ตอนที่6 ประธานเอาแต่ใจ
ตอนที่6 ประธานเอาแต่ใจ
แก้วแนะนำทุกอย่างให้เธอเป็นอย่างดี รวมถึงเมนูไหนอร่อย อันไหนไม่อร่อย เธอรู้สึกว่าแก้วเป็นคนน่ารัก
อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เป็นคนคิดร้ายกับใคร
ตอนกินข้าว แก้วเอ่ยถามเธอ “ได้ยินมาว่าตอนอยู่ลอนดอน เธอได้รางวัลมาด้วยหนิ เก่งใช่ย่อยนะเธอเนี่ย” แก้วเอ่ยชมเธอ
เธอยิ้ม “ถ้าเป็นเธอ เธอก็ทำได้เหมือนกัน”
คำพูดนี้ทำให้แก้วรู้สึกดีขึ้น
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้ แต่การที่ไปเรียนถึงเมืองนอกมันเป็นความฝันของฉันเลยนะ” เธอก็เลยทำงานหนักเพื่อให้ฝันเป็นจริง
“ได้ทำงานที่นี่มันก็หมายความว่าเธอก็เก่งเหมือนกัน เพราะมีคนมากมายอยากเข้ามาทำงานที่นี่” จิดาภาพูดขึ้น
เธอพยักหน้ายิ้ม “มันก็จริง”
“ถึงแม้บริษัทจะเปิดตัวมาได้แค่สองปี แต่พัฒนาการมาถึงขั้นนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย อีกไม่นานก็จะกลายเป็นบริษัทอันดับต้นๆแน่นอน”
จิดาภาพยักหน้า “ฉันเชื่อ ตอนฉันอยู่ลอนดอนเคยได้ยินชื่อเสียงของที่นี่ ก็เลยเลือกมาทำงานที่นี่”
แก้วยกยิ้ม “แล้วเธอรู้มั้ย ประธานของเราหนุ่มแล้วหล่อมากขนาดไหนมั้ย”
ได้ยินดังนี้ เธอส่ายหน้า เพราะเรื่องนี้เธอไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน
“หล่อกว่าพระเอกในหนังอีก อายุแค่26 แต่กลับเก่งมาก บริษัทนี้เขาเป็นคนสร้างและบริหารมันด้วยตัวเอง เขาเป็นถึงผู้ชายในฝันของพนักงานผู้หญิงทุกคนเลยนะ” แก้วเล่าไปด้วยยิ้มไปด้วย
จิดาภายกยิ้มแล้วพูดขึ้น “งั้นก็ลงมือเลยซิอย่ารอช้า”
“พวกเธอกำลังพยายามอยู่ แต่ฉันแค่ปลื้มเขาเฉยๆ”
แก้วพูดต่อ “เดี๋ยวถ้าเธอเห็น เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
เธอพยักหน้า
“แต่ว่า ได้ข่าวมาว่าประธานของเราเคยแต่งงานแล้ว แต่หย่าแล้วด้วย...........”
ได้ยินดังนี้ เธออึ้งเงียบไปสักพัก มันคงไม่บังเอิญอะไรขนาดนั้นหรอก
เธอไม่ได้คิดอะไรมาก ทั้งสองกินข้าวแล้วกลับไปทำงานต่อ
พอตกเย็นเธอได้รับสาย ให้ไปรายงานตัวที่ห้องประธาน เธอเลยหยิบเอกสารเดินตรงไปที่ห้องประธาน
พอขึ้นไปถึงข้างบน เธอยืนอยู่หน้าห้อง ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
“เดช งานเลี้ยงวันมะรืนนี้ ฉันขอไปด้วยได้มั้ย” เธอได้ยินเสียงออดอ้อนของผู้หญิงดังมาจากข้างใน
เธอชะงักฝีเท้า ข้างในมีคนอื่นอยู่หรอ
“ถ้ามือเธอยังไม่หยุด ฉันจะทนไม่ไหว...............” แล้วมีเสียงผู้ชายพูดขึ้น
เธอตกใจกับเสียงที่ได้ยิน เธอยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้อง มันหมายความว่ายังไง
เธอไม่ได้ไม่เข้าใจ แต่เธอไม่ได้หาดไปใช่มั้ย
นี่มันห้องทำงานของประธานนะ
“ทำไม ก็ไม่ต้องทนซิ...............” เสียงเธออ่อนหวานน่าฟัง
จิดาภามองไม่เห็นภาพ แต่ก็สามารถนึกภาพูดังกล่าวออก
แต่ไม่นึกว่าประธานจะทำแบบนี้ อย่างน้อยก็ไปทำที่อื่นนี่มันห้องทำงานนะ
หรือเป็นเพราะว่าเขาไม่รู้สึกอะไร
“อื้ม” เขาพยายามกดเสียงให้ต่ำลง
เธอเพิ่งได้สติ ถ้าฟังต่อไปเธอต้องหน้าแดงแน่ๆ ช่างมันเถอะ เดี๋ยวค่อยมาใหม่แล้วกัน
“ตรี นี่มันห้องทำงาน” เขาพูดขึ้น ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะฝืนแต่ก็ดูเหมือนยังมีสำนึก
“อย่าดื้อ ไว้วันหลังนะ” พูดจบ จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออก
จิดาภายังยืนอยู่ที่หน้าประตู กำลังจะหันหลังกลับ