๔ คนที่ไม่เคยสำคัญ (๑)
๔
คนที่ไม่เคยสำคัญ
ช่วงบ่ายแดดไม่แรงมากนัก พวกเขาจึงเลือกมาพายเรือไปเก็บสายบัวเพื่อทำอาหารเย็น พออยู่บ้านสวนไรลินยาก็ร่าเริงกว่าปกติ พิณพรยิ้มได้เยอะเช่นเดียวกัน หล่อนถ่ายภาพบรรยากาศเอาไว้เยอะจนกลัวว่าความจำจะเต็ม
ไม่เคยรู้ว่าบ้านสวนของคุณย่าจะร่มรื่นขนาดนี้ ปกติเธอไปบ้านพักตากอากาศที่เชียงใหม่ แต่กลับไม่ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มเหมือนที่นี่ ทั้งยังใกล้เมืองหลวงเดินทางเพียงไม่นานก็ถึง
สงสัยครั้งหน้าคงต้องมาเองแล้วล่ะ...หรือไม่อย่างนั้นก็ชวนหมื่นฟ้ามาด้วย แต่ไม่รู้อีกฝ่ายจะยอมหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ไรลินยาเป็นคนชวนเชื่อว่าคุณหมอฟันก็คงใช้วันหยุดอยู่ห้องสี่เหลี่ยมนั่นแหละ
“ดอกบัวสวยจังเลย” มองดอกบัวที่ถูกวางเป็นกองอยู่บนเรือพายไม้ โดยคนพายจะเป็นใครไม่ได้นอกจากหมื่นฟ้า ไรลินยานั่งตรงกลางและพิณพรนั่งหน้าสุด เธอช่วยเก็บบัวอย่างสงบเสงี่ยมไม่พูดอะไรหากไม่ถูกถาม
หญิงสาวพยายามซึมซับบรรยากาศมากกว่าจะฟังเสียงพูดคุยของสองพี่น้อง เจ็บทุกครั้งที่เขาแทนตัวเองว่าพี่ด้วยน้ำเสียงที่แสนอ่อนโยน ต่างจากพูดกับหล่อนอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ว่าได้เยอะแล้วนะ เรากลับกันเถอะ” คนพายเริ่มเหนื่อย เขาเพิ่งฝึกก่อนลงเรือโดยมีป้าม่านสอนจนเริ่มชำนาญ ตอนแรกก็สนุกแต่พายไปเรื่อยเริ่มเมื่อยแขนแล้ว
“เดี๋ยวสิพี่ฟ้า ยังไม่เยอะเลยขอเก็บอีกหน่อย” ทว่าน้องสาวก็ยังสนุกกับการนั่งบนเรือเพื่อเก็บสายบัว คิดว่านอกจากทำกินเองแล้วจะนำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านละแวกนี้ด้วย จะได้อร่อยกันอย่างทั่วหน้า
“เอาแต่ใจ”
“พี่ฟ้ายอมตามใจไหมล่ะ” น้องสาวทันได้ยินพอดีจึงโต้กลับทันควัน ร่างหนาถอนหายใจพลางส่ายศีรษะอย่างระอาปนเอ็นดู เขาไม่เคยเถียงชนะเธอสักที
ยอมให้ไรลินยาตลอด...
“ขัดได้ด้วยหรือไง” ถึงไม่อยากได้ยินแต่เพราะอยู่เรือลำเดียวกันทำให้คำพูดพวกนั้นเข้าหูหล่อน พิณพรมองดอกบัวที่มีอยู่เต็มคลองแล้วพยายามเพ่งสายตาไปตรงนั้นเพื่อไม่ให้ตนเองเจ็บปวดกับความคิดที่จมดิ่ง
เป็นได้แค่คนแอบรักก็คงไม่มีสิทธิ์จะหึงหรือหวง แต่ความรู้สึกมันห้ามกันได้เสียที่ไหน เจ็บเองก็คงต้องรักษาตัวเอง
“เป็นพี่ชายที่น่ารักที่สุดเลย พายไปตรงนั้นหน่อยพี่ฟ้า ดอกบัวสวยมากอยากได้”
“ครับคุณหนู” พายไปตามตำแหน่งที่หล่อนบอก ไรลินยาจึงเริ่มเก็บสายบัวโดยเอื้อมไปคว้าสายที่อยู่ค่อนข้างไกล แต่ดอกสวยและก้านใหญ่กว่าต้นอื่นที่อยู่ใกล้
ทว่ามันทำให้เรือโคลงเคลงจนร่างสูงนึกกลัว รีบพายเข้าไปใกล้กว่าเดิมไม่ให้หญิงสาวได้ยืดตัวไกล เขาเริ่มเป็นกังวลจนต้องเอ่ยเตือน
“ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอก เอาดอกอื่นที่อยู่ใกล้ดีกว่า” โน้มน้าวให้คนที่พยายามจะเด็ดสายบัวมาให้ได้ แต่รู้สึกมันจะยากเหลือเกิน จนหล่อนต้องออกแรงมากกว่าปกติ
“ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงฝีมือลินซะอย่าง” บอกให้พี่ชายหายห่วง แต่พิณพรก็เริ่มเป็นห่วงเสียแล้วเมื่อเห็นว่าเรือเริ่มโคลงเคลง หล่อนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากแล้วมองน้ำที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้บ้าง
ถ้าเรือคว่ำแย่แน่เลย...เธอยิ่งกลัวอยู่ด้วย
“พี่ลินให้เพลงช่วยไหม” ถามเพื่อหวังว่าตนจะช่วยอะไรได้บ้าง ถ้าไม่ได้ดอกนี้เชื่อว่าไรลินยาคงไม่ยอมกลับฝั่งแน่
“ไม่เป็นไรๆ พี่ว่าพี่ไหว...ว้าย” เอื้อมไปคว้าโดยไม่ทันระวังว่าเรือเอียงมากกว่าเดิม ไม่ทันที่จะได้เด็ดดอกบัวเรือก็คว่ำทันทีทำให้สามคนที่นั่งต้องตกน้ำ
พิณพรกลัวมากถึงตนจะว่ายน้ำเป็นก็ตาม แต่มันคนละความรู้สึกกับตอนที่อยู่ในน้ำสีฟ้าใสสะอาด ไม่มีดินโคลนหรือสิ่งสกปรกที่มากับน้ำเหมือนคลองบ้านสวน เธอจึงรีบโผล่หน้าขึ้นเหนือน้ำแล้วมองไปทางหมื่นฟ้าทันที
คิดว่าเขาอาจจะเป็นห่วงตนเอง...ทว่าร่างสูงกลับเปล่งเสียงเรียกเพียงไรลินยาคนเดียวเท่านั้น
“ลิน! เป็นอะไรหรือเปล่า” คุณหมอฟันรีบว่ายไปหาน้องสาวแล้วถามเสียงกังวล คนท้องรีบหน้าแล้วหายใจเอาอากาศเข้าปอด เธอเองก็ตระหนกแต่ไม่กล้าบอกพี่กลัวโดนดุ
“ไม่เป็นไรพี่ฟ้า ลินโอเค น้องเพลงเป็นอะไรไหม” เมื่อไรลินยาหันมาถามน้องสาวอีกคนที่มาด้วยกัน หมื่นฟ้าถึงเพิ่งได้สติแล้วค่อยหันมองหล่อน พอเห็นว่าร่างบางไม่เป็นอะไรก็กลับมาสนใจว่าที่คุณแม่เหมือนเดิม
“ไม่ค่ะ” ตอบเสียงเบาแล้วยิ้มฝืดเฝื่อนให้อีกฝ่าย จ้องมองร่างหนาที่เอาแต่สำรวจคนเป็นน้องอย่างกังวล ถึงจะอยากดุแต่ก็ไม่กล้ากลัวจะทำใหอีกฝ่ายร้องไห้ จึงทำเพียงว่ายน้ำอยู่ข้างกายเผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
“รีบขึ้นข้างบนดีกว่า ว่ายน้ำไหวใช่ไหม” ไม่มีคำถามจากร่างหนามาถึงเธอเลย เขาพูดกับไรลินยาจนหล่อนน้อยใจ แต่เลือกจะไม่พูดและเก็บเอาไว้ ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งไปก่อนไม่หันไปสนใจคนทั้งสอง ดวงตาแดงก่ำไม่รู้จากการลืมตาในน้ำเมื่อครู่หรือกำลังจะร้องไห้กันแน่
เธอรู้เพียงแค่ต้องขึ้นไปอยู่บนบกให้เร็วที่สุด แล้วรีบเข้าห้องของตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า...
“ไหวสิพี่ฟ้า” ไรลินยาพยายามบอกพี่ชายให้คลายกังวลแล้วว่ายไปขึ้นฝั่ง พวกเธอพายเรือออกห่างจากศาลาริมน้ำแต่ก็ถือว่ายังอยู่ในเขตบ้านสวนของคุณย่า จึงต้องขึ้นฝั่งโดยการใช้แรงดันตัวเพื่อให้ขึ้นมายืนข้างบนได้
หมื่นฟ้าช่วยดันน้องสาวจากข้างหลังแล้วค่อยถีบตัวเองขึ้นข้างบน ทันเห็นแผ่นหลังเล็กที่วิ่งเข้าไปในตัวบ้าน เห็นว่าหล่อนปลอดภัยดีจึงค่อยประคองน้องสาว
“ลินไม่ได้เป็นอะไรพี่ฟ้าไม่ต้องประคองก็ได้...เสียดายอุตส่าห์เก็บสายบัวมาได้ตั้งเยอะ” เหลียวหลังไปมองเรือที่พลิกคว่ำและสายบัวที่เก็บไว้ลอยขึ้นเหนือน้ำ ถ้าไม่กังวลว่าใต้น้ำอาจมีสัตว์อันตรายคงกลับไปเก็บแล้ว
แต่ดูเหมือนพี่ชายของเธอจะไม่ยอม
“เดี๋ยวพี่ไปเก็บให้ใหม่เอง เราขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ” เธอทำหน้ายู่ทันทีแล้วมองร่างหนาที่เปียกโชกไปทั้งตัวเช่นเดียวกัน
“พี่ฟ้าไม่ไปเปลี่ยนชุดเหรอ”
“ไม่ล่ะ ลินขึ้นไปเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเก็บสายบัวแล้วเอาไปให้ป้าม่านเอง” พอได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มแล้วพยักหน้า
“รีบมานะ”
“อืม” หมื่นฟ้าเลือกลงน้ำแล้วไปเก็บสายบัวให้น้องสาว เขาพลิกเรือให้กลับมาใช้งานได้ปกติ แล้วเริ่มเก็บสายบัวขึ้นไปไว้บนเรือ เขาจัดการทุกอย่างคนเดียวภายในเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ค่อยพายเรือไปที่ศาลาริมน้ำแล้วผูกเรือเอาไว้
ไม่ลืมหอบสายบัวไปหลังบ้านให้ป้าม่านเป็นคนจัดการต่อ ค่อยอาบน้ำอยู่ข้างล่างแล้วสวมโสร่งของคุณลุงเพื่อขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตนเอง
“ป้าทำอาหารอร่อยมากเลยค่ะ เอาไว้เพลงจะขอมาเรียนด้วยนะคะ” หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาก็นอนพักผ่อน ตื่นมาอีกทีเพื่อดูเวลาก็พบว่าสี่โมงเย็นเสียแล้ว ชายหนุ่มจึงไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วค่อยลงมาข้างล่าง