ตอนที่ 5 ห่างเหิน
...หยางไป๋...
"พระชายา"
"มีอะไรเหตุใดถึงทำหน้าเครียดเช่นนั้น"
"คืนนี้..."
"คืนนี้ทำไม"
"คืนนี้ท่านอ๋องไปเรือนของพระชายารองเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นหรือ"
"เจ้าค่ะ พระชายาทรงพักผ่อนเถอะเจ้าคะท่านอ๋องคงไม่มาแล้ว"
"ปิดประตูลงกลอนเถิดข้าง่วงแล้ว"
"เจ้าค่ะ"
"ก็คงจะเป็นเช่นนั้นในเมื่อไม่มาก็ไม่เป็นไร 3 เดือนแล้วที่เป็นเช่นนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในเมื่อสุดท้ายตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยมาที่นี่เลย"
"พระชายาร้องไห้อีกแล้วหรือเจ้าคะ"
"สตรีที่แข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องร้องไห้ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้เองในเมื่อตัดสินใจที่จะแต่งงานเข้ามาที่นี่ย่อมต้องรู้ผลที่ตามมาอยู่แล้ว"
"พระชายา บ่าวติดตามพระชายามาตั้งแต่อยู่ที่แคว้นฉินอยู่กับพระชายาตั้งแต่เด็กจนโต บ่าวรู้ว่าตัวของพระชายารู้สึกอย่างไร"
"ไม่เป็นไรหรอกต่อให้คนข้างนอกเขาพูดอย่างไรแต่ใจของเรารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น"
"พวกบ่าว 3 คนจะรออยู่ข้างนอกนะเจ้าคะหากมีเรื่องอะไรพระชายาเรียกใช้ได้ตลอดเวลาเลย"
"เอ๋อหรง ดูแลคนของเราให้ดีก็แล้วกันอย่าได้ไปมีเรื่องกับคนของตำหนักพระชายารองอีกเข้าใจหรือไม่"
"เจ้าค่ะบ่าวรับทราบแล้ว"
"งั้นก็ดีจะไปที่ใดก็ไปได้เธอไม่ต้องรอคอยรับใช้พรุ่งนี้เช้าก็มาหาแต่เช้าก็พอ"
"เจ้าค่ะ"
ความห่างเหินที่ได้รับสร้างกระแสจิตใจให้ต่ำลงขึ้นเรื่อยๆจากความรักที่เคยมีอย่างมั่นคงให้แก่ท่านอ๋องนับวันยิ่งจืดจางลงเรื่อยๆ
"เจ้าไปตามพระชายาเอกกับพระชายารองมาที่นี่"
"พะยะค่ะท่านอ๋อง"
"เพียงไม่นานสตรีทั้งสองนางก็เดินทางมายังห้องหนังสือของท่านอ๋องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
"พรุ่งนี้ ฝ่าบาทจะไปงานเทศกาลล่าสัตว์พวกเจ้าทั้งสองคนเตรียมตัวให้ดีจะเดินร่วมทางไปกับฝ่าบาท"
"แต่ว่าท่านอ๋องตัวของหม่อมฉันเป็นแค่พระชายารองจะไปร่วมงานได้อย่างไรล่ะเพคะ"
"ทำไมเจ้าถึงจะไปไม่ได้ถ้าจะให้เจ้าไปผู้ใดจะต้องค่ะ"
"แต่ว่า..."
"ไม่มีแต่ทั้งนั้นพวกเราทั้งสองคนไปเตรียมตัวเถอะ"
"เพคะท่านอ๋อง"
ข้าเตรียมตัวไปยังลานล่าสัตว์ในวันพรุ่งนี้ ข้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องอะไรอีกก่อนที่จะทำตัวปกติในเรื่องนี้พวกเขาทั้งสองคนจะชอบแสดงออกถึงความรักของทั้งสองออกนอกหน้าเช่นนี้
"พระชายาไม่รู้อะไรแปลกหรือเจ้าคะ"
"ไม่มีความรู้สึกอะไรนี่ ทำไมหรือ"
"พระชายาไม่เหงาบ้างหรือเจ้าคะ"
"ก็ไม่นะ ทำไมต้องเหงาด้วยข้าก็มีพวกเจ้าอยู่"
"บ่าวถามจริงๆนะเจ้าคะ พระชายารักท่านอ๋องหรือไม่เจ้าคะ"
"ข้ารักท่านอ๋อง ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่แต่งงานด้วยหรอกนะ"
"พระชายาน่าสงสารยิ่งนัก"
"ช่างเถอะรีบเข้านอนได้แล้วพรุ่งยังต้องเดินทางอีก"
"เจ้าค่ะ"
การโกหกบ่าวรับใช้คือการยืนยันที่ดีที่สุดว่าพวกนางใส่ใจค่ามากแค่ไหนแต่การใส่ใจก็ต้องตอบคำถามเพื่อให้นางสบายใจด้วยเช่นกันถามว่ารู้สึกเหงาไหมยอมตอบว่าเหงาอย่างเต็มปากได้เลยก็ว่าได้แต่แล้วอย่างไรต่อให้เหงาอย่างไรก็ไม่อาจที่จะทำอะไรได้อยู่ดี เพราะในท้ายที่สุดความห่างเหินของสามีภรรยา ก็คือการทำลายความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายอยู่ดีแต่ก็คงจะเป็นแค่ข้าคนเดียวที่รู้สึกเช่นนั้น
