สาวน้อยในเรือน(2)
อมรายินดีและชื่นชมไปกับยุพาเพราะตัวเธอก็มีส่วนในการส่งเสียเด็กคนนี้ให้ร่ำเรียนจนจบมหาวิทยาลัยตั้งแต่พ่อของมินตราเสียยุพาก็พาตัวเองและลูกเข้ามาทำงานที่บ้านหลังนี้ ความเมตตาจากเจ้านายทั้งคู่ทำให้มินตราถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนประจำที่ดีที่สุด
“ตอนแรกดิฉันก็ตั้งใจว่าจะบอกคุณผู้หญิงแต่ก็เกรงใจเพราะช่วงนี้ข้างนอกยังคงมีโรคระบาดอยู่เป็นห่วงสุขภาพของทุกคนค่ะ”
ยุพาอยากที่จะให้เจ้านายของเธอไปร่วมแสดงความยินดีด้วยแต่สถานการณ์ของประเทศตอนนี้ยังไม่น่าไว้วางใจด้วย โรคระบาดและเจ้านายของเธอทั้งสองคนก็อายุมากแล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปร่วมยินดีกับลูกเพียงคนเดียว
“มินตราลูกสาวคุณน้ายุพาโตถึงเรียนมหาวิทยาลัยแล้วหรือครับ”
เปรมธวัชพูดแทรกขึ้นมาเพราะเขาเจอกับมินตรา ครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 10 ปีที่แล้วก่อนที่เขาจะตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศซึ่งตอนนั้นหญิงสาวยังคงเรียนอยู่ในชั้นประถมเอง
“ฉันนึกออกแล้ว เอาอย่างนี้ดีกว่าให้เปรมพาเธอไป”
อมราหันมามองสบตาลูกชายด้วยแววตาเป็นประกายเหมือนคนกำลังมีความหวังอะไรบางอย่างและเปรมธวัชก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่ามารดากำลังคิดอะไร
“ดีเหมือนครับ ผมจะได้คุยกับมินตราด้วยไม่ได้เจอกันเสียนานไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้”
คำตอบของลูกชายทำให้มารดาเข้าใจได้ทันทีว่าเขายินดีถ้าจะเลือกมินตราเพียงแต่ต้องการเรียนรู้นิสัยของเธอให้มากกว่านี้เพราะถึงแม้หญิงสาวจะมารับบทเป็นภรรยาจ้างท้องแต่เขาก็ต้องการให้ทายาทของเขามีสายเลือดมาจากแม่ที่เป็นคนดี
ยุพาเดินออกไปแล้ว 2 คนแม่ลูกจึงได้คุยถึงแผนการทั้งหมด อมราไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะง่ายแบบนี้ตอนแรกเขาคิดว่าเปรมธวัชคงจะไม่ยอมกับการที่จะให้ตัวเขาเองมีลูกกับลูกสาวคนใช้ในบ้านแต่กลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มเต็มใจเพราะรู้จักมินตรามาตั้งแต่เด็กๆ
“ผมรับปากคุณแม่ว่าจะเก็บเธอมาพิจารณาแต่ก็ต้องขอดูก่อนนะครับไม่ใช่สักแต่ว่าเอาใครก็ได้มาเป็นแม่ของลูกผมแต่ที่สำคัญคุณแม่คิดว่าเด็กจบมหาวิทยาลัยใหม่อย่างมินตราจะยอมมาจบชีวิตเป็นเพียงแค่ภรรยารับจ้างท้องของผู้ชายอายุมากอย่างผมหรือครับ”
หัวใจของชายหนุ่มลึก ๆ แล้วเขาเป็นคนที่กลัวกับ ความผิดหวัง ทุกวันนี้เขาเลือกจะคบกับผู้หญิงที่เขาสามารถใช้เงินซื้อเธอได้เพราะรู้ว่าจะไม่มีทางผิดหวังแน่นอน หลายครั้งที่เขาเคยคิดจะเปิดใจให้กับผู้หญิงที่คู่ควรเดินเข้ามาแต่เมื่อคิดถึงความผิดหวังเมื่อครั้งอดีตเปรมธวัชก็เลือกที่จะปิดตัวเองอยู่เพียงแค่โลกแคบๆของเขาเหมือนเดิมเท่านั้น
“แม่ไม่มั่นใจอะไรทั้งนั้นแต่เอาเป็นว่าถ้าเราไม่เริ่มก็ไม่รู้มินตราเป็นเด็กน่ารักและมีความรักดีเป็นที่สุดแม่มั่นใจว่าเธอจะสามารถเป็นแม่ที่ดีได้แต่อย่างที่เปรมบอกเธอกำลังจะมีชีวิตที่สดใสบางทีมินตราอาจไม่ยอมรับข้อเสนอของเราก็ได้”
ความหวังของหญิงสูงวัยกลับมาทำให้หัวใจของเธอกระชุ่มกระชวยขึ้นอีกครั้งถึงจะไม่มั่นใจว่าแผนครั้งนี้จะสำเร็จแต่อย่างน้อยเธอก็รู้สึกว่าลูกชายเต็มใจที่จะร่วมมือกับเธอ
เปรมธวัชขอตัวมารดาขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ชายหนุ่มยังคงคิดถึงสิ่งที่มารดาพูด เขาพยายามจินตนาการหน้าตาของสาวน้อยพี่เขาไม่ได้เจอเธอมาเป็น 10 ปีแต่ความทรงจำเก่าๆก็ยังคงมีอยู่ในหัวใจไม่ว่าจะเป็นความน่ารักความเรียบร้อยของสาวน้อยมินตราที่มักจะเจียมตัวตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าเจ้านาย
“หวังว่าเธอจะรับข้อเสนอโดยดี”
หัวใจของคนที่เคยโดนปฏิเสธความรักมาได้แต่ภาวนาว่าผู้หญิงที่มารดาเลือกให้จะไม่ปฏิเสธเขาให้ต้องรู้สึกคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีก
เปรมธวัชไม่ได้มีหัวใจไว้เพื่อเจ็บอีกแล้วไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเต็มใจหรือไม่แต่สำหรับชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทุกอย่างแบบเขาจะต้องไม่ถูกปฏิเสธจากใครทั้งนั้น
พรุ่งนี้คือวันที่เปรมธวัชและมินตราจะต้องได้เจอกันแต่ชายหนุ่มก็ยังคงใช้ค่ำคืนนี้กับผู้หญิงที่เป็นคู่นอนคนโปรดของเขา
“คุณเปรมจะไปไหนคะ”
นาเดียสาวน้อยพริตตี้รีบสวมกอดคู่ขาของเธอเมื่อเห็นว่าเปรมธวัชลุกขึ้นจากเตียงและคว้าผ้าเช็ดตัวเตรียมจะอาบน้ำ
“คืนนี้ผมจะกลับไปนอนบ้าน พรุ่งนี้ต้องไปธุระแต่เช้า”
ชายหนุ่มหันมาตอบพร้อมกับหอมแก้มหญิงสาวอย่างเอาใจเพราะนาเดียถือได้ว่าเป็นคู่ขาที่เขาชื่นชอบที่สุดเพราะเธอช่างเอาอกเอาใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน เธอจะทำให้เขารู้สึกว่าคือคนที่สำคัญและเป็นทุกอย่างของสาวน้อยคนนี้
“ค่อยตื่นไปพรุ่งนี้เช้าไม่ได้หรือคะ ถ้าคุณเปรมไม่อยู่นาเดียก็นอนไม่หลับ”
สาวน้อยยังคงออดอ้อนอย่างเอาใจแต่สุดท้ายแล้วเปรมธวัชก็ต้องรีบไปจัดการตัวเองเพราะพรุ่งนี้เช้าเขาต้องออกจากบ้านพร้อมยุพาตั้งแต่เช้ามืด