บท
ตั้งค่า

หายนะกำลังจะมาเยือน

ไอเดีย...

หลังจากวันนั้นฉันก็ย้ายมาอยู่คอนโดของน้าอนงค์ซึ่งโชคดีที่คอนโดอยู่ใกล้มหาลัยมากๆเพราะฉันจะได้ประหยัดเงินค่ารถไปมหาลัย ซึ่งน้าอนงค์บอกให้ฉันอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ แต่ฉันก็เกรงใจน้าอนงค์ก็เลยบอกท่านว่าถ้าระหว่างเรียนฉันหางานทำได้แล้วฉันก็จะย้ายออกไปหาห้องเช่าเล็กๆอยู่เพราะห้องนี้มันใหญ่โตหรูหรามากเกินไปถ้าให้เดาห้องนี้ราคาน่าจะเกินสิบล้าน ฉันกลัวทำห้องน้าอนงค์เลอะเพราะท่านบอกว่าตั้งแต่ซื้อมาก็ไม่เคยเข้ามาอยู่เลยไหนจะข้าวของที่ดูๆแล้วราคาคงจะแพงมากฉันกลัวเผลอทำของๆท่านพังเพราะดูของแต่ละชิ้นที่น้าอนงค์ใช้ตกแต่งห้องแล้วน่าจะเป็นของนำเข้าทั้งนั้น แต่น้าอนงค์ก็ไม่ยอมท่านบอกว่าถ้าจะออกไปเช่าข้างนอกอยู่ก็ให้เช่าห้องนี้ไปเลยท่านคิดราคาไม่แพง ซึ่งฉันก็ตอบตกลงทันที แต่จนถึงตอนนี้ที่ฉันอาศัยอยู่มาสามปีตั้งแต่ปีหนึ่งฉันไม่เคยได้จ่ายค่าเช่าห้องให้น้าอนงค์เลยไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าห้องค่าน้ำค่าไฟค่าส่วนกลางเพราะท่านไม่ยอมให้เลขบัญชีธนาคารกับฉันฉันทักไปถามท่านเมื่อไหร่ท่านก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกจนเวลาล่วงเลยผ่านมาจนฉันจะขึ้นปีสี่แล้ว ฉันคิดว่าฉันจะต้องพูดกับน้าอนงค์ให้รู้เรื่องอีกครั้งเพราะฉันเกรงใจที่มาอยู่ฟรีๆตั้งสามปีซึ่งตลอดสามปีที่ผ่านมาฉันเก็บเงินค่าเช่าทุกเดือนเอาไว้เพื่อที่จะให้กับน้าอนงค์ด้วยตัวเองแต่น้าอนงค์เหมือนจะรู้ท่านไม่ยอมมาเจอหน้าฉันเลยมีแค่โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบเท่านั้น อ่อฉันลืมบอกไปว่าระหว่างเรียนฉันไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านเช่าหนังสือแม้เงินจะได้ไม่เยอะแต่ก็พอเป็นค่าห้องค่ากินได้เพราะฉันกินอย่างประหยัด ถ้าอยู่ห้องฉันจะทำอาหารกินเองทุกมื้อตอนแรกฉันก็พกไปกินที่มหาลัยด้วยเพราะมันประหยัดค่าอาหารกลางวันแต่โดนยัยปุ้ยเพื่อนสนิทของฉันมันบ่นใส่ว่าฉันประหยัดเกินไปหัดใช้เงินหัดกินข้าวโรงอาหารบ้างมันพูดทุกวันจนฉันไม่กล้าพกไป อยากจะบอกว่าฉันมีมันเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวเมื่อก่อนฉันก็คบเพื่อนหลายกลุ่มนะแต่ไปๆมาๆฉันก็คบแค่ยัยปุ้ยคนเดียว เพราะคนอื่นๆเขาเป็นลูกคุณหนูบ้านรวยกันทั้งนั้น เวลาซื้อกระเป๋ารองเท้านาฬิกามือถือเครื่องประดับใหม่ๆแพงๆก็เอามาอวดกันข่มกันส่วนฉันน่ะเหรอทำได้แค่นั่งมองตาปริบๆเพราะไม่มีปัญญาซื้อของพวกนั้นหรอก ลำพังมือถือที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ยังผ่อนไม่หมด เพราะเหตุนี้ฉันก็เลยปลีกตัวออกมาเพื่อความสบายใจของตัวเองแต่ฉันก็ยังคุยกับทุกคนได้ปกตินะเพราะไม่ได้โกรธหรือทะเลาะกัน ส่วนยัยปุ้ยก็ไม่ต่างจากฉันเพราะมันก็เป็นนักเรียนทุนเหมือนกันแต่ยัยปุ้ยมันโชคดีได้แฟนรวยแต่ถึงแฟนมันจะรวยแต่มันก็ไม่เคยใช้ของฟุ่มเฟือยเลยนะทั้งที่แฟนมันพร้อมที่เปย์ให้มันทุกอย่างแต่มันไม่เอาอะไรเลยมันบอกไม่อยากให้ใครมองว่ามันมีแฟนรวยเพราะหวังสบายหวังรวยทางลัด แต่ถ้าเป็นเรื่องอาหารการกินบอกเลยว่ามันกินเต็มที่กินแต่ของดีๆแพงซึ่งทุกครั้งเวลาแฟนมันพาไปกินอาหารหรูๆมันก็จะลากฉันไปด้วยทุกครั้งแม้ว่าฉันจะปฏิเสธเพราะเกรงใจแฟนแต่มันก็ไม่ยอม จนแฟนมันบ่นน้อยใจว่าตั้งแต่คบกันไม่เคยได้ไปไหนด้วยกันสองต่อสองเลยซึ่งพอฉันได้ยินฉันก็รู้สึกเกรงใจแฟนมันหนักเข้าไปอีก แล้วรู้ไหมว่าคำตอบของมันที่ตอบแฟนมันคืออะไรมันบอกว่าตราบใดที่ฉันยังไม่มีแฟนมันก็จะพาฉันไปด้วยทุกที่เพราะมันกลัวว่าฉันจะเหงาและน้อยใจ มีบ่อยครั้งที่แฟนมันพาเพื่อนมาเจอมากินข้าวด้วยซึ่งแต่ละคนโปรไฟล์ดีๆทั้งนั้นแล้วก็หล่อมากๆด้วย บางคนก็เข้ามาจีบฉันมาขอเบอร์ขอไลน์ขอช่องทางการติดต่อแต่ฉันไม่ได้ให้พูดแบบตรงๆก็คือไม่เล่นด้วยนั่นแล่ะไม่ใช่ว่าฉันสวยเลือกได้หรอกนะแต่ฉันแค่ไม่สนใจเพราะไม่อยากมีแฟนตอนนี้ฉันอยากตั้งใจเรียนมากกว่าเพราะอีกปีเดียวฉันก็จะจบป.ตรีแล้ว แล้วความฝันของฉันก็คือการได้ไปใช้ชีวิตไปทำงานอยู่ต่างประเทศเพราะมีรุ่นพี่หลายคนที่ได้ทุนเรียนฟรีแบบฉันพอเรียนจบก็จะมีบริษัทที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือจากต่างประเทศมาคัดเลือกนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีจบตรงตามสาขาที่เขาต้องการชักชวนให้ไปร่วมงานด้วยซึ่งเรื่องนี้ฉันเคยปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาดูแล้วท่านบอกว่าผลการเรียนของฉันผ่านการคัดเลือกได้ไม่ยากขอแค่ฉันอย่าทำผลการเรียนตกก็พอเพราะแบบนี้ฉันถึงตั้งใจเรียนไม่คิดเรื่องมีแฟนฉันอยากมีอนาคตที่ดีเจริญก้าวหน้าได้ไปทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่โน่นฉันคิดว่ามันคงดีกว่าอยู่ที่นี่เพราะอยู่ที่นี่ฉันก็ไม่มีใคร อย่าหาว่าฉันทะเยอทะยานอยากไปอยู่เมืองนอกเมืองนาเลยนะมันไม่มีใครอยากย่ำอยู่กับที่หรอกถ้าที่ๆอยู่มันดีอยู่แล้ว คนเราก็ต้องอยากมีอนาคตที่ดีกันทั้งนั้น ความฝันของคนเรามันไม่เหมือนกันบางคนอยากทำงานอยู่ใกล้ๆครอบครัวแต่ฉันไม่มีไง 