ในเช้าวันรุ่งขึ้นการเดินทางไปยังลานล่าสัตว์ ในช่วงเช้า ดำเนินต่อไปแต่ละคนมีภาระหน้าที่ของตนเอง ตัวของข้าได้เดินทางไปพร้อมกับ องค์หญิงเจ็ดหลี่ชิงเซียน นางเป็นสตรีที่อายุมากกว่าข้า แต่เป็นคนที่องอาจห้าวหาญสามีขององค์หญิงเป็นเพียงรองเจ้ากรมอาญาเพียงเท่านั้น
"องค์หญิงเหนื่อยไหมเพคะ"
"พี่สะใภ้ข้าไม่เหนื่อยหรอก ทีหลังพี่สะใภ้ไม่ต้องเรียกข้าว่าองค์หญิงเรียกชื่อข้าก็พออย่างไรเราก็เป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว"
"ถึงอย่างไร องค์หญิงก็มีฐานะสูงกว่า"
"ไม่จริงเลยสักนิดขอเพียง เราบริสุทธิ์ใจต่อกันถึงอย่างไรแล้วก็เป็นสหายกันได้ อย่าได้ระแวงสงสัยอย่าได้คือยศถืออย่างเลย พี่ชายของข้าเขาเป็นคนมุทะลุดุดันเอาแต่ใจตนเองมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเพียงพระองค์ชายนิสัยของเขามีเพียงท่านพี่ใหญ่ที่จะจัดการเขาได้"
"ก็คงจะจริง อย่างที่องค์หญิงพูดเขามีนิสัยเช่นนั้นจริงๆ"
"พี่สะใภ้ขี่ม้ายิงธนูเป็นใช่หรือไม่"
"ย่อมเป็นในตอนเด็กพวกเรา 15 คนล้วนต้องฝึกตัวเองตั้งแต่ยังเด็กทำเป็นทุกอย่างทั้งหลายศาสตร์"
"ดีเลยเราไปขี่ม้ายิงธนูกัน"
"เพคะ"
"องค์หญิงเพคะ"
เสียงของพระชายาร้องเรียกองค์หญิงแต่ถึงจะเรียกคุณหญิงอย่างไรนางก็ไม่ยอมหันองค์หญิงเคยพูดว่านางไม่ชื่นชอบสตรีที่เป็นภรรยาน้อยเพราะตัวขององค์หญิงเองในอดีตแต่งงานกับสามีคนก่อนสามีก็นอกใจ พาภรรยาน้อยเข้าบ้านทั้งที่สัญญากับองค์หญิงไว้แล้วว่าจะมีองค์หญิงเพียงแค่คนเดียวนั่นทำให้องค์หญิงต้องหย่ากับสามีและก็แต่งงานใหม่กับรองเจ้ากรมอาญาอย่างปัจจุบันนี้
"องค์หญิงหม่อมฉันเรียกคุณหญิงคุณหญิงได้ยินหรือไม่เพคะ"
"ข้าได้ยิน พระชายารองมีเรื่องอะไร"
"คือหม่อมฉันอยากลองหัดขี่ม้ายิงธนูองค์หญิงช่วยสอนฉันได้หรือไม่เพคะ"
"ข้าไม่สนใจหรอกนะพระชายารองหากเจ้าอยากหัดขี่ม้ายิงธนูก็ให้สามีของเจ้าสอนเอาก็แล้วกัน"
"แต่ว่าหม่อมฉันมาในครั้งนี้ก็ไม่มีผู้ใดพูดคุยกับหม่อมฉันเลยหม่อมฉันจึงอยากที่จะพูดคุยกับองค์หญิงนะเพคะ"
"ข้าไม่ใช่บ่าวรับใช้ของเจ้าที่ต้องตามใจเจ้าและพูดคุยกับเจ้าได้อย่างสะดวกใจข้าไม่พูดคุยกับภรรยารองเช่นเจ้าหรอกนะ"
"หลี่ชิงเซียน!"
"พี่ห้า"
"เหตุใดเจ้าจึงกล่าวว่าพระยาของข้าเช่นนี้"
"แล้วจะทำไม ข้าจะพูดอย่างไรก็ได้ท่านมีปัญหาอะไรกับข้างั้นหรืออย่ามาทำนิสัยข่มผู้อื่นเช่นนี้อีก หากแน่จริงก็สอนภรรยาของเจ้าเอาเองแล้วกัน บอกภรรยาของเจ้าด้วยอย่ามาทำตัวสนิทสนมกับข้า ข้าไม่พูดคุยกับภรรยารอง"
"หลี่ชิงเซียน!!"
"เสด็จพี่ฮ่องเต้!! เสด็จพี่ห้าด่าหม่อมฉัน!!!!"
สงครามระหว่างองค์หญิงกับท่านอ๋องที่ผู้เป็นกลางก็คือฮ่องเต้ที่เป็นพี่ชายที่ต้องห้ามปรามทั้งน้องชายและน้องสาวก็ก่อเกิดขึ้นแต่ดูท่าทางแล้วจะเป็นน้องสาวอย่างองค์หญิงที่เป็นฝ่ายชนะมากกว่า
"ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ!"
"แน่จริงก็รีบมาเอาคืนสิเหอะ!"
"เสด็จพี่ดูนางทำสิพะยะค่ะ!"
"เอาล่ะอย่าทำตัวให้เป็นเด็กมากนักเลยเจ้าเองก็โตมากแล้วอยากได้หาเรื่องน้องอีกเข้าใจหรือไม่เด็กดีไปยิงธนูขี่ม้ากับเสด็จพี่ฮ่องเต้ดีกว่าไปเถอะพระชายาเอกด้วยนะ"
"เพคะ"