บทที่ 19 เวินชิงชิงโดนลี่ซือเจี๋ยขังในห้องทำงานไม่ให้ออกไป
เวินชิงชิงเผชิญกับสายตาลี่ซีหยวน ลี่ซีหยวนใส่รองเท้าส้นสูงสูงกว่าเวินชิงชิง เธอจำเป็นต้องเงยหน้าเล็กน้อย
“ฉันมาด้วยกันกับอาเจี๋ยและเด็กๆ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเราก็จะไป”
เธอรู้ว่าต้องการเปลี่ยนความประทับใจของพวกเขาที่มีต่อเธอโดยทันทีนั้นยากมาก ได้แต่ค่อยเป็นค่อยไป
“เธอยังมีหน้ามากับพวกเขาอีกเหรอ? เวินชิงชิง หน้าเธอหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองอีกนะ!”
ลี่ซีหยวนรู้สึกโกรธจัด
“คราวก่อนเธอเกือบทำโยโยตาย คนที่มีสัญชาตญาณจะไม่ทำแบบนี้หรอก เธอยังมีหน้าวางมาดโผล่มาที่นี่อีก? มียางอายบ้างไหม!”
“ยางอายฉันมีอยู่แล้ว วันนี้ฉันเลยมากินข้าวเพื่อเป็นการขอโทษ แต่ก่อนฉันเคยทำอะไรที่ไม่ดี แต่ที่โยโยตกน้ำ ฉันไม่ได้วางแผนนะ และฉันจะหาหลักฐานมาสอบสวนความจริงด้วย!”
ท่าทางวางตัวเหมาะสมของเธอทำให้ลี่ซีหยวนระแวง
เมื่อก่อนพวกเธอคุยกันไม่ถึงสองประโยค เวินชิงชิงก็ทำหน้าขรึมเดินจากไปทันที แถมยังทำท่าทาง “เธอจะทำอะไรฉันได้” อีกด้วย
วันนี้กินยาผิดงั้นเหรอ?
“หม่ามี๊คะ ป้าคะ พวกคุณกำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ? ป้า ป้าดูโกรธมากเลย โกรธหม่ามี๊เหรอคะ?”
ซีซีเดินมาใช้มือเล็กจูงลี่ซีหยวน มือเล็กนุ่มนิ่มทำให้อารมณ์เธอผ่อนคลายลงมากโดยทันที
เมื่อครู่จะอธิบายกับซีซีก็ได้ยินซีซีพูดขึ้นว่า “ป้าคะ ป้าอย่าโกรธหม่ามี๊เลย วันนี้หนูเรียกให้หม่ามี๊มา ถ้าป้าจะโกรธ โกรธหนูเถอะ”
เธอเงยหน้า เม้มปาก ทำท่าทางน่าสงสาร ใครจะโกรธเธอลงล่ะ!
“ป้าจะโกรธซีซีได้ยังไงล่ะ ไป เราเข้าไปกันเถอะ คงใกล้เวลากินข้าวแล้ว”
ลี่ซีหยวนอุ้มซีซีเดินเข้าไป โยโยอยู่ด้านหลัง เขาเหลือบมองเวินชิงชิงก่อนจะเข้าไปเช่นกัน
ไม่นานก็เสิร์ฟอาหาร
ตอนทานอาหารความสนใจทุกคนล้วนอยู่ที่ตัวเวินชิงชิง เวินชิงชิงแค่ทานอาหาร และตักกับข้าวให้ลูกทั้งสองเป็นบางครั้ง
เธอประพฤติตัวดีแบบนี้ ทำให้ทุกคนไม่ชินเป็นอย่างมาก
“คุณย่า กุ้งนี่อร่อยมากเลยค่ะ” ซีซีทานกุ้งขณะพูดกับแม่ลี่
“อร่อยก็กินเยอะๆ”
“หม่ามี๊คะ หนูอยากกินเต้าหู้กุ้งซุปไข่เค็มฝีมือหม่ามี๊ พรุ่งนี้หม่ามี๊ทำได้ไหมคะ?”
“ได้สิจ๊ะ” เวินชิงชิงวางกุ้งที่แกะเปลือกเรียบร้อยใส่ชามซีซีและโยโย สัดส่วนของทั้งคู่พอๆ กัน ไม่ได้ลำเอียงให้ใครเป็นพิเศษ
โยโยเห็นกุ้งในชามตัวเองก็อึ้ง หม่ามี๊แกะกุ้งให้เขา?
เขามองเวินชิงชิงแล้วมองกุ้งในชามตัวเอง หนีบขึ้นมาวางในปากหนึ่งตัว เขากินช้ามาก เมื่อเขากินหมดหนึ่งตัว ซีซีก็กินหมดไปแล้วสามตัว
“เธอทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?” แม่ลี่ถามอย่างประหลาดใจ
“อืม สองวันนี้ว่างไม่มีอะไรทำก็เลยทำอาหารให้พวกเขาสองมื้อค่ะ”
“กินได้ไหม?” แม่ลี่ทำหน้าไม่เชื่อ น้ำเสียงถากถาง รู้สึกว่าเวินชิงชิงเนี่ยนะจะทำอะไรทานได้
“กินได้ค่ะ อาหารที่หม่ามี๊ทำอร่อยมากเลย” ซีซีพูดขึ้นทันที
แม่ลี่กลับหัวเราะเบาๆ “ซีซีจอมตะกละ ไม่เลือกกิน ถ้าไม่ใช่อาหารที่แย่เป็นพิเศษก็กินได้หมด”
ซีซี: ??? คุณย่า คุณว่าฉันแบบนี้ไม่ค่อยดีเลยนะคะ
“อาหารที่เธอทำอร่อยมากครับ” โยโยเอ่ยปาก พูดจบเขาก็ก้มหน้าทานอาหารต่อ ราวกับว่าแค่พูดโพล่งออกมาหนึ่งประโยคเท่านั้น
แต่คนบนโต๊ะตกตะลึงกันหมด
พวกเขารู้ดีว่าระหว่างโยโยกับเวินชิงชิงมีความระคายเคืองต่อกัน
โยโยเนี่ยนะช่วยเวินชิงชิงพูด? นี่เป็นประวัติการณ์เลยล่ะ
“จริงหรือหลอก?” ลี่ซีหยวนรู้สึกว่าวันนี้เด็กทั้งสองเหมือนกำลังช่วยเวินชิงชิงอยู่ แปลกเกินไปแล้ว เธอเลยถามลี่ซือเจี๋ย
ลี่ซือเจี๋ยพยักหน้า “ไม่เลวเลย”
ได้รับการยืนยันจากลี่ซือเจี๋ย นั่นแสดงว่าเด็กทั้งสองไม่ได้เข้าข้าง
“การทำอาหารไม่ได้ง่ายขนาดนั้น คนที่เพิ่งเริ่มเรียน จะทำอาหารที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆ ได้ง่าย แบบนั้นจะเกิดพิษเอา ในครอบครัวมีเด็กสองคนด้วย อย่าฝืนทำ” แม่ลี่รู้สึกว่าเวินชิงชิงมีเจตนาไม่ดี ทำอาหารเพื่อเอาใจเด็กทั้งสองอย่างแน่นอน
“แม่ ฉันจะตั้งใจเรียนค่ะ”
แม่ลี่: “……” เรียน? เรียนอะไร? ฉันหมายความว่าแบบนี้หรือไง?!
หลังจากทานอาหารเสร็จ เวินชิงชิงก็เสนอให้พ่อลี่ลองใบชา ถ้าชอบ คราวหน้าเธอจะเอามาเพิ่ม
พ่อลี่ไม่ได้หักหน้าเวินชิงชิง ไปหยิบใบชามาเริ่มชง
แต่ลี่ซีหยวนลากลี่ซือเจี๋ยออกไปข้างนอก
“เกิดอะไรขึ้นกับเวินชิงชิง? นิสัยเปลี่ยนเหรอ?”
“ไม่แน่ใจ หลังจากตกน้ำคราวก่อนเธอก็ไม่ค่อยเหมือนเดิม”
“ฉันว่าบุคลิกกับท่าทีของเธอเปลี่ยนไป หรือว่าคิดได้แล้ว?”
“มาคอยดูกันเถอะ กลอุบายเธอสองสามปีมานี้ก็ไม่ได้เยอะธรรมดา”
“ก็จริง ดูไปก่อน อย่าเชื่อใจเธอง่าย ฉันไม่มีทางลืมเรื่องที่เธอก่อในอดีต”
เธอจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งเพราะเวินชิงชิง ลี่ซือเจี๋ยเลยหล่นมาจากวีลแชร์ ขาเกือบบาดเจ็บเป็นครั้งที่สอง ด้วยเหตุนี้คนในตระกูลลี่จึงไม่พอใจเวินชิงชิงยิ่งกว่าเดิม
เมื่อพวกเขาเข้าบ้านไปก็ได้ยินพ่อลี่กำลังชมใบชา แม่ลี่กำลังบูดบึ้งไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆ
“สายแล้ว เรากลับก่อนดีกว่า เด็กทั้งสองกลับไปต้องอาบน้ำอีก” ลี่ซือเจี๋ยพูด
“ซือเจี๋ย แม่ห่อเกี๊ยวให้นิดหน่อย แล้วก็ทำผักดองด้วย พวกเธอเอากลับไปกินนะ”
แม่ลี่หยิบของที่เตรียมไว้เรียบร้อยส่งให้ผู้ช่วย ทั้งหมดนี้ไม่ได้มองเวินชิงชิงแม้แต่ครั้งเดียว
“คุณปู่คุณย่า คุณป้า เราไปแล้วนะคะ จะคิดถึงพวกคุณค่ะ ส่งจุ๊บ” ซีซีเอามือวางบนปากเล็กจากนั้นก็แบมือเป่ามัน ทุกคนขบขันกับท่าทางของเธอ
กลับถึงตระกูลลี่ เวินชิงชิงเพราะความประหม่าสุดขีดอยู่ตลอด ถึงจะไม่ทำอะไรแต่ก็เหนื่อยมาก เธออาบน้ำเสร็จลิสต์รายการอาหารที่จะทำพรุ่งนี้แล้วไปพักผ่อน
อาหารเย็นวันรุ่งขึ้น
ลี่ซือเจี๋ยมีงานสังสรรค์ไม่ได้กลับมาทานอาหาร
อาหารที่เวินชิงชิงทำในตอนนี้เป็นที่นิยมของเด็กๆ ทั้งสอง ซีซีอวยเวอร์อย่างบ้าคลั่ง โยโยแค่รับผิดชอบเรื่องทาน บางครั้งก็แขวะว่าซีซีคุยโวเกินไป
เธอให้เด็กทั้งสองอาบน้ำเสร็จ อ่านหนังสือและดูการ์ตูนแล้วให้พวกเขาไปนอน
ประมาณสี่ทุ่ม เวินชิงชิงพบว่าลี่ซือเจี๋ยก็ยังไม่กลับ
เธอนึกถึงเรื่องแผนโครงการ
พิจารณาสักพักก็ตัดสินใจฉวยโอกาสเวลานี้ไปดูในห้องทำงานลี่ซือเจี๋ยสักหน่อย
ประตูห้องทำงานล็อกรหัสผ่าน เธอรู้รหัส ป้อนเสร็จก็เข้าไป ปิดประตูอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นระรัว
แผนโครงการนี้สำคัญมากสำหรับสวี่เจ๋อยวี่!
สำหรับลี่ซือเจี๋ย ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ฉะนั้นเขาคงไม่ล็อก
อย่างที่คิดไว้ เวินชิงชิงเจอแผนโครงการในลิ้นชัก
ยังไงก็เป็นการขโมยของ มือตึงเครียดของเวินชิงชิงกำลังสั่งระริก
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายแผนโครงการทันที สรุปคือถ่ายมาได้สามสี่หน้า จู่ๆ ประตูทางเข้าก็มีเสียงกรอกรหัสผ่านดังขึ้น!
ลี่ซือเจี๋ยกลับมาแล้ว?
เวินชิงชิงเต้นตึกตักอย่างหนักอึ้ง รีบวางแผนโครงการกลับไปในลิ้นชักแล้วมองรอบๆ เธอวิ่งเหยาะๆ ไปซ่อนตัวหลังโซฟา
เกิดเสียง “แกร็ก” ประตูถูกเปิดออก
ด้วยการย้อนแสง โครงหน้าหล่อลี่ซือเจี๋ยซ่อนในเงามืด มองอารมณ์ไม่ออก
วินาทีที่เปิดประตู เขาขมวดคิ้วโดยไม่สามารถสังเกตเห็นได้ จากนั้นก็พูดกับผู้ช่วยว่า “นายออกไปก่อนเถอะ”
“ครับ”
ห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบอันน่าประหลาด
ด้านหลังโซฟา ฝ่ามือตึงเครียดของเวินชิงชิงเหงื่อไหลอยู่ตลอด ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงออกมา กลัวลี่ซือเจี๋ยสังเกตถึงอะไรบางอย่าง
เสียงวีลแชร์กลิ้ง ‘เอี๊ยดอ๊าด’ ดังบนพื้นไม้
เสียงนั้นเหมือนกดดันในหัวใจเวินชิงชิง ทุกครั้งที่เข้าใกล้ หัวใจเธอก็หนักอึ้งขึ้น!
เห็นว่าลี่ซือเจี๋ยใกล้จะเห็นตน เวินชิงชิงก็กัดปากแน่น ทั้งร่างตึงเครียดจนมีเหงื่อผุด!
เมื่อเธอคิดว่าตัวเองโป๊ะแตก ลี่ซือเจี๋ยจู่ๆ ก็หยุด
‘ฟู่’ ……
ไม่เห็นก็ดี
เวินชิงชิงลูบหน้าอกโล่งใจ
ทว่ายังไม่ทันได้โล่งอก วินาทีต่อมา “ออกมา!”