีที่เดินลงมาถึงชั้นล่างปากหยักก็เอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าท่าทางจริงจังทันที และไม่ลืมที่จะกำชับลูกน้องคนสนิทด้วยว่า จัดโต๊ะที่เป็นส่วนตัวให้ด้วย

"ได้ครับคุณตะวัน เดี๋ยวทีคนนี้จะจัดให้ครับ" นทีลูกน้องคนสนิทของตะวันเอ่ยตอบรับพร้อมกับรอยยิ้ม ทีเป็นลูกน้องคนสนิทของตะวันที่ทำงานกับตะวันมาตั้งแต่ตะวันพึ่งเปิดกิจการใหม่ ๆ พูดได้ว่าตั้งแต่ตะวันยังไม่มีชื่อเสียงจนกระทั่งตอนนี้เขาทั้งมีชื่อเสียงและติดอันดับมหาเศรษฐีที่รวยอันดับต้น ๆ ของประเทศ

สิ้นสุดคำพูดของนที ตะวันก็เดินไปนั่งรอที่ห้องทำงานของตัวเองเพราะมันเงียบและมีความเป็นส่วนตัวที่สุดแล้ว ส่วนนทีก็รีบนำลูกน้องคนอื่น ๆ ไปจัดเตรียมโต๊ะไว้รอลูกค้าสุดพิเศษให้เจ้านายของเขาทันที

(พั้นซ์)

หลังจากที่ตกลงจองโต๊ะกับทางเจ้าของผับอย่างตะวันแล้วเธอก็พาเพื่อนร่วมธุรกิจเดินทางไปยังผับของตะวันทันที โดยการเดินทางของทั้งคู่นั้นก็ไปรถส่วนตัวของใครของมันเพราะไม่ว่าจะลูกค้าคนสำคัญแค่ไหนพั้นซ์ก็จะไม่มีทางนั่งร่วมรถคันเดียวกันแน่นอน

The Sun Pub

19:40 นาฬิกา

หลังจากที่ขับรถราว ๆ 30 นาที ตอนนี้พั้นซ์กับมาร์คก็เดินทางมาถึงผับของตะวัน ตอนเกือบ 2 ทุ่ม ซึ่งเวลานี้ผับของตะวันก็เต็มไปด้วยวัยรุ่นและผู้คนมากมายแล้ว ช่างสมกับชื่อสถานที่ยอดฮิตเสียจริง ๆ

ทันทีที่ร่างบางเดินเข้ามาในผับสายตาของหนุ่ม ๆ ต่างก็จดจ้องมองมาที่เธอเป็นหนึ่งเดียว สาวสวยหน้าหวาน ผมยาว ผิวขาวที่เข้ากับชุดเดรสสีแดงรัดรูปจนเห็นทรวดทรงองค์เอวของเธอทำเอาหนุ่ม ๆ ที่ได้เห็นต่างก็อยากวิ่งเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอ

"พี่ที สวัสดีค่ะ พั้นซ์จองโต๊ะกับพี่ตะวันแล้วค่ะ" เสียงหวานเอ่ยสวัสดีนทีลูกน้องคนสนิทของเจ้าของผับ ซึ่งพั้นซ์กับนทีเองก็สนิทกันอยู่ในระดับหนึ่งเพราะพั้นซ์มาผับของตะวันค่อนข้างบ่อย

"อ้อ ๆ เชิญคุณพั้นซ์ทางนี้ครับ" ทันทีที่พั้นซ์พูดจบนทีก็เดินนำหน้าทั้งคู่ไปยังโต๊ะที่ได้จัดเตรียมไว้รอแล้วทันที ส่วนพั้นซ์กับมาร์คก็เดินตามไปติด ๆ ด้วยเช่นกัน

"คุณมาร์คสั่งได้เลยนะคะ" เมื่อเดินมาถึงโต๊ะที่ได้จองไว้แล้ว ปากสีสวยก็เอ่ยบอกหนุ่มหล่อชาวสิงคโปร์ด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มทันที

"ครับ งั้นผมขอเป็นไวน์แดง Shiraz ของ Penfolds แล้วกันนะครับ" หนุ่มหล่อชาวสิงคโปร์เอ่ยปากสั่งเครื่องดื่มพร้อมกับช้อนสายตามองร่างสวยที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ซึ่งมาร์คเองก็เป็นคนมีฐานะอยู่ในระดับหนึ่งของประเทศเพราะฉะนั้นเรื่องรสนิยมคงไม่ต้องพูดถึง

"ได้เลยครับ สักครู่นะครับ อ่อ คุณพั้นซ์รับเครื่องดื่มเหมือนเดิมนะครับ" ก่อนจะไปเคาน์เตอร์บาร์ นทีก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยปากถามสาวสวยหน้าหวานที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ซึ่งคำว่าเหมือนเดิมที่เขาเอ่ยออกไปนั่น แน่นอนว่าเขาต้องรู้ใจพั้นซ์อย่างแน่นอน

"ค่ะพี่ที จัดมาเลยค่ะ" พั้นซ์เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม และพอใจกับการบริการของทางผับเป็นอย่างมาก ถึงเธอจะเคยมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังชื่นชมกับการต้อนรับและบริการลูกค้าของผับแห่งนี้