วันนี้ร้านเช่าหนังสือที่ฉันทำงานอยู่ปิดฉันก็เลยมีเวลามาเดินตลาดเพื่อหาซื้อของสดไว้ทำกับข้าวกินเพราะของที่ห้องใกล้หมดแล้ว จู่ๆเสียงมือถือฉันสั่นอยู่ในกระเป๋าฉันรีบล้วงมันออกมาดูว่าเป็นใครโทรมาซึ่งคนที่รู้เบอร์โทรฉันก็มีแค่น้าอนงค์กับยัยปุ้ยเท่านั้น ถ้าให้เดาน่าจะเป็นน้าอนงค์เพราะฉันกับยัยปุ้ยเพิ่งแยกกับฉันเมื่อครู่นี้เอง ใช่จริงๆด้วยเป็นน้าอนงค์โทร ดีเลยฉันจะได้ลองขอเลขบัญชีอีกรอบเผื่อน้าอนงค์จะลืมจริงๆ

"สวัสดีค่ะน้าอนงค์ น้าโทรมาพอดีเลยคือเดียอยากจะขอ..." ฉันกำลังจะขอเลขบัญชีน้าอนค์แต่ไม่ทันได้พูดจบประโยค

"เดียอยู่คอนโดหรือเปล่าลูก"

"เดียมาซื้อของที่ตลาดกำลังจะกลับค่ะ น้าอนงค์มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"มีจ๊ะเรื่องสำคัญด้วย งั้นไว้เจอกันที่คอนโดนะจ๊ะแล้วเราค่อยคุยกันตอนนี้น้าใกล้จะถึงคอนโดแล้ว"

"ได้ค่ะเดียจะรีบกลับนะคะ" พอวางสายฉันก็รีบวิ่งสี่คูณร้อยเลยเพราะเกรงว่าน้าอนงค์จะรอนาน

ฉันมาถึงคอนโดภายในสิบนาทีและพอเปิดประตูเข้ามาก็เจอน้าอนงค์นั่งรออยู่แต่....แต่ได้ไม่ได้มีแค่น้าอนงค์คนเดียวมีเด็กผู้ชายที่อยู่ในชุดนักเรียนมอปลายกำลังนอนกระดิกเท้าเล่นมือถืออยู่บนโซฟากลางห้องแต่สายตาฉันไปสะดุดกับเท้าของเด็กนั่นที่กำลังวางทับอยู่บนตุ๊กตาตัวโปรดของฉันที่ฉันจะต้องนอนกอดทุกคืนซ้ำยังเอาเท้าเขี่ยไปมาอีกฉันกำลังจะอ้าปากด่าเด็กนั่นแต่ก็ต้องรีบหุบปากเอาไว้เพราะลืมไปว่าน้าอนงค์อยู่ด้วยและฉันก็ยังไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรกับน้าอนงค์ หรือจะเป็นลูกชายของท่าน อยากจะบอกว่าฉันไม่เคยเห็นหน้าลูกชายของน้าอนงค์เลยสักครั้งเพราะตอนนั้นฉันถูกกักให้อยู่แต่ในบ้านตลอดเวลาไม่ให้ออกไหนนอกจากไปโรงเรียน

"กลับมาแล้วเหรอเดีย นักรบเลิกเล่นมือถือก่อนลูกแล้วมาไหว้พี่เค้าเพราะเดี๋ยวเราต้องมาอยู่กับพี่เขาที่นี่" อยู่กับพี่เขาที่นี่??หมายความว่าไงฉันไม่เข้าใจแต่ที่เข้าใจตอนนี้ก็คือเด็กนี่เป็นลูกของน้าอนงค์

"ทำไมต้องไหว้ด้วยอ่ะในเมื่อห้องนี้มันเป็นห้องของแม่แล้วยัยนี่ก็เป็นแค่คนอาศัยทำไมผมต้องไหว้ด้วย ผมไม่ไหว้หรอก" น้ำเสียงฟังดูก็รู้ว่าหยิ่งและถือตัวแค่ไหน

 ฉันถึงกับอึ้งกับคำพูดของลูกชายเพียงคนเดียวของน้าอนงค์ ซึ่งดูเหมือนลูกของน้าอนงค์จะไม่ได้สนใจที่แม่ตัวเองพูดสักเท่าไหร่เพราะเขายังเอาแต่เล่นเกมส์ไม่หยุด แต่ก็แอบมีเหล่หางตามองมาที่ฉันแว๊บนึงแบบเหยียดๆแล้วหันหน้าไปเล่นเกมส์ต่อที่ฉันรู้ว่ากำลังเล่นเกมส์เพราะฉันได้ยินเด็กนั่นทั้งบ่นทั้งด่าคนในเกมส์ซึ่งแต่ละคำที่ด่าออกมาคือมาทั้งสวนสัตว์อ่ะแต่ละคำหยาบคายทั้งนั้นรับไม่ได้บอกเลย แต่น้าอนงค์ก็ไม่ได้ว่าหรือดุอะไร ดูๆแล้วน้าอนงค์คงตามใจลูกชายน่าดู

"เดีย น้ามีเรื่องจะขอให้เดียช่วย^^"

เรื่องที่น้าอนงค์ขอให้ฉันช่วยก็คือ ลูกชายของท่านสอบเข้ามหาลัยKได้ท่านก็เลยจะให้เขามาอยู่ที่นี่และจะขอให้ฉันช่วยดูแลเพราะท่านไม่มีเวลาดูแลเพราะต้องเดินทางไปๆมาๆต่างประเทศ ซึ่งตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้เขาไปเรียนต่อต่างประเทศแต่น้าอนงค์บอกว่าเขาติดเพื่อนก็เลยไม่ยอมไปซึ่งพ่อของเขาก็ยื่นคำขาดว่าถ้าจะเรียนต่อที่ไทยก็ต้องสอบเข้ามหาลัยKให้ได้ซึ่งเขาก็ทำได้จริงๆ เพราะแบบนี้ท่านก็เลยต้องให้เขามาอยู่ที่นี่และขอให้ฉันช่วยดูแลพูดง่ายๆก็คือให้ฉันเป็นผู้ปกครองของนักรบ ตอนแรกฉันอยากจะปฏิเสธแต่ด้วยค่าจ้างที่น้าอนงค์จ้างฉันทำให้ฉันปฏิเสธไม่ลง

และนี่คือจุดเริ่มต้นของความหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะลูกชายของน้าอนงค์ไม่ธรรมดาเลย เรียกได้ว่าแสบสุดๆจนฉันอยากจะลาไปบวชชี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel