๔ คนที่ไม่เคยสำคัญ (๓)
“ทน เธอบอกจะยอมทุกอย่างไม่ใช่เหรอ” สิ่งที่เขาบอกต่อเธอมีเพียงเท่านั้น แล้วรีบถอดเสื้อกับกางเกงของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว พอไม่มีกางเกงชั้นในทุกอย่างมันจึงง่าย ความใหญ่โตผงาดสู้จนหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
แค่คิดว่าเขาจะใส่มาไม่ยั้งก็เจ็บมากแล้ว ร่างหนาจัดการถอดกางเกงนอนของเธอออกพร้อมกับรูดกางเกงชั้นในให้พ้นกายแบบบาง หลังจากนั้นจึงแหวกขาเรียวให้กว้างค่อยสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปข้างในไม่ผ่านการโอ้โลมใดๆ ทั้งสิ้น
มือหนายังคงบีบเคล้นทรวงอกขาวจนขึ้นสีแดงเป็นริ้ว ขยี้ปลายถันจนคนใต้ร่างครางไม่เป็นศัพท์ ทั้งเจ็บปวดและเสียวซ่านในคราวเดียวกัน
“พี่ฟ้ายังไม่เลิกรักพี่ลินเหรอคะ” เขาเคลื่อนกายอย่างรวดเร็วไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลง เล่นเอาร่างบางตัวสั่นคลอนอยู่บนเตียงนุ่ม แล้วเอ่ยสิ่งที่ไม่ควรถามในเวลานี้เพราะเหมือนโยนฟืนเข้ากองไฟที่กำลังโหมกระหน่ำ
มันจะยิ่งทำให้เพลิงลุกไหม้มากกว่าเดิม และเขาก็โมโหจนกระแทกไม่ยั้งทั้งยังเลื่อนมือมาบีบบั้นท้ายงามงอน ฟาดลงหนึ่งครั้งเหมือนเป็นการลงโทษ
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” ไม่รู้ว่าพิณพรทราบได้อย่างไร เรื่องความรู้สึกพิเศษที่เขามีต่อน้องสาวต่างสายเลือดที่มันไม่อาจเป็นไปได้
เขาถอนกายออกแล้วจับเธอพลิกคว่ำหน้า ร่างบางยอมทำตามไม่อิดออดเหมือนร่างกายที่ไร้วิญญาณ แอ่นบั้นท้ายให้เขาเชยชมก่อนชายหนุ่มจะแทรกกายเข้ามาอีกครั้งพร้อมการเคลื่อนไหวที่รุนแรงกว่าเดิม
เสียงครางหวีดดังจนเธอต้องกำผ้าห่มเอาไว้แน่น กายชายเข้าไปลึกกว่าเก่าจนเสียวซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไรจนต้องร้องวอนขอชีวิต
“อ่า อ่ะ เจ็บ เพลงเจ็บ” มือหนาเอื้อมมือด้านหน้าแล้วคว้าทรวงอกที่หย่อนตามแรงโน้มถ่วง เขาขยี้ปลายถันอยู่อย่างนั้น ทั้งกอบกุมดอกบัวคู่งามเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน
แต่ไม่นานร่างเล็กก็กระตุกเมื่อถึงฝั่งฝัน พร้อมชายหนุ่มที่ปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาเต็มช่องทางรักเนื่องจากไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ช่วงนี้เขาไม่มีเวลาจะซื้อมาพกไว้จนต้องลำบากหญิงสาวให้กินยาคุม
เมื่อเสร็จกิจแล้วก็ค่อยถอนหายออกจากหล่อนแล้วหอบหายใจถี่ หยิบเสื้อและกางเกงที่กองบนพื้นมาสวมอย่างรวดเร็ว ปล่อยร่างบางให้นอนคุดคู้อยู่บนเตียงเพียงลำพัง ส่วนตนก็กลับไปนอนที่ห้องตัวเองหลังระบายความโกรธเรียบร้อย
พิณพิณค่อยเอื้อมไปหยิบผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้ เธอตัวสั่นแล้วร้องไห้อย่างอดสูกับชะตากรรมรักของตัวเอง ไม่คิดว่ามันจะลงเอยเช่นนี้
ตอนไหนจะออกจากวังวนที่แสนอึดอัดสักที...เธอจะทนเพื่ออะไรในเมื่อเขาไม่เคยหันมามองตนเลย จากที่คิดเข้าข้างตัวเองวันนี้รู้ซึ้งอย่างดีแล้ว
เธอก็แค่คนใกล้ตัวที่คว้าง่ายเท่านั้น ไม่มีหวังจะเป็นคนรักของเขาหรอก คิดอย่างนั้นแล้วร้องไห้จนผล็อยหลับไปโดยไม่ได้ล้างเนื้อตัวด้วยซ้ำ
กลับจากบ้านสวนมาได้หนึ่งสัปดาห์เขารู้สึกว่าพิณพรไม่ค่อยมาหาตนเอง เธอเงียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างหนานั่งดื่มกาแฟและขนมปังทาแยมอยู่ที่โต๊ะอาหาร จ้องโทรศัพท์เหมือนรอแจ้งเตือนแต่กลับไม่มีข้อความเข้า
ถอนหายใจพลางส่ายศีรษะ ไม่นึกว่าตัวเองจะคิดถึงเธอได้ เหมือนกับว่ามันกลายเป็นความเคยชินที่จะเห็นหญิงสาวมาวนเวียนรอบกาย พอหายไปจึงนึกเป็นห่วง...
แต่ไม่นานก็มีเสียงออดดังพร้อมการมาเยือนของไรลินยา การมาครั้งนี้ถูกไตร่ตรองไว้ก่อนเป็นอย่างดี เธอวางบัตรของขวัญสุดพิเศษที่ได้มาจากเพื่อนสนิท
“มาหาพี่ถึงห้องเพราะต้องการเอาบัตรนี้ให้เหรอ” ร่างหนารับมาถือไว้ก่อนจะอ่านรายละเอียด
เขาสามารถไปดินเนอร์ที่รูฟท็อปสุดหรูของโรงแรมห้าดาวใจกลางเมือง โดยมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งหมื่นบาท สามารถมองเห็นวิวทั่วกรุงเทพมหานครเมืองอันไม่เคยหลับใหล มีระยะเวลากำหนดในการใช้เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น และจะหมดเขตสิ้นเดือนนี้แล้ว
“ใช่ไง ช่วงนี้พี่ธีมไม่ว่างจะชวนไปก็ไม่ได้ แต่ถ้าให้ไปกับพี่ฟ้าเดี๋ยวคนจะคิดว่าลินนอกใจสามี เลยเอามาให้พี่ฟ้าพาผู้หญิงไปดินเนอร์ดีกว่า อยากชวนใครไปก็จัดการเองเลยนะ” ตบบ่าหนาแล้วเข้าไปรินน้ำส้มมาดื่ม หล่อนจัดการตนเองไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องอนุญาต
เขามองบัตรนั้นแล้วนิ่งคิด แวบแรกใบหน้าหวานของใครบางคนก็ผุดขึ้นมาจนน่าตกใจ ปกติมักจะคิดถึงไรลินยาแต่คราวนี้กลับเป็นพิณพร
ไม่ใช่แล้ว...มันต้องมีอะไรผิดพลาด สมองเขาถูกกระทบกระเทือนหรือเปล่า
“พี่จะชวนใครได้ล่ะ เพื่อนที่ทำงานหรือไง” วางบัตรเอาไว้แล้วไม่เหลียวมอง แกล้งทำเหมือนว่าไม่มีใครในใจ ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งคิดถึงใครบางคน
“ไม่งั้นก็ลองชวนเพื่อนห้องตรงข้ามสิ...” เริ่มการเป็นกามเทพเพื่อเชื่อมหัวใจสองดวงเข้าหากัน เธอรู้แน่ชัดเรื่องความรู้สึกของพิณพร แต่กับพี่ชายของตนเองยังคงก่ำกึ่งไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“คิดจะเป็นแม่สื่อเหรอ”
“ก็ลินไม่อยากให้พี่ฟ้าโสดนาน เอาเถอะจะชวนใครก็ชวน น้องแค่มาชี้ทางสว่างให้ส่วนพี่จะรับไหมก็ตามใจ ไปก่อนนะมีนัดกับเพื่อน บ๊ายบายค่ะ” ดื่มน้ำหมดก็วางแก้วไว้ในซิงค์ล้างจาน แล้วโบกมือลาพี่ชายพร้อมออกจากห้อง
เหลือเพียงร่างหนาที่มองบัตรกำนัลอย่างคิดหนัก ไม่รู้ว่าควรตัดสินใจอย่างไรดี...
พอเหลือบไปมองนาฬิกาก็เห็นว่ากำลังจะไปทำงานสาย เขาหยิบบัตรนั้นใส่กระเป๋ากางเกงแล้วหยิบของสำคัญใส่กระเป๋าสะพายข้างสำหรับผู้ชาย แล้วรีบออกจากห้องทันที
แต่กลับเปิดออกมาเจอคนห้องตรงข้ามที่กำลังจะออกไปทำงานเช่นกัน ไม่ได้พบหน้าหล่อนหนึ่งสัปดาห์เต็มแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าควรทักทายอย่างไร
หล่อนล็อคห้องตัวเองเรียบร้อยก็เดินไปยังลิฟต์ ร่างสูงเองทำเพียงเดินตามแล้วมองแผ่นหลังบางที่ไม่ได้เห็นมานาน ทั้งที่ความจริงเราไม่ได้พบหน้ากันแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น ระหว่างรอลิฟต์ไม่มีใครพูดอะไรจนบรรยากาศมีแต่ความเงียบ
“พี่ฟ้าไปทำงานสายนะคะ” เป็นพิณพรที่อดไม่ได้จนต้องถาม หล่อนยิ้มให้เขาเล็กน้อยเป็นการทักทาย
“อืม ตื่นสายน่ะ” เมื่อคืนก็นอนกระสับกระส่าย สะดุ้งตื่นบ่อยจนน่าหงุดหงิด เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองเป็นอะไร เหลือบมองข้างกายที่ว่างเปล่าได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็เอามือนอนก่ายหน้าผากแทบทั้งคืน
“ของใกล้หมดหรือยังคะ วันนี้เพลงว่างเดี๋ยวจะไปซื้อของมาเติมให้” เข้ามาภายในกล่องโดยสารเธอก็ยังชวนเขาคุยเหมือนเดิม พยายามทำทุกอย่างไม่ให้หมื่นฟ้าเห็นว่าตนน้อยใจเขามากเพียงใด
ตั้งแต่วันที่นอนด้วยกันอยู่บ้านสวนคุณย่าเธอก็หายหน้าหายตาไปทันที หล่อนเหมือนนกน้อยบาดเจ็บที่กลับไปนอนบ้านเพื่อรักษากายและใจ
พอเริ่มหายก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง...แล้วก็ต้องเจ็บอยู่ร่ำไป
“ไม่รู้เหมือนกัน อยากทำอะไรก็ทำเลย...ตามใจเธอ” คำตอบที่ได้แทบไม่เชื่อหูตัวเอง หันขวับเพื่อมองหมื่นฟ้าให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้พูดปด เสียงอ่อนโยนกว่าปกติ ไหนจะแววตาที่มองมาอีก
“ค่ะ” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนริมฝีปากจิ้มลิ้ม ใจที่เคยเว้าแหว่งเหมือนถูกเติมเต็ม
“เย็นนี้ว่างหรือเปล่า” มือหนาที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเจอกระดาษใบหนึ่ง ก็นึกได้ว่าน้องสาวเอาบัตรกำนัลมาให้จึงเหลือบมองพิณพรก่อนกระแอมเพื่อเรียกกำลังใจให้ตนเอง สุดท้ายแล้วเขาเลือกจะทำตามคำแนะนำของไรลินยา
“ว่างค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“ฉันได้บัตรนี้มาฟรี...ไปด้วยกันสิ” ยื่นให้หญิงสาวที่รับรับมาอ่านอย่างรวดเร็ว เธอเกือบขยี้ตาตัวเองพร้อมกับหยิกแขนให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป
หมื่นฟ้ากำลังชวนหล่อนไปดินเนอร์!
“ได้ค่ะ!”
“งั้นเจอกันตอนเย็น” ประตูลิฟต์เปิดเขาก็ก้าวออกมาอย่างรวกเร็ว เหลือเพียงร่างบางที่ถือบัตรใบนั้นเอาไว้ด้วยใจที่เต้นแรง
ไม่นึกว่าเขาจะชวนหล่อนไปด้วย...สงสังต้องเปลี่ยนเส้นทางจากไปทำงานเป็นไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อชุดใหม่เสียแล้ว