"ครับ..." สิ้นสุดคำพูดของพั้นซ์ นทีก็หมุนตัวกลับแล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์บาร์ทันที

"ผมดีใจมากเลยนะครับที่ได้ร่วมธุรกิจกับบริษัทคุณพั้นซ์" เมื่อไม่มีนทีขวางหูขวางตาแล้วมาร์คก็รีบเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือหนาไปกุมมือเรียวของพั้นซ์เอาไว้อย่างตั้งใจ พร้อมกับสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ภายในใจของเขานั้นกลับคิดไปต่าง ๆ นานา

"ทางเราก็ยินดีเช่นกันค่ะ" พั้นซ์เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มมือเรียวที่ถูกกุมอยู่นั้นพลางค่อย ๆ ดึงออกมาอย่างมีมารยาท ซึ่งการที่มาร์คถึงเนื้อถึงตัวเธอเกินไปแบบนี้เธอก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก

"ผมขะ...."

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

ในขณะที่มาร์คกำลังจะเอ่ยปากขอโทษพั้นซ์ที่ล่วงเกิน แต่ทว่าเสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือมือที่ส่งเสียงร้องอยู่ในกางเกงออกมาดูทันทีว่าใครกันที่โทรมา ซึ่งทันทีที่เห็นเขาก็ถึงกับต้องเอ่ยขึ้น...

"เอ่อ... ผมขอตัวออกไปรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ"

"ค่ะ เชิญค่ะ"

สิ้นสุดคำพูดของพั้นซ์ มาร์คก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาตัวหรูแล้วเดินออกไปจากร้านเพื่อกดรับสายทันที เพราะสายที่กำลังโทรเข้ามานั้นเป็นสายของพ่อของเขานั่นเอง

'เป็นไงบ้าง เรียบร้อยดีมั้ย' เสียงปลายสายเอ่ยขึ้นเมื่อมาร์คกดรับสาย

"ก็เรียบร้อยดีครับ ทางนี้ไม่ได้สงสัยอะไรเราเลยครับ พรุ่งนี้ผมจะบินกลับ อาทิตย์หน้าผมถึงจะบินมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาเซ็นสัญญาครับ" เสียงทุ้มของมาร์คปรับเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก พร้อมกับเอ่ยตอบพ่อของเขาอย่างมั่นใจ แววตาของเขาตอนนี้ไร้ซึ่งความอ่อนโยนต่างจากที่เขาพึ่งแสดงออกต่อหน้าหญิงสาวเมื่อครู่ยิ่งนัก

'หึ ดี อย่าให้พลาดล่ะ แกรู้ดีว่าตอนนี้บริษัทของเราหมุนเงินไม่ทันแล้ว ทางที่ดีแกรีบทำให้หนูพั้นซ์เป็นเมียแกให้ได้ซะ !!' เสียงทุ้มเอ่ยสั่งผ่านสาย ใช่สองพ่อลูกคู่นี้วางแผนมาเซ็นสัญญาธุรกิจเพื่อคิดจะให้ลูกชายจับพั้นซ์ทำเมีย เพื่อที่จะได้ปรองดองกัน เพราะตระกูลของพั้นซ์จะช่วยทำให้บริษัทและการงานของครอบครัวพวกเขากลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง

หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ มาร์คก็รีบกดวางสายแล้วเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะที่มีสาวสวยนั่งรออยู่ทันที โดยไม่ทันได้สังเกตรอบ ๆ เลยว่ามีหนุ่มหล่ออีกคนที่มีดีกรีเป็นถึงเจ้าของผับแห่งนี้กำลังยืนฟังอยู่ เพราะเขาออกมายืนสูดอากาศก่อนหน้าที่มาร์คจะเดินออกมาอยู่แล้ว

เมื่อมาร์คเดินกลับเข้าไปข้างในจนลับสายตาแล้วตะวันก็รีบเดินตามเข้าไปเช่นกันและเดินตรงขึ้นไปยังห้องทำงานของเขาที่อยู่ชั้นสาม

15 นาทีผ่านไป...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ตะวันกำลังจ้องมองดูบรรยากาศในผับ ผ่านกระจกใสบานใหญ่ในห้องทำงานของเขาอยู่เพลิน ๆ

"เข้ามา..."

เมื่อเจ้าของห้องอนุญาต นทีที่ยืนรอคำตอบอยู่นั้นก็รีบเปิดประตูเข้ามาทันที ถึงเขาจะเป็นลูกน้องคนสนิทแต่เข้าก็มีมารยาทพอและแยกแยะออกว่าระดับของนายกับลูกน้องควรปฏิบัติต่อกันยังไง

"นายครับ ผมว่าผู้ชายที่มากับคุณพั้นซ์ดูแปลก ๆ นะครับ" หลังจากที่ยืนสังเกต นั่งสังเกตอยู่นานก็อดไม่ได้ที่จะนินทา เขาก็รีบเดินตรงมาหาเจ้านายที่ชั้นสามเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel