บทที่ 3 ชิงช้าลอยฟ้า
บทที่ 3 ชิงช้าลอยฟ้า
ยามนี้จ้าวไป๋ลู่กำลังเดินชมดอกเหมยที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างเบื่อหน่าย เพราะท่านแม่กับองค์หญิงหงลี่มีเรื่องต้องสนทนาหารือกัน จึงให้นางออกมาเดินเล่น ด้วยกังวลว่านางจะเบื่อหน่ายเสียก่อน
จ้าวไป๋ลู่ทิ้งกายลงนั่งที่ชิงช้า ซึ่งถูกผูกเอาไว้กับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปล้วงขนมกุ้ยฮวาในแขนเสื้อออกมากัดกินอย่างอารมณ์ดี ขนมนี้นางแอบหยิบมาจากในเรือนใหญ่ รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว
"หมิงอวี้ เจ้ามาไกวชิงช้าให้ข้าที"
"คุณหนูเจ้าคะ แต่นายหญิงสั่งเอาไว้ว่า..."
"ช่างท่านแม่เถอะน่า!!! ยามนี้ท่านแม่ไม่เห็น มา เร็ว ๆ"
หมิงอวี้ไม่อาจทัดทานคำสั่งของจ้าวไป๋ลู่ได้ จึงจำใจต้องเดินมาไกวชิงช้าให้นางอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ สนุกยิ่งนัก"
ชิงช้าแกว่งไกวตามแรงมือของหมิงอวี้ที่ผลักออกไป จ้าวไป๋ลู่หลับตาลง ยามนี้นางรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะล่องลอยสู่แดนสวรรค์
"ฮึมมมม"
นางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีในขณะที่ปากก็เคี้ยวขนมกุ้ยฮวาไปด้วย ราวกับเด็กน้อยที่ทั้งห่วงเล่นสนุกและห่วงกินในเวลาเดียวกัน
แกรก
"ว้ายยย คุณหนู!!!"
เสียงร้องตะโกนของหมิงอวี้ทำให้จ้าวไป๋ลู่ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะอุทานในใจ
ตายแล้ว!!! นางบินได้
ไม่ใช่สิ!!!
บัดซบ!!! ชิงช้าขาดหรือ!!!
"อ๊าาาาา!!!"
จ้าวไป๋ลู่เบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก นางมิอาจส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้เพราะยามนี้ในปากยังมีขนมกุ้ยฮวาอยู่เต็มปาก
ไม่ได้!!! ต่อให้แขนขาหักแต่ขนมต้องห้ามร่วงหล่นออกจากปากเด็ดขาด
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงนำขนมกุ้ยฮวาที่ถือเอาไว้ในมือมาคาบไว้ทันที
ด้านหลี่รั่วหานที่กำลังกลับมาจากค่ายทหาร ยามนี้เขาอยากจะพบกับหนิงเสวี่ยใจจะขาด เขาจะถือโอกาสนี้บอกแก่ท่านแม่ว่าเขาจะแต่งงานกับหนิงเสวี่ย ไม่มีทางแต่งกับสตรีอื่นเป็นอันขาด
"อื้ออ อ้วยอ้วย!!!"
"หืมมม เสียงอันใดกัน"
ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยสิ่งใด เมื่อหันไปมองก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง
สตรีน้อยนางหนึ่งกำลังลอยละลิ่วมาทางที่เขายืนอยู่ ผมของนางถูกรวบขึ้นแบ่งเป็นมวยสองข้างราวซาลาเปาก้อนนิ่มสองก้อน ยามสายลมพัดผ่านผ้าปักสีแดงสดที่ผูกมัดพลิ้วไหวขับเน้นใบหน้าขาวเนียนให้ดูสดใสราวบุปผาแรกแย้ม
เดี๋ยวก่อนนางคาบสิ่งใดเอาไว้ในปาก!!!
"อ้วยอ้วย!!!"
"บัดซบ!!! ลอยมาจากที่ใดกัน!!! อ๊า!!!"
โครม ตู้มมม!!!
"คุณหนู!!!"
"ซื่อจื่อ!!!"
ร่างของจ้าวไป๋ลู่ลอยไปชนกับร่างของหลี่รั่วหานที่ยืนตกใจอยู่ ทำให้คนทั้งสองเซถลาร่วงตกลงไปในสระบัวพร้อมกัน
จ้าวไป๋ลู่ตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาบนฝั่ง ในขณะที่หลี่รั่วหานก็มีสภาพสะบักสะบอมไม่ต่างกัน
"แค่กแค่ก!!!"
"บัดซบ!!! เด็กบ้านี่!!! เจ้าจะใจกล้าเกินไปแล้ว!!!"
หลี่รั่วหานจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างเย็นชา อีกทั้งยังตะโกนใส่นางจนตัวนางสะดุ้งเฮือก
แม้ยามนี้นางก็ยังไม่ยอมคายขนมกุ้ยฮวาออกจากปาก
องค์หญิงหงลี่และฮูหยินหลิวอิ๋งผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ก็พากันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฮูหยินหลิวอิ๋งที่ยามนี้กำมือแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ
ไป๋ไป๋เจ้าทำงามหน้าแล้ว!!!
ไม่เพียงแค่องค์หญิงหงลี่และฮูหยินหลิวอิ๋งที่เห็นเหตุการณ์ที่พวกเขากอดรัดกันในสระบัว แต่ทว่าหนิงเสวี่ยก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ใบหน้าสวยฉายแววเย็นชา พลางจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างดูแคลน
อายุเพียงเท่านี้ก็เรียนรู้วิธีแย่งคนรักของผู้อื่นเสียแล้ว!!!
"ซื่อจื่อ เกิดสิ่งใดขึ้น!!!"
องค์หญิงหงลี่รีบเอ่ยถามบุตรชายของตนอย่างห่วงใย ก่อนจะรีบให้คนหาผ้ามาคลุมร่างกายให้จ้าวไป๋ลู่อย่างเร่งด่วน
หลี่รั่วหานปรายตามองจ้าวไป๋ลู่อย่างรังเกียจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
"ลูกเพิ่งกลับมาจากค่ายทหาร แต่โชคร้ายพบเจอสตรีนางนี้ลอยมาจากที่ใดก็มิทราบได้ นางกระโจนเข้าหาลูกจนพาลูกตกสระบัวไปพร้อมกับนางด้วยขอรับ!!!"
ฮูหยินหลิวอิ๋งที่ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหไม่น้อย ด้านหมิงอวี้ที่เพิ่งวิ่งมาถึงอย่างเหนื่อยหอบ ก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"ฮูหยินเจ้าคะ เมื่อครู่คุณหนูกำลังนั่งเล่นชิงช้า แต่สายชิงช้าเกิดขาด ร่างของคุณหนูจึงลอยมา เอ่อ..."
เมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นนาย หมิงอวี้ก็ลอบไว้อาลัยให้นางในใจ
เมื่อกลับเข้ามาในเรือนใหญ่ องค์หญิงหงลี่ก็สั่งให้คนพาจ้าวไป๋ลู่ไปเปลี่ยนชุดเพื่อแก้สถานการณ์ตรงหน้าไปก่อน
จ้าวไป๋ลู่กลับมานั่งข้างกายผู้เป็นมารดา นางรู้ดีว่ายามนี้ท่านแม่โกรธนางยิ่งนัก
หลี่รั่วหานยกถ้วยชาขึ้นดื่ม เขาร้อนใจยิ่งนักอยากจะไปอธิบายให้หนิงเสวี่ยได้ฟังเสียเดี๋ยวนี้ แต่เมื่อได้เห็นแววตาเย็นเยียบของผู้เป็นมารดา เขาจึงทำได้เพียงสำรวมกิริยาเอาไว้
"เอาละ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แม่คงต้องให้เจ้าและจ้าวไป๋ลู่แต่งงานกัน"
"ท่านแม่!!!"
"อารั่ว จ้าวไป๋ลู่เสียเกียรติเพราะเจ้า"
"นางเสนอหน้ามาเอง ลูกมิได้หมิ่นเกียรตินางนะขอรับ!!!"
"แต่ผู้คนต่างเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่หมดแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งนางเข้าจวน"
"ไม่ขอรับ!!! ลูกจะแต่งกับเสวี่ยเอ๋อร์เพียงคนเดียวเท่านั้น!!!"
"อารั่ว แม่ไม่ชอบหนิงเสวี่ย นางเจ้าเล่ห์มากกล ลูกมองนางไม่ออกหรือ!!!"
"แล้วสตรีนางนี้ดีนักหรือขอรับ หากดีจริงคงมิทำเช่นนี้ ลูกว่านางจงใจเข้าหาลูกเพื่อหวังผลประโยชน์เสียมากกว่า!!!"
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!"
ฮูหยินหลิวอิ๋งลอบกำมือแน่น นางเป็นมารดา เมื่อได้ยินวาจาของผู้อื่นที่เอ่ยดูถูกบุตรสาวของตนเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
"อิ๋งเอ๋อร์ เจ้ามิต้องเป็นกังวล อย่างไรเสียข้าจะต้องตบแต่งบุตรสาวของเจ้าเข้าจวนโหวให้ได้"
จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง เมื่อครู่นางไม่ได้มองเขาให้ชัดเจนเท่าใดนัก ยามนี้จึงถือโอกาสลอบพิจารณาใบหน้าเขาอย่างลับ ๆ
ใบหน้าของเขาหล่อเหลา แต่ทว่าแววตากลับดูเย็นชา อีกทั้งท่าทีก็หยิ่งผยองเกินผู้ใด
เวรกรรมแท้ ๆ นางมิน่าไปเล่นชิงช้านั่นเลย
เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมา หลี่รั่วหานจึงเอ่ยกับจ้าวไป๋ลู่ด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน
"ข้าคือซื่อจื่อแห่งจวนโหว มีเกียรติ มีหน้ามีตา สตรีเช่นเจ้ามิคู่ควรกับข้าเลยแม้แต่น้อย หากอยากหน้าด้านแต่งเข้ามา เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุ อย่าคิดว่าข้าจะหลงใหลในตัวเจ้า ไม่มีวัน!!!"
เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไปจากเรือนใหญ่ โดยไม่สนใจผู้ใดทั้งสิ้น
จ้าวไป๋ลู่ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง
แล้วใครอยากแต่งกับท่านกัน!!! ชิงช้ามันลอยไปเองโว้ยยย!!!