ตอนที่5 เข้าไปทำงานที่บริษัท
ตอนที่5 เข้าไปทำงานที่บริษัท
รุ่งเช้า เธอมารายงานตัวที่บริษัท
คนในบริษัทรู้ว่าเธอเป็นใคร เลยทำดีพูดจาดีและเกรงใจเธอมาก
“คุณภา ขอบคุณที่เข้ามาทำงานกับเรานะคะ” ผู้จัดการแผนกบุคคลยื่นมือทักทายเธอ
เธอยิ้มกลับแล้วเอื้อมมือไปทักทายเธอ
“ไม่คิดว่าคุณจะสาว และสวยขนาดนี้นะคะ” ริมเอ่ยชมเธอ
จิดาภาฉีกยิ้ม “คุณริมก็เหมือนกันนะคะ ยังสาวอยู่เลยก็เป็นถึงผู้จัดการแผนกแล้ว” เธอเอ่ยชมกลับ
พูดจาดี คนจะได้ไม่เกลียด
นี่เป็นการเอาตัวรอดในสนามรบ
ริมยกยิ้ม “ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาคุณไปที่แผนกออกแบบ”
เธอพยักหน้ารับ
ทั้งสองเดินตรงไปที่แผนกออกแบบ
พอเข้าไปถึง ริมตบมือ “ทุกคนหยุดทำงานแปปหนึ่ง ฉันมีเพื่อนร่วมงานใหม่มาแนะนำให้รู้จัก”
และแล้วทุกคนก็หยุดแล้วเงยหน้ามองมาทางต้นเสียง
“นี่จิดาภา เพิ่งกับมาจากลอนดอน ตั้งแต่วันนี้จะมาทานในแผนกเดียวกับพวกเธอ”
คนในแผนกทั้งผู้หญิงและผู้ชายมองเธอตาไม่กระพริบ
เธอยืนตรงยิ้ม แล้วก้มทักทายคนอื่นๆ รอยยิ้มของเธอทำให้คนเกลียดไม่ลง
ในขณะเดียวกัน ริมส่งสายตาให้เธอแนะนำตัวเอง
เธอเดินขึ้นหน้า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อจิดาภา หลังจากนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ..................”
“ยินดีต้อนรับๆ” มีคนพูดขึ้น
เธอยกยิ้มให้เขา
“แผนกเรามีคนสวยมาเพิ่มอีกแล้ว........” ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
ริมกับเธอยืนยิ้มอยู่กับที่ “ใช่ แผนกเรานี่มีแต่คนหน้าตาดี” ริมเอ่ยพูดขึ้น ตอนนี้บรรยากาศโล่งสบายลงไปมาก
“แก้ว คุณภาเพิ่งมา เธอช่วยดูแลเขาหน่อยแล้วกัน” ริมบอกเธอ
แก้วก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ค่อนข้างสวย แต่งตัวดี เธอพยักหน้ารับ “ค่ะ”
ริมหันมาพูดกับจิดาภา “เดี๋ยวอีกสักพักเธอไปรายงานตัวที่ห้องท่านประธานหน่อยแล้วกัน”
เธอพยักหน้า
“งั้นเธอไปทำงานเถอะ ฉันจะได้กลับไปทำงานต่อ”
“อืม” เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ผู้หญิงที่ชื่อแก้วนิสัยค่อนข้างดี อะไรที่เธอรู้หรือไม่เข้าใจ เธอก็จะคอยอธิบายให้เธอเป็นอย่างดี
เธอมองแก้ว “แก้ว ขอบใจเธอมากนะ”
แก้วยกยิ้ม “ไม่เป็นไร มีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก ถามฉันได้ตลอด”
เธอพยักหน้า “โอเค”
“งั้นเธอทำงานไป ฉันจะได้ไปทำงานของฉันต่อเหมือนกัน”
“วันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวแทนคำขอบคุณแล้วกัน”
“ไม่มีปัญหา”
แก้วกลับไปทำงานของเธอต่อ จิดาภามองดูโต๊ะทำงาน เธอค่อนข้างรู้สึกพอใจ
หลังจากนั้นเธอก็ตั้งอกตั้งใจทำงาน
พอตอนเที่ยงแก้วเดินมาหาเธอ “ภา จะไปกินข้าวด้วยกันเลยมั้ย จะได้แนะนำที่ต่างๆให้เธอด้วย”
เธอรีบวางงานในมือลง “ได้สิ ไปกันเถอะ”
และแล้วทั้งสองก็เดินยิ้ม พูดคุย มาที่โรงอาหาร