๓ เขาคือความสุขที่แสนเจ็บปวด (๓)
วัยมัธยมผมเปีย...
“เสร็จแล้วค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ” สะพายกระเป๋าถักสีรุ้งแล้วใส่โทรศัพท์เอาไว้ข้างใน เธอถามไรลินยาที่อยู่ในชุดเดรสสีดำโดยสวมเสื้อยืดไว้ข้างในและใส่กางเกงผ้านิ่ม อาจดูแปลกตาแต่พออยู่บนร่างกายของอีกฝ่ายกลับกลมกลืน
“น้องเพลงน่ารักจังเลย เหมือนพี่เดินกับเด็กมอปลาย น้องน่ารักไหมพี่ฟ้า” พอเหลือบไปมองหมื่นฟ้าที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์สีซีดและผมที่ไม่ได้เซ็ททำให้เธอรีบหลบสายตาทันที เผลอลุ้นกับคำตอบของชายหนุ่ม
ความจริงที่เธอเลือกชุดนี้เพราะมันดูน่ารัก อยากให้เขาเอ่ยชมตนเองบ้าง...ซึ่งไรลินยาก็ช่วยได้มาก ลำพังมากันสองคนเธอคงไม่กล้าถามเขาหรอก
“ก็...อือ น่ารักดี” ดวงตาคมจ้องมองตาไม่กระพริบ ตอนแรกจะปฏิเสธแต่ก็ต้องยอมรับเพราะหล่อนน่ารักมากจริงๆ
เป็นไทป์ที่ผู้ชายทั่วไปน่าจะชอบ ตัวเล็ก ตาโต ผิวขาว...
“ขอถ่ายรูปไว้หน่อยแล้วกัน พี่ฟ้ามายืนข้างน้องหน่อยสิ ถ่ายคนเดียวแล้วแปลกๆ” ว่าที่คุณแม่เห็นอาการของพี่ชายก็แอบยิ้มกริ่ม แล้วสร้างสถานการณ์ให้คนทั้งสองทันที เธอเชื่อว่าพิณพรต้องอยากได้รูปคู่กับหมื่นฟ้าแน่
แต่รอให้พูดเองก็คงไม่พูดหรอก หล่อนจึงเลือกจะจัดแจงเองทุกอย่าง ทำหน้าที่แม่สื่อให้เต็มที่สักหน่อย
“แล้วลินไม่ถ่ายด้วยเหรอ” ร่างหนารีบท้วงทันที จนสาวชุดเอี๊ยมที่กำลังจะเดินไปยืนข้างเขาต้องชะงัก ชายหนุ่มทำราวกับไม่อยากถ่ายรูปกับหล่อน...
“ค่อยถ่ายทีหลังน่า เร็วๆ พี่ฟ้ายืนตรงนี้น้องเพลงยืนตรงนี้ มองกล้องนะ ยิ้มหน่อยค่า” สุดท้ายไรลินยาก็ต้องลากแขนพี่ชายมายืนข้างพิณพรจนได้ ถึงใบหน้าคมดูจะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม ขณะที่คนตัวเล็กกว่าแก้มแดงปลั่งด้วยความเขิน
เธอฉีกยิ้มให้กล้องอย่างมีความสุข ค่อยยกมือขึ้นมาชูสองนิ้ว สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่ถือกล้องจนต้องเอ่ยชม
“สวยมาก พี่ฟ้าโอบไหล่น้องหน่อย ถ่ายรูปเหมือนถ่ายบัตรประชาชน เร็วสิ” น้องสาวไม่ค่อยชอบใจคนที่ฝืนยิ้มแล้วยืนตัวตรงจนดูแข็งทื่อ เลยเดินเข้าไปเอาแขนเขาโอบไหล่บาง เล่นเอาพิณพรสะดุ้งไม่ต่างจากหมื่นฟ้า
ไรลินยารีบกลับมาถ่ายภาพยามที่สองคนเหลียวมองหน้ากัน ภาพสวยมากจนต้องเอ่ยชม ไหนจะพื้นหลังที่เป็นท้องฟ้าและต้นไม้ใหญ่อีก
“อย่างนั้นแหละ...โอเค เพอร์เฟค!” ยิ้มพึงพอใจกับแผนการของตัวเอง เมื่อถ่ายเสร็จร่างหนาก็รีบออกห่างหล่อนทันที ส่วนพิณพรก็เดินมาดูภาพแล้วแอบยิ้มเพราะมันช่างน่ารักเสียเหลือเกิน เป็นครั้งแรกที่ได้ถ่ายภาพคู่กับเขา
“พี่ถ่ายกับลินบ้าง ถ่ายให้หน่อย” ยื่นโทรศัพท์ให้พิณพรทันที หล่อนก็รับมาแบบงงๆ ส่วนคนเป็นน้องสาวก็ถูกพี่ลากไปยืนตรงที่เคยยืนกับเธอ
สาวอายุน้อยสุดในกลุ่มพยายามทำหน้าให้เป็นปกติ ถึงแววตาจะหม่นแสงลงกว่าเมื่อครู่ที่มองภาพคนทั้งสองผ่านหน้าจอโทรศัพท์
อย่างไรไรลินยาก็เป็นภรรยาของพี่เธอ...ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก
“พี่ฟ้าอย่าล็อคคอสิ มันหายใจไม่ออก” หยอกน้องสาวเป็นปกติ แต่คนที่กำลังถือโทรศัพท์ชะงักมือที่กดถ่ายเอาไว้ ค่อยมองพวกเขาผ่านจอสี่เหลี่ยม
เห็นความสุขที่ฉายออกทางแววตาของหมื่นฟ้าอย่างชัดเจน แตกต่างจากตอนที่อยู่กับหล่อนราวฟ้ากับเหว จนอดอิจฉาไม่ได้
“พอใจ”
“เล่นแบบนี้ใช่ไหม ลินจะจี้นะ” ไรลินยาโตกลับบ้างมีหรือที่จะยอมให้พี่ชายแกล้งฝ่ายเดียว นอกจากเขาจะล็อคคอหล่อนแล้วยังยีผมที่ดัดลอนสวยงามให้ยุ่งอีกต่างหาก เธอไม่มีทางยอมเป็นคนถูกกระทำฝ่ายเดียวแน่
“พี่ไม่ได้บ้าจี้สักหน่อย”
“ได้ ไม่บ้าจี้ใช่ไหม” แล้วหล่อนก็เริ่มจี้เอวพี่ชาย รู้จุดอ่อนเป็นอย่างดีว่าเขาบ้าจี้ เพียงเท่านั้นร่างสูงก็หัวเราะร่าแล้วรีบจับมือน้องเอาไว้
“ฮ่าๆๆ พอแล้วลิน พอแล้ว พี่ยอมแล้ว ยอมแพ้แล้ว” พูดยอมแพ้เสียงอ่อน ไหนจะแววตาหวานที่ใช้มองอีกฝ่ายจนเธอกลายเป็นอากาศของคนทั้งคู่
พิณพรลดมือลงอย่างเชื่องช้า มองรอยยิ้มของเขาที่ส่งให้ผู้หญิงคนอื่น ความอิจฉาเกาะกินใจเธอทั้งที่เคยคิดจะแอบรักเขาเงียบๆ ข้างเดียว แต่พอได้คืบก็จะเอาศอก ความต้องการเพิ่มจนอยากครอบครองรอยยิ้มนั้นเพียงผู้เดียว
จากที่ไม่คิดจะเรียกร้องอะไร...ก็เริ่มอยากให้เขามองแค่ตน
เห็นแก่ตัวมากเกินไปหรือเปล่า หมื่นฟ้าไม่ได้ขอให้เธอไปรักเขาสักหน่อย มันเป็นความรู้สึกของตนเพียงผู้เดียวก็คงต้องจัดการเอง
“ให้รู้ซะบ้างว่าเล่นกับใคร” ไรลินยายกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กกว่า กอดไหล่พิณพรแล้วพาลงไปข้างล่างบ้าน
พวกเขาเลือกจะไปสวนผลไม้แล้วสอยมะม่วงลงมากินกับพริกน้ำปลาหวานที่ป้าม่านทำเอาไว้ คำแรกติดใจจนต้องต่อคำสอง จนหมดมะม่วงไปสี่ลูก
“เวลาท้องต้องกินของเปรี้ยวขนาดนั้นเลยเหรอพี่ลิน” เห็นแล้วก็เข็ดฟัน ลองชิมแค่คำเดียวเปรี้ยวจนต้องคายทิ้ง เธอจึงเลือกกินลูกที่หวานอมเปรี้ยว รสชาติกำลังพอดี
“ก็แล้วแต่คนนะ สำหรับพี่ของเปรี้ยวก็เหมือนของหวาน กินแล้วรู้สึกสดชื่นหายวิงเวียน ยิ่งกินยิ่งอร่อยแบบหยุดไม่ได้ ลองท้องสิจะได้รู้” เริ่มเป็นกามเทพอีกครั้งแต่พิณพรจำต้องส่ายหน้าปฏิเสธ ถึงจะอยากลองเป็นแม่ของลูกดูบ้าง
แน่นอนว่าพ่อของเด็กต้องเป็นหมื่นฟ้า แต่เกรงว่าหล่อนอาจคิดไปคนเดียว
“ไม่เอาหรอกค่ะ เพลงยังไม่พร้อม” ตอบเสียงอ้อมแอ้มแล้วหยิบมะม่วงจิ้มกับพริกน้ำปลาหวานกินอย่างเอร็ดอร่อย
“แสดงว่ามีคนที่จะทำลูกด้วยแล้วเหรอ ฮั่นแหน่ๆๆ แอบคบใครอยู่หรือเปล่า” กระเซ้าพลางยิ้มล้อเลียน
“เปล่าค่ะ ไม่มีหรอก” ถึงอยากบอกใจจะขาดว่าเป็นใครแต่ทำได้เพียงส่ายหน้า เหลือบมองร่างสูงที่ยังคงนั่งเหมือนเดิม เขาไม่มีความรู้สึกหรืออย่างไรนะ
“งั้นสนใจพี่ชายพี่ไหม พี่ฟ้าโสดสนิทเลยนะ” รีบนำเสนออยากรวดเร็ว จนร่างบางขวยเขินทว่าไม่นานความฝันกลับถูกดับสลายอย่างรวดเร็วเมื่อเจ้าตัวเอ่ยปัดให้พ้นตัว
“ไม่เอา พี่ไม่อยากมีแฟน” มองดวงตาคมที่ไม่มีวี่แววว่าจะล้อเล่น เธอจึงทำได้เพียงก้มหน้าแล้วหยิบมะม่วงมากิน ความอยากเริ่มลดลงเสียแล้ว บรรยากาศดูจะอึดอัดขึ้นมาทันทีจนไรลินยาต้องรีบชักจูงเขาให้คล้อยตาม
“โธ่พี่ฟ้า จะอยู่คนเดียวจนแก่หรือไง”
“อือ จะอยู่เล่นเป็นคุณลุงให้ลูกของลินจนแก่เลย” รอยยิ้มหวานถูกส่งให้ว่าที่คุณแม่ พิณพรเริ่มมั่นใจแล้วว่ากำแพงในใจเขาที่ตนคิดว่าลดลง...มันไม่ใช่สักนิด
ทุกอย่างคือเธอคิดไปเองทั้งหมด เขาไม่เคยรักหรือเสน่หาในตัวของหล่อนเลย