ตอนที่ 4 อภิเษก
หยางไป๋
งานอภิเษกสมรสของอ๋องห้ากับข้าก็เกิดขึ้นมาในสามเดือนข้างหน้า เมื่อวันนั้นมาถึงกว่าจะเสร็จพิธีการมากมายที่ถูกจัดขึ้นและท่านแม่ก็ไม่ได้มาร่วมงานมีเพียงพี่น้องที่มาร่วมงานแต่งงานในครั้งนี้ได้การปรากฏตัวของพี่ 4 กับพี่ 6 และน้อง 15 ที่เดินทางมาร่วมงานแต่งงานในครั้งนี้
"ท่านหิวหรือไม่ท่านพี่"
"ไม่หรอกข้ากินอะไรรองท้องมาแล้ว"
"วันนี้ท่านงดงามอย่างยิ่ง"
"ปากหวานยิ่งนักเจ้าสิบห้า"
"ก็มันจริงนี่นา พี่หญิงเจ็ดงดงามมากเลยวันนี้"
"อย่างไรน้องเจ็ด ก็ยังเป็นสตรีป่าเถื่อนในสายตาของพี่เหมือนเดิม"
"ท่านพี่ 6 ก็กล่าวเกินไปพี่หญิง 7 งดงามจะตาย"
เสียงพูดคุยของพี่น้องของข้าก็ดังขึ้นมาเรื่อยๆการสนทนาในการรอคอยฝ่ายเจ้าบ่าวมาถึงห้องหอ จะดำเนินต่อไปจนถึงค่อนคืนฝ่ายเจ้าบ่าวก็ยังไม่มา
"ท่านอ๋องผู้นี้ค่อนคืนแล้วก็ยังไม่เข้าห้องหอ ต้องการจะขัดใจเรื่องอะไรอีก"
"ท่านพี่หก ท่านใจเย็นๆก่อน"
น้อง 15 ทัดทานท่านพี่ 6 มีเพียงท่านพี่ 4 ที่ยังคงเก็บอาการของตนเองเอาไว้ ถึงแม้น้อง 15 จะเอ่ยห้ามปรามแต่ในมือของนามก็ตึงกระบี่ของตนเองออกมาแล้วคงจะต้องเป็นนางที่โดนห้ามมากกว่า
"ใจเย็นๆก่อน"
"เรานั่งพูดคุยกันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงค่อนคืนนี่ก็จะเช้าแล้วเหตุใดเจ้าบ่าวของเจ้ายังไม่มาเข้าห้องหอสักทีทำเช่นนี้เป็นการหยามเกียรติของตระกูลเราอย่างยิ่ง"
พี่หกกล่าวขึ้นมาทำให้ทุกคนนิ่งเงียบไปท่านพี่หก แม้จะเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยแสดงอาการมากนักแต่ถ้าเป็นเรื่องของคนในครอบครัว จะมีอาการเดือดดาลเป็นธรรมดา
"เรียนพระชายาเอกคืนนี้ท่านอ๋องหลับนอนที่ห้องของพระชายารองขอรับ"
"บังอาจ!!!"
"พี่สี่!"
"หากท่านอ๋องไม่มานอนที่ห้องหอในคืนนี้ก็ขอให้แค่มาเปิดผ้าคลุมหน้าของน้องสาวข้า แค่นั้นถ้าไม่มาข้าจะบุกเข้าไปอย่าคิดว่าข้าจะกลัวนะคนเช่นพวกเจ้ามารยาทไม่มีเสียจริง ตระกูลของเจ้าเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์เหตุใดทำตนเยี่ยงคนจรจัดเช่นนี้ไปทูลท่านอ๋องของเจ้ามาบัดเดี๋ยวนี้หากไม่มาเราคงจะได้เห็นดีกัน!!!"
นั่นคือเสียงของท่านพี่สี่ ปกติแล้วจะเป็นคนใจเย็นแต่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาความใจดีอ่อนโยนของเขาแปลเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นมาในทันที
เพียงไม่นานท่านอ๋องก็เดินทางมาพร้อมกับพระชายารอง นั่นจึงทำให้ท่านพี่ต่างไม่พอใจอย่างมากขึ้นกว่าเดิม
"เป็นท่านอ๋องของแคว้นหรง เหตุใดถึงทำตนไม่สำรวมเช่นนี้ ท่าทางของท่านก็บ่งบอกถึงการเป็นอยู่ที่ดีอยู่นะแต่เหตุใดจิตสำนึกที่พึ่งมีของท่านหายไปที่ใด งานแต่งงานที่สมควรต้องเข้าห้องหอกับภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน เหตุใดถึงกระทำการอุกอาจกันเช่นนี้"
"ข้าเป็นถึงอ๋องเหตุใดต้องให้สามัญชนเช่นพวกเจ้ามากล่าวหาเยี่ยงนี้!"
"มารยาททรามจริงๆด้วย"
"ท่านพี่หยุดก่อน"
"จะให้หยุดได้อย่างไรคืนนี้เป็นคืนแต่งงานของเจ้าเจ้าบ่าวควรจะมาเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวไม่เช่นนั้นการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นการแต่งงานที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ต่อให้ไม่นอนร่วมห้องรวมหอทุกคนมาเปิดผ้าคลุมหน้าจิตสำนึกของคนล้วนย่อมต้องมีกันทุกคนเหตุใดถึงกล้าไปนอนห้องของพระชายารอง"
"ข้าจะนอนที่ห้องพระชายารองหรือไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้าเป็นแค่ญาติของพระชายาอีกอย่าเหิมเกริมให้มันมากนัก!!!"
"ดี ในเมื่อต้องการเช่นนี้ข้าจะจะทูลฝ่สบาทแคว้นเจ้าถึงเรื่องนี้ ทำไมหรือจะให้คนพวกนี้จัดการข้าอย่างนั้นหรือ ขนของพวกเจ้าที่เก่งกาจเพียงใดก็ตามแต่ในสายตาของข้าก็แค่เด็กเมื่อวันซืนเท่านั้นเป็นถึงท่านอ๋องที่อายุมากกว่าแต่กับประพฤติตนที่โง่เง่าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน"
"บังอาจ!!!"
"ฝ่าบาทเสด็จ!!!!!!"
เสียงของขันทีดังขึ้นมาแทรกทำให้ทุกคนถึงกับหยุดนิ่งมีเพียงท่านพี่ของข้าเท่านั้นที่ยังอยู่ในอาการโมโหจัดแต่ก็มีท่าทางสงบนิ่งมากขึ้น
"เราได้ยินมาว่าน้องชายของเราไปหลับนอนกับพระชายารองอย่างนั้นหรือ"
"เป็นอย่างที่กล่าวมาพะยะค่ะฝ่าบาท"
"นำตัวพระชายารองไปโบยสามสิบครั้งกักตัวอยู่ในตำหนักจนกว่าเราจพปล่อยออกมา!!"
"พะยะค่ะฝ่าบาท!"
"ฝ่าบาท!!!"
"เราขอเตือนท่านอ๋องเอาไว้หากมีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีกเราจะประหารพระชายารองของเจ้าทันทีจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่นเช่นนี้และครั้งนี้ท่านอ๋องก็คงเข้าร่วมห้องหอได้แล้วใช่หรือไม่"
"ฝ่าบาท!"
"เราถาม!"
"พะยะค่ะ"
"นำตัวนางออกไป ต้องขออภัยทุกท่านตอนนี้ท่านอ๋องของพวกเราจะต้องเข้าห้องหอแล้วเชิญพวกท่านไปยังเรือนรับรอง"
"ขอบพระทัยพะยะค่ะที่พระองค์ให้ความเป็นธรรมกับน้องของกระหม่อม"
"งั้นพวกเราออกไปข้างนอกกันเถอะ"
"พะยะค่ะ!"
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัดมีเพียงแค่ท่านอ๋องและก็ตัวข้าเองที่อยู่ในห้องหอ ในเช้าวันรุ่งขึ้นอาการปวดเนื้อตัวที่ลุกลามตั้งแต่ช่วงกลางคืน ในการร่วมหอครั้งนั้นทำเอาการลุกเดินช่างยากลำบาก การเกิดเป็นสตรีลำบากเสียจริง
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาท่านอ๋องก็ไม่เคยมายังตำหนักของข้าอีกเลย เอาแต่ขลุกตัวอยู่กับผู้ชายอาร้องทั้งวันทั้งคืนตัวของข้าก็ไม่อะไรมากเพียงแค่เฝ้ารอคอยว่าสักวันตัวของเขาจะมาเยี่ยมเยือนข้าที่ตำหนักบ้างก็แค่นั้น ขอเพียงยังมีชีวิตและลมหายใจสักวันหนึ่ง ท่านอ๋องก็คงจะเดินทางมาที่นี่
"น่าสงสารพระชายาเอกยิ่งนัก"
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดถึงต้องสงสารพระชายาเอก"
"ก็พระชายาเอกแม้จะแต่งงานเป็นภรรยาเอกก็จริงแต่สุดท้ายท่านอ๋องก็ทรงรักใคร่พระชายารองมากกว่า"
"แต่ดูไปแล้วพระชายาเอกก็ดูรายการมองมุมไหนก็เป็นสตรีที่แต่งงานเข้ามาเพื่ออำนาจของตนเองไม่ใช่หรือ"
"ถึงแม้จะใช่แต่การที่ท่านอ๋องทำดีกับนางน้อยนิดไม่สิไม่เคยเห็นท่านอ๋องใยดีพระชายาเลยนับตั้งแต่วันที่แต่งงานเข้ามาก็เกิดเรื่องมากมายครอบครัวของพระชายาเอกต่างรุมด่าท่านอ๋องนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ท่านอ๋องไม่ชอบพระชายาอีกเลย"
"จะว่าไปก็น่าสงสารตอนที่อภิเษกเข้ามาที่นี่ท่านอ๋องก็หนีไปนอนที่ตำหนักของพระชายารองทิ้งเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งเข้ามาอยู่ภายในตำหนักเดียวดายแต่จนแล้วจนรอดเพราะครั้งนั้นจึงทำให้พระชายารองถูกโบยและถูกกับตัวนี่ก็ 3 เดือนต้องไปแล้วท่านอ๋องก็ไม่เสด็จไปยังตำหนักของพระชายาเอกเลย"
"จะว่าไปก็น่าสงสารจริงๆนั่นแหละ"