บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

พิมพ์มาดาเต็มไปด้วยความหมองเศร้า ทอดสายตามองสองข้างทางถนน ขณะรถปาเจโร่คันใหญ่ กำลังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วอย่างสม่ำเสมอตรงไปยังวริทธิ์ฟาร์ม...

“อีกไกลไหมคะ ว่าจะถึงวริทธิ์ฟาร์ม”

พิมพ์มาดาเอ่ยถามสารถี ซึ่งเป็นคนไปรอรับเธอที่สนามบิน เพื่อมายังฟาร์มเลี้ยงโคพันธุ์เนื้อที่เธอรู้มาว่าเป็นฟาร์มที่ดีและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย

“อีกราวๆ สองร้อยกิโลฯ ก็ถึงแล้วครับ”

คนขับรถซึ่งแนะนำตัวเองว่าชื่อ ‘พนาธิป’ เป็นคนงานในวริทธิ์ฟาร์ม เอ่ยบอกเสียงราบเรียบ โดยไม่ลืมเหลือบสายตามองหญิงสาวที่ตีสีหน้าเศร้าสร้อยอมทุกข์ ทว่ายังคงความงดงามไม่มีเปลี่ยน

“อีกสองร้อยกิโลฯ ก็จะได้เห็นหน้าว่าที่เจ้าบ่าว!”

พิมพ์มาดาพึมพำเยาะหยันตัวเอง พลางนึกถึงตอนที่จำต้องทำหน้าที่ของลูกที่ดี ด้วยการยอมตกลงแต่งงานเพื่อล้างหนี้ให้กับครอบครัว ซึ่งหากเธอไม่ยอมแต่งงาน มารดาของเธอจะตัดแม่ตัดลูก ไม่พูดกับเธอจนกว่าจะตายจากกันไปข้าง

สามวันให้หลัง...หลังจากยอมทำตามคำขอร้องของมารดา ยอมตกลงแต่งงานเพื่อล้างหนี้ให้กับครอบครัว หญิงสาวก็ต้องไปลาออกจากงาน และเก็บกระเป๋าเดินทางมายังวริทธิ์ฟาร์ม เพื่อมาแต่งงานกับ ‘พ่อเลี้ยงวริทธิ์’ ลูกชายคนเดียวของพ่อเลี้ยงตริน

“ฮึ! จะแต่งงานอยู่รอมร่อแล้ว แต่ไม่เคยเห็นหน้าเจ้าบ่าว รู้จักแค่เพียงชื่อ น่าตลกชะมัด”

พิมพ์มาดาแขวะตัวเองอีกครั้ง ใช่! จะแต่งงานในวันนี้แล้ว แต่เธอรู้จักแค่ชื่อของว่าที่เจ้าบ่าวว่าเชื่อ ‘วริทธิ์’ ส่วนหน้าตาของพ่อเลี้ยงคนนี้จะเป็นยังไง เธอยังตอบไม่ได้เลย

พอได้ยินคำบ่นของพิมพ์มาดา พนาธิปอดไม่ได้ที่จะเอ่ยบอกถึงความดีของเจ้านายตนเอง เพื่อให้หญิงสาวรู้ว่าเจ้านายของเขาไม่ได้เป็นคนร้ายกาจดั่งที่เธอนึกคิด

“พ่อเลี้ยงวริทธิ์ เป็นคนใจดีนะครับ คุณพิม พ่อเลี้ยงรับชาวเขา รับคนในหมู่บ้านเข้าทำงานในฟาร์มโดยไม่สนใจว่าพวกผมจะมีวุฒิการศึกษาหรือไม่ พ่อเลี้ยงให้ทุนการ

ศึกษากับลูกคนงานทุกคน พวกเรารักพ่อเลี้ยงตรินและพ่อเลี้ยงวริทธิ์ ที่ทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้น”

“พ่อเลี้ยงวริทธิ์อาจจะใจดีกับพวกคุณ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะใจดีกับลูกหนี้อย่างฉันหรือเปล่า”

พิมพ์มาดาถอนหายใจเฮือกๆ อย่างปลงตก ได้แต่ภาวนาให้พ่อเลี้ยงคนนี้มอบความเมตตากรุณาให้กับลูกหนี้เช่นเธอบ้าง

“เชื่อผมเถอะครับ ว่าพ่อเลี้ยงตรินและพ่อเลี้ยงวริทธิ์ต้องชอบคุณพิมตั้งแต่แรกเห็น ขนาดผมเองยังรู้สึกชอบคุณพิมเลยครับ”

พนาธิปไม่ได้ชื่นชอบพิมพ์มาดาในทางชู้สาว แต่เขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น และกล้าเอาหัวเป็นประกันว่าพิมพ์มาดาคนนี้นี่แหละ ที่จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของวริทธิ์ฟาร์ม

“ขอบคุณคุณพนาธิปมากๆ นะคะ ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้เป็นเช่นนั้น ภาวนาให้ทุกคนมอบความเมตตาให้กับฉันขณะอาศัยอยู่ที่นี่”

พิมพ์มาดาพึมพำเบาๆ ก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์สองข้างถนนต่อ หากไม่ได้อยู่ในอารมณ์หมองเศร้า หญิงสาวคงบอกได้ว่า เส้นทางไปสู่วริทธิ์ฟาร์มช่างเต็มไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นสวยงาม

และในที่สุด พนาธิปก็พาพิมพ์มาดามาถึงฟาร์มเลี้ยงโคพันธุ์เนื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีชื่อของว่าที่เจ้าบ่าวเธอเป็นชื่อฟาร์มด้วย

“วริทธิ์ฟาร์ม เฮ้อ...เราต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนนะ”

พิมพ์มาดารำพันเอ่ยถามตัวเอง ขณะกวาดสายตามองป้ายชื่อ ซึ่งทำจากไม้สักสวยงามขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าฟาร์ม

พอพนาธิปขับรถผ่านประตูรั้วเข้ามาภายในบริเวณฟาร์ม หญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างกับอาณาเขตที่กว้างใหญ่มองไกลสุดลูกหูลูกตาของฟาร์มแห่งนี้

“พื้นที่ทั้งหมดนี้เป็นของวริทธิ์ฟาร์มหรือคะ”

พนาธิปเหลือบสายตามองพิมพ์มาดาครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ “ใช่ครับ ที่คุณพิมเห็นทั้งหมดนี้เป็นฟาร์มของพ่อเลี้ยงตรินกับพ่อเลี้ยงวริทธิ์ มีพื้นที่ทั้งหมดราวๆ สองพันไร่ครับ”

“สองพันไร่”

พิมพ์มาดาทวนคำเสียงหลง ไม่นึกว่าพ่อเลี้ยงวริทธิ์จะมีที่ดินทำฟาร์มโคพันธุ์เนื้อมากถึงเพียงนี้ ในตอนแรกที่บิดาบอกว่าต้องมาแต่งงานกับพ่อเลี้ยงวริทธิ์ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงโค เธอคิดว่าอีกฝ่ายคงมีอาณาบริเวณในการทำฟาร์มแค่สิบหรือยี่สิบไร่เท่านั้น

“ถ้าวันไหนงานไม่ค่อยยุ่ง ผมคิดว่าพ่อเลี้ยงน่าจะพาคุณพิมเที่ยวชมรอบๆ ฟาร์มของเรา หรือคุณพิมจะให้ผมพาเที่ยวในฟาร์มก็ได้นะครับ ผมยินดีครับ” พนาธิปเอ่ยบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง

“พ่อเลี้ยงเขาไม่ใจดีกับฉันถึงเพียงนั้นหรอกค่ะ ฉันมาทำหน้าที่เมีย เพื่อล้างหนี้สินให้กับครอบครัว ไม่ได้เป็นคนรัก ไม่ได้เป็นเมียที่ของเขาต้องการ พ่อเลี้ยงคงไม่แยแสฉันสักเท่าไร”

พิมพ์มาดาเอ่ยอย่างปลงๆ กับสภาพของตัวเอง พยายามทำใจยอมรับหน้าที่เมียล้างหนี้ อีกทั้งภาวนาให้พ่อเลี้ยงวริทธิ์เบื่อเธอเร็วๆ เพื่อเธอจะได้หลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่สักที

และก่อนพนาธิปจะได้ทันเอ่ยพูดอะไรไปมากกว่านี้ หญิงสาวก็มองเห็นบ้านพักหลังงามที่สร้างอยู่บนเนินเขาเล็กๆ มีชายวัยค่อนคนยืนยิ้มรออยู่ตรงหน้าบ้านด้วย

“คุณลุงที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ใช่พ่อเลี้ยงตรินไหมคะ”

พนาธิปมองไปยังหน้าบ้านพักตามที่พิมพ์มาดาเอ่ยถาม พลางพยักหน้าตอบรับ

“ใช่ครับ พ่อเลี้ยงตรินคงมารอรับคุณพิมนะครับ”

“เอ่อ...แล้วพ่อเลี้ยงวริทธิ์ล่ะคะ”

พิมพ์มาดาเอ่ยถามไม่เต็มเสียงนัก นาทีนี้อยากเห็นหน้าว่าที่สามี ว่าจะมีหน้าตาเป็นเช่นไร เขาเป็นคนดุ หยิ่งยโส ทะนงตน หรือเป็นคนผู้ใหญ่ใจดีที่เธออาจจะคุยกับเขารู้เรื่องให้เขายอมรับวิธีการชำระหนี้ด้วยวิธีอื่น โดยเธอไม่ต้องทำหน้าที่เมียให้กับเขา

“พ่อเลี้ยงน่าจะอยู่ที่ลานส่งวัวนะครับ เพราะวันนี้ทางฟาร์มต้องเตรียมส่งลูกวัวกับแม่พันธุ์วัวให้ลูกค้ารายใหญ่ราวๆ สี่รายด้วยกันนะครับ”

การส่งลูกวัวให้กับลูกค้าในแต่ละครั้ง มีมูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่าสิบล้าน ซึ่งแน่นอนว่าวัวพันธุ์ดี วัวมีคุณภาพเกรดดับเบิ้ลเอ ทำให้วริทธิ์ฟาร์มสามารถขายลูกวัวและแม่พันธุ์ได้ในราคาที่ค่อนข้างสูง

พิมพ์มาดาพยักหน้ารับ พลางถอนหายใจยาว บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจกันแน่ ที่ยังไม่มีโอกาสเห็นหน้าว่าที่สามี

พอพนาธิปจอดรถหน้าบ้านพัก พิมพ์มาดาเต็มไปด้วยความประหม่า มือไม้เย็นเฉียบ หวาดกลัวว่าจะไม่ได้รับการต้อนรับจากพ่อเลี้ยงตริน ผู้เป็นเจ้าบ้าน

“สวัสดีค่ะ พ่อเลี้ยง พิมเป็นลูกของคุณพ่อปกรณ์ค่ะ”

พิมพ์มาดายกมือไหว้พ่อเลี้ยงตรินด้วยกริยานอบน้อม พอเงยหน้าขึ้นมองพ่อเลี้ยงตรินในวัยห้าสิบปีตอนปลาย ก็ถึงกับหน้าถอดสี เมื่อเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วเข้ากันยุ่ง ตีสีหน้างุนงงกับคำแนะนำตัวจากเธอ

“สวัสดีครับ หนูเป็นลูกพ่อปกรณ์?”

พ่อเลี้ยงตรินยกมือรับไหว้ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เขาคิดว่าปกรณ์จะส่งอลีน่าให้มาแต่งงานกับวริทธิ์ และที่สำคัญเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกหนี้รายนี้มีลูกสาวอีกคน

พิมพ์มาดาเผยความหมองเศร้าให้เห็นชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยบอกตามความจริงถึงสถานะของตนเองและมารดา อีกทั้งเตรียมใจยอมรับ หากพ่อเลี้ยงตรินจะรังเกียจลูกนอกสมรสที่เกิดจากคนใช้เช่นเธอ

“พิมเป็นลูกของคนใช้ที่เกิดกับคุณพ่อค่ะ”

คราวนี้พ่อเลี้ยงตรินยิ่งเต็มไปด้วยความแปลกใจ คิ้วเข้มหน้ายกขึ้นสูง เอ่ยออกมาอย่างงุนงง

“ลุงเพิ่งรู้ว่าปกรณ์มีเมียอีกคน แถมยังมีลูกด้วย”

คำพูดของพ่อเลี้ยงตรินทำเอาพิมพ์มาดาต้องกัดเม้มริมฝีปากเพื่อระงับความโกรธที่มีต่อบิดา เธอถูกบิดาหลอกตั้งแต่ต้น ท่านบอกว่าส่งรูปของเธอกับอลีน่าซึ่งเป็นลูกสาวคนโปรดให้พ่อเลี้ยงวริทธิ์คัดเลือกเพื่อเป็นเมียล้างหนี้ และพ่อเลี้ยงวริทธิ์ก็เลือกเธอ!

แต่! พ่อของเธอโกหกทั้งเพ เพราะนาทีนี้เธอรู้แล้วว่า พ่อเลี้ยงตรินและพ่อเลี้ยงวริทธิ์ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอก็เป็นลูกอีกคนของพ่อ

“หนูชื่ออะไรน่ะครับ”

พ่อเลี้ยงตรินเอ่ยถามอีกครั้ง หลังจากเห็นพิมพ์มาดาหน้าถอดสี และนิ่งเงียบไปนานราวกับกำลังตกอยู่ในความคิดของตัวเอง

“พิมพ์มาดาค่ะ คุณแม่เรียกว่าพิมค่ะ”

เอ่ยตอบไปแล้ว พิมพ์มาดาก็ยังหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับการต้อนรับจากพ่อเลี้ยงตริน แต่เธอคิดผิด เมื่อท่านดึงตัวเธอไปกอดพร้อมกับเอ่ยต้อนรับด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“ขอต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรา ต่อไปหนูพิมจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลุง ทุกคนในวริทธ์ฟาร์มจะรักและเคารพยกย่องหนูให้เป็นแม่เลี้ยงของที่นี่”

พิมพ์มาดาถึงกับบ่อน้ำตาตื้นหลังจากได้ยินคำต้อนรับจากพ่อเลี้ยงตริน อ้อมกอดจากพ่อเลี้ยงตริน ช่างอบอุ่นซะยิ่งกว่าอ้อมกอดจากบิดาของเธอซะอีก

“พิม...กราบขอบคุณพ่อเลี้ยง ที่ไม่รังเกียจลูกคนใช้อย่างพิม”

“ลุงไม่รังเกียจหรอกลูก ขึ้นไปบนบ้านเถอะ หนูพิมเดินทางมาเหนื่อยๆ จะได้ไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวค่ำๆ หนูพิมก็จะได้เจอกับเจ้าวริทธิ์แล้ว”

“ค่ะพ่อเลี้ยง”

พิมพ์มาดาคลี่ยิ้มกว้าง ขณะเดินตามพ่อเลี้ยงตรินขึ้นไปบนบ้านพัก ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ เธอก็จะได้พบกับเจ้าหนี้คนสำคัญของเธอแล้ว นั่นก็คือพ่อเลี้ยงวริทธิ์นั่นเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